ถ้าไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของเขา เกรงว่าคงจะไม่สามารถปีนขึ้นไปได้เลย
แต่เขาในตอนนี้ ก็ใช้พลังอยู่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น!
และการปีนขึ้นบันไดสวรรค์นี้ ก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว
เพราะหยางเฟิงพบว่า
การปีนขึ้นบันไดสวรรค์นี้ มีผลอย่างมากต่อการฝึกร่างกาย
แกร่ก!
แกร่ก!
แกร่ก!
แรงกดดันอันมหาศาล ทำให้กระดูกในร่างกายของหยางเฟิงส่งเสียงดังออกมา
ฉากนี้
ถ้าหากสามารถให้คนเข้าไปได้ดูใกล้ๆ ได้
จะต้องตกใจจนอ้าปากค้างเป็นแน่!
หยางเฟิงกำลังใช้พลังของบันไดสวรรค์ เพื่อฝึกฝนร่างกายของเขา!
หากไม่เช่นนั้นแล้ว
เกรงว่าเขาจะไปไกลไม่เห็นฝุ่นตั้งนานแล้ว และทิ้งห่างผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉานไว้เบื้องหลังไกลๆ!
ส่วนผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉานนั้น
ต่างก็อยู่ในสภาพที่น่าเวทนา
ผู้คุมกฎสิบมีเหงื่อไหลออกมาจากบนหน้าผากไม่หยุด
เขาหายใจหอบแรง
เงยหน้าขึ้น
มองไปที่หยางเฟิง ซึ่งอยู่ข้างหน้าเขาประมาณเจ็ดถึงแปดขั้นบันไดหิน
ใบหน้าของใบหน้าของผู้คุมกฎสิบ ปรากฏความคับแค้นใจออกมา
เดิมทีเขาคิดว่าความแข็งแกร่งระหว่างเขากับหยางเฟิงคงไม่น่าต่างกันมาก
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า
ความแข็งแกร่งของเขากับหยางเฟิงนั้น ยังห่างกันอยู่พอสมควร
ถ้าให้ผู้คุมกฎสิบรู้ว่า
จนถึงตอนนี้ หยางเฟิงใช้กำลังเพียงแค่ครึ่งเดียว เกรงว่าเขาจะตกใจจนฉี่ราดทันที
ต้องรู้ว่า
ผู้คุมกฎสิบใช้พลังถึง 80% ของเขา จึงจะพอยืนหยัดต่อไปได้!
ส่วนเหลิงฉานที่อยู่รั้งท้ายนั้น
เหงื่อบนร่างกายของเขา ทำให้เสื้อผ้าของเขาเปียกโชกไปหมด
ขาทั้งสองข้างของเขาสั่นเทาไม่หยุด
เขาใช้พลังไปเกือบทั้งหมดที่มีแล้ว
เป็นแบบนี้ต่อไป
เขาจะเป็นคนแรกที่แพ้ไป
เมื่อคิดได้เช่นนั้น
ความไม่เต็มใจปรากฏบนใบหน้าของเหลิงฉาน
หากแพ้ไปทั้งอย่างนี้
งั้นเขาก็ต้องกลายเป็นตัวตลกน่ะสิ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...