เพิ่งพูดจบ
เพียงเห็นนักบู๊คนหนึ่งบุกไปแล้ว
ไม่นาน
นักบู๊คนนี้บุกมาถึงด้านหน้าประตูของสุสานแล้ว
ระหว่างนั้นไม่ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดใด ๆ ขึ้น
ทั้งหมดต่างก็คลื่นลมสงบเงียบ!
“ฮ่า ๆ ๆ !”
นักบู๊คนนั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดัง พูดว่า“พวกแกไอ้โง่กลุ่มนี้ ดูแล้วสุสานนี้ก็แค่นี้ล่ะ! พวกแกไม่กล้ามาก็อย่าโทษกูลงมือรวดเร็วบรรลุเป้าหมายก่อน เอาชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรใส่เข้ากระเป๋าก่อนแล้ว!”
ได้ยิน
นักบู๊คนอื่น ๆ ทยอยมองฝ่ายตรงข้ามแวบหนึ่งแล้ว
มองเห็นนักบู๊คนนั้นไม่มีอันตรายใด ๆ ในใจของทุกคนอดไม่ได้ที่จะเตรียมจู่โจม
ฟืบ!
ฟืบ!
ฟืบ!
……
ในที่สุด
คนส่วนหนึ่งก็อดไม่ได้แล้ว
เพียงแค่เห็นเงาแต่ละคนบุกไปแล้ว
ครั้งนี้
บุกไปนับร้อยคน
คนเหล่านี้ยังคงไม่มีเรื่องอะไร
และหยางเฟิงยังคงมีใบหน้าที่เย็นชา สองมือวางที่ด้านหลัง
จางเทียนซานที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะถามอย่างร้อนใจว่า“เจ้าพันธมิตรหยาง พวกเราไม่บุกไปเหรอ? ถ้าหากชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรถูกคนแย่งไปแล้วจะทำยังไง?”
สำหรับจางเทียนซานกลับไม่มีความโลภอะไรต่อชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกร
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากได้ชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกร แต่เขารู้ว่าตัวเองไม่มีพลังนั่นที่จะแย่งชิงชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรมาได้
แต่ถ้าหากหยางเฟิงสามารถแย่งชิงชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรมาได้
พลังของหยางเฟิงก็จะเปลี่ยนเป็นยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น
อย่างนั้นเขาอยู่กับหยางเฟิงก็ยิ่งปลอดภัย!
หยางเฟิงพูดสบาย ๆ “ใจร้อนอะไร? คนกลุ่มนี้ก็เพียงแค่เป็นทหารที่ส่งไปตายเท่านั้น หรือว่านายต้องการบุกไปรนหาที่ตายเหรอ?”
อ๋า?
ได้ยินคำพูดนี้
จางเทียนซานหุบปากไม่กล้าพูดแล้ว
และที่หยางเฟิงนิ่งเฉยอย่างนี้
ที่พักพึงที่ใหญ่ที่สุดของเขาก็คือเย่หลง
จิ้งจอกแก่คนนี้มีแผนการที่ลึกล้ำยากจะคาดเดาได้
ต้องรู้ว่า
ในสุสานนี้ที่ฝังเป็นบรรพบุรุษของเขา
เขาต่างก็มั่นคงเหมือนภูเขา
ตัวเองทำไมต้องร้อนรนด้วย?
มองเห็นคนนับร้อยนี้ต่างก็ไม่มีอันตราย
มีสองสามร้อยคนอีกที่อดทนไม่ไหวบุกไป
เวลานี้หน้าประตูสุสานได้รวมตัวนับพันคนแล้ว
มองเห็นที่นี่
คนของกุ่ยเหมินกับศูนย์พันธมิตรบู๊ต่างก็เตรียมที่จะจู่โจมแล้ว
“คุณหนูใหญ่ พวกเราต้องบุกไปไหม?” สวีโหย่วหรงถามอย่างแปลกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...