“สมควรตาย! มึงสมควรตาย!”
ผู้คุมกฎสิบเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาราวกับจะฉีกกระชากชั้นบรรยากาศและนำพามาซึ่งแต่โทสะและความโกรธา
ลูกกระสูนบินเหล่านี้ ไม่มีทางโจมตีโดนผู้คุมกฎสิบได้อยู่แล้ว
ท้ายที่สุด
การมาเยือน ณ เขตแดนแห่งนี้ของผู้คุมกฎสิบ
การใช้อาวุธความร้อนธรรมดาสังหารเขา แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“พยายามได้ดี”
เมื่อเห็นผู้คุมกฎสิบพรวดพราดเข้ามา
กัสสปะแสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยาม และมุ่งตรงขึ้นไปประจันหน้า
เป็นถึงหนึ่งในจตุขุนพลภายใต้อำนาจของหยางเฟิง เขาผู้ที่ลี้ลับซับซ้อน จะให้ไร้ซึ่งพละกำลังความสามารถได้อย่างไรเล่า?
ตูม!
เสียงดังสนั่นก้องฟ้า
กำปั้นคู่ของกัสสปะและผู้คุมกฎสิบปะทะกัน
ภายใต้ฟากฟ้า
บรรยากาศแต่เดิมที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้น ท้ายที่สุดก็กระจัดกระจายจนหายไป
ช่องว่างกลางระหว่างคนทั้งสอง
พลันก่อเกิดเป็นเกลียวคลื่นพายุทราย
โครม!
หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่
ทั้งสองก็ผละตัวออกจากกัน
กัสสปะถอยหลังไปสองสามก้าว
บนใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความหวาดผวา
พละกำลังนี้ของผู้คุมกฎสิบ เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้เลย
มิน่าเล่าถึงได้ก่อความยุ่งยากแก่ท่านแม่ทัพได้
สำหรับผู้คุมกฎสิบแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่เหลือทน
ร่างของเขาลอยกลับหัว เลือดสดที่ปะปนคลุกเคล้ากับชิ้นส่วนของตับไตไส้พุง ฉีดพ่นออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ก่อนหน้านั้น ครั้งเมื่อเขาต่อสู้กับหยางเฟิง
ก็ถูกหยางเฟิงโจมตี และได้รับบาดเจ็บ
มาวันนี้ก็ได้สู้กับกัสสปะอีก
นี่ยิ่งทำให้บาดแผลในร่างกายของเขา ร้ายแรงขึ้นไปอีก
“ช่างเป็นผู้ที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้”
“ต้าเซี่ยแห่งนี้ กองทัพผู้ทำสงครามที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ปรากฎขึ้นตั้งแต่เมื่อใดกัน? เกรงว่าวันเวลาในต้าเซี่ยนี้ คงจะแปรเปลี่ยนไปเสียแล้ว ”
แม้ผู้คุมกฏสิบจะได้รับบาดเจ็บ แต่สติสัมปชัญญะของเขายังคงชัดเจน เขาอาศัยความเร็วในการถอยหลังของร่างกาย วิ่งหนีไปราวสุ้มเสียงที่รวดเร็ว
เขาทราบดี
ถ้าตนไม่หนี ก็มีแต่ต้องตาย!
สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงก็คือ
ด้วยพละกำลังอันสง่าผ่าเผยของผู้คุมกฎสิบแห่งกุ่ยเหมินเช่นเขา กลับไม่รู้จักต้าเซี่ย เมื่อใดปรมาจารย์ที่ไม่มีผู้ใดทัดเทียมจะปรากฏตัวอีกครั้ง
ดูท่าทางแล้ว อย่างไรเสียก็ยังเป็นคนของกองทัพ
หากบอกให้เขารู้ กัสสปะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของหยางเฟิง และยังเป็นหนึ่งในจตุขุนพลอีกด้วย เกรงว่าจะตกตะลึงจนกรามค้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...