เย่หลงยิ้มเล็กน้อย
ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรชิ้นนี้เป็นสมบัติของโลกบู๊
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนมากมายเท่าใดที่ต้องเสียสละชีวิตให้มัน
ท่าทางของหยางเฟิงเช่นนี้ก็เป็นเรื่องปกติ
ทันใดนั้น
เย่หลงสีหน้าจริงจังพลางพูดว่า “หยางเฟิง ข้าขอฝากชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรนี้ไว้กับเจ้า มันถูกทิ้งไว้โดยบรรพบุรุษของข้า และข้าหวังว่าเจ้าจะดูแลมันอย่างดี
“หากวันใด เจ้าใช้เศษเสี้ยวของชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรเพื่อทำสิ่งที่ผิด แม้ข้าจะมอดม้วยมรณา ข้าก็จะตามรังควาญเจ้า!”
เมื่อพูดจบ
สายตาของเย่หลงพลันเปล่งรังสีแห่งความสะพรึงกลัว
หยางเฟิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมพลางพูดว่า " นายท่าน ไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรอย่างดี และข้าจะไม่ยอมให้ใครใช้การชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรเพื่อทำความชั่วร้ายเป็นอันขาด!"
เมื่อได้ยินดังนั้น
พลังลมปราณของเย่หลงค่อยๆหรี่แสงลง ราวกับว่าเขากลายเป็นชายชราธรรมดาอีกครั้ง
“นี่เป็นความมุ่งมั่นเล็กๆ ของข้า นายท่านได้โปรดรับมันไว้ด้วยเทอญ!”
หยางเฟิงเก็บชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรอย่างเคร่งขรึม
เขาหยิบเช็คเงินสดอีกหนึ่งพันล้านใบจากกระเป๋าของเขาแล้ววางลงบนโต๊ะ
หยางเฟิงเคยคิดที่จะปิดล้อมหุบเขา
ปัจจุบันเขาได้รับเงินพันล้าน
ช่วยเย่เวิ่นทำนุบำรุงกงเต๊ก
ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
เย่หลงเหลือบมองไปยังเช็คเงินสด แต่เขากลับไร้ซึ่งความเกรงใจ และหยิบมันขึ้นมาดู
เทียบกับชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรแล้ว
หนึ่งพันล้านเป็นแค่เงินเพียงเล็กน้อย
“จริงด้วย! นายท่าน ข้ายังมีสิ่งนี้!”
อยู่ๆ หยางเฟิงก็คิดอะไรออก
เขานำตำราหมัดหย่งชุนออกออกมาจากอกของเขา
เมื่อเห็นตำราหมัดหย่งชุน เย่หลงตกอยู่ในภวังค์แห่งการพิจารณา
ไม่นานนัก
เขาถอดหายเบาๆพลางพูดว่า “ตำราหมัดมวยนี้เจ้าเอาไปเถอะ!”
“นายท่าน ข้าจะรับไว้ได้เยี่ยงไร นี่มันคือสมบัติล้ำค่าของตระกูลท่าน?”หยางเฟิงไม่เข้าใจ น้ำเสียงแสดงความตื่นตกใจ。
“เหอะ เหอะ!”
เย่หลงหัวเราะเยาะกับตัวเอง พลางพูดว่า “ถ้าเป็นสิบปีก่อน ตำราหมัดมวยเล่มนี้ข้าไม่มีทางให้เจ้าเด็ดขาด! แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ข้าแก่แล้ว ไม่มีทั้งเวลาและพละกำลังที่จะสอนหมัดหย่งชุนแก่ชาวบ้านตระกูลเย่แล้ว”
“ในเมื่อพวกเขาคุ้นเคยที่จะเป็นชาวนา งั้นข้าก็จะไม่รบกวนชีวิตพวกเขาอีก!”
นี่คือตัวเลือกแห่งกาลเวลา
เมื่อไร้ซึ่งโอกาสแห่งโชคชะตาแล้ว
ก็อาจจะมอดม้วยมรณา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...