นี่ทำให้เสือขาวรู้สึกงงงวยเป็นอย่างมาก
ในขวดน้ำเต้าของหยางเฟิงซื้อยาอะไรมากันแน่?
ถ้าหากเป็นเพียงแค่การรับมือกับสถาบันวิจัย จำเป็นต้องยุ่งยากขนาดนั้นเชียวรึ?
ถึงทำให้เขาต้องโทรมา
ถ้าเป็นเช่นนั้นผู้บังคับบัญชาของสถาบันวิจัย ยังจะกล้าขัดขืนไม่ส่งข้อมูลมาหรือไม่?
หยางเฟิงสีหน้าเรียบนิ่งพลางพูดว่า“การที่ข้าอนุญาตให้สำนักหงกลับไป ไม่เพียงแต่เป็นการหาข้อมูลในการวิจัยเท่านั้น แต่เป็นการจัดการกับชิงเฉิงกรุ๊ป”
ความจริงแล้วหยางเฟิงยังมีอีกหนึ่งประโยคที่ไม่ได้พูดออกไป
นั้นก็คือน้ำใสไหลเย็น แต่ไร้ซึ่งมวลมัจฉา
เมื่อก่อน เขาทำลายแก๊งเขียวแห่งหูไห่และสี่ตระกูลใหญ่ และบีบบบังคับให้สำนักหงกลับไป
ทำให้ทั้งหูไห่สีเทาราบเป็นหน้ากลอง
แต่ทว่าบนโลกใบนี้ มีที่ส่องสว่างย่อมมีที่มืดมิด
แก๊งเขียวก็มิมีแล้ว
พวกตัวตลกที่ช้ามพรมแดนไปมา ทำให้ทั้งแถบหู้ไห่อยู่ในความไม่สงบ
สู้กลับไปที่สำนักหงยังจะดีเสียกว่า
ให้เฉินตงเป็นตัวแทนในการเป็นผู้ส่งสารแทนตนเอง
เชื่อมั่นว่าเฉินตงเป็นคนที่เฉลียวฉลาด
รู้ว่าควรเลือกชีวิตแบบใด
หยางเฟิงเหลือบมองตึกใหญ่ของสถาบันวิจัย
มิได้สนใจอันใดมาก ให้เสือขาวขับรถออกไป
บุคคลที่เล็กจ้อยเช่นนี้ ไม่จำเป็นให้เขาต้องลงมือเอง
บนตึกของสถาบันวิจัย
จางหมิงเห็นรถของหยางเฟิงแล่นออกไป
พลันปรากฏสีหน้ารอยยิ้มแห่งการเยาะเย้ย
ถ้าหากว่าเขาไม่ให้
เฟิงเมิ่งกรุ๊ปก็ไร้ซึ่งหนทางแล้ว
เขารู้ดีว่าเฟิงเมิ่งกรุ๊ปไม่ช้าก็เร็วจะต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรม
ให้อภัยพวกเขาไปราวครึ่งเดือน
รอหลังจากที่สินค้าใหม่ของชิงเฉิงกรุ๊ปออกวางจำหน่าย
ค่อยมาประชันว่าเฟิงเมิ่งกรุ๊ป
เมื่อถึงครานั้น จะต้องจัดการให้สาสมใจกันเลยทีเดียว
เมื่อคิดได้ดังนี้
จางหมิงก็แสดงสีหน้าดีใจ
เขาเอนกายที่โซฟา ใช้นิ้วหนีบบุหรี่ขึ้นมา 1มวน นั่งรออย่างสงบให้เย่เมิ่งเหยียนมาขอความช่วยเหลือจากตัวเองอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน
สนามบินนานาชาติหู้ไห่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...