Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 100

ตอนที่ 100 คุณคิดว่าคุณตลกมากใช่ไหม

อย่าตื่นตระหนก

ฉันอ่านผิดไป

ต้องอ่านผิดแน่ๆ

เฉินจื้ออวี่สงบสติอารมณ์ ถึงขั้นที่ฉีกยิ้มให้กำลังใจตนเอง ก่อนจะมองอีกรอบ แล้วรีบเบือนหน้าหนี

หน้านิ่วคิ้วขมวด

แบบนี้ก็ได้เหรอฟระ!

ทำไมเป็นเพลงของเซี่ยนอวี๋!

ความรู้สึกของเฉินจื้ออวี่ประเดประดังเละเทะไปหมด ก่อนหน้านี้ผู้จัดการบอกว่านักร้องที่สตาร์ไลท์เอามาแทนจินซูอวี่ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง นักร้องตัวเล็กๆ ที่ชื่อซุนเย่าหั่วนั่นไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงก็จริง แต่ปัญหาคือใครเป็นคนเขียนเพลงของซุนเย่าหั่ว

เซี่ยนอวี๋ไงล่ะ เซี่ยนอวี๋!

คนที่เฉินจื้ออวี่หวาดกลัวที่สุด!

ถ้าเทียบกับเซี่ยนอวี๋แล้ว เฉินจื้ออวี่ยอมเจอกับจินซูอวี่ยังจะดีกว่า อย่างน้อยทุกคนจะได้แข่งกันด้วยความสามารถ

แต่เซี่ยนอวี๋น่ากลัวเกินไป

คนคนนี้ใช้กฎเกณฑ์ทั่วไปมาตัดสินไม่ได้!

หรือว่าฉันจะทำพังอีกล่ะเนี่ย

เฉินจื้ออวี่รู้สึกตนตื่นตระหนก

แต่ตื่นตระหนกไปได้สิบวินาที เฉินจื้ออวี่ก็ค่อยๆ ใจเย็นลง

เขาพรูลมหายใจออกทันใด ชั่วขณะนั้นก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองไม่ได้เรื่องนิดหน่อยแล้ว “ฉันเป็นนักร้องแถวหน้าเลยนะ เซี่ยนอวี๋ยังกล้าเมินความต่างชั้นของนักร้อง คิดจริงๆ เหรอว่านักร้องแถวหน้าอย่างพวกเราทำอะไรไม่ได้เลยหรือไง เรื่องแบบนี้อย่างมากก็เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ”

เหตุผลง่ายมาก

ที่ตนหวั่นกลัวได้ขนาดนี้ ก็เพราะครั้งก่อนเซี่ยนอวี๋ทำเสียเรื่อง

ฉะนั้นแล้วพอเห็นสองคำนี้ก็นึกถึงแต่ความทรงจำเลวร้ายทั้งนั้น สิ่งที่ทำให้เขากลัวไม่ใช่เซี่ยนอวี๋ หากแต่เป็นความทรงจำอันชอกช้ำยามหวนระลึกนั่นต่างหาก

พูดแบบนี้ฟังดูมีชั้นเชิงสักหน่อย

แต่ความจริงแล้วไม่ได้มีอะไรให้กลัวเลย

ก่อนหน้านี้จ้าวอิ๋งเก้อแม้จะไม่ใช่นักร้องแถวหน้า แต่ก็มีหน้ามีตาในฐานะผู้ชนะจากรายการสะพรั่งคอยเกื้อหนุน นับว่าเป็นคนมีชื่อเสียงอยู่บ้าง พอจะเรียกได้ว่าเป็นตัวท็อป เซี่ยนอวี๋ให้เพลงเธอร้องก็ใช่ว่าจะไร้ประสิทธิผล

ซุนเย่าหั่วล่ะ?

ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรเลย

เดินไปตามถนนในเมืองก็แทบจะไม่มีใครรู้จักว่าเขาเป็นนักร้อง ต่อให้มายืนต่อหน้าเฉินจื้ออวี่ เขาก็ไม่มีทางรู้จักว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

แบบนี้ก็ดี

สะดุดล้มตรงไหนก็ลุกยืนขึ้นตรงนั้น[1]แหละ!

เฉินจื้ออวี่รู้สึกว่าตนสบายใจแล้ว เก็บเมาส์จัดวางอย่างไม่รีบร้อน พลางสวมหูฟังซึ่งวางไว้ข้างเมาส์ “มาฟังเพลงครั้งนี้ของนายกันดีกว่า อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ”

เขากดเปิดเพลงกุหลาบแดง

บทเพลงเริ่มเปิดด้วยทำนองเปียโนทั่วไป เป็นทำนองที่พบเห็นได้บ่อยเสียยิ่งกว่าบ่อย ตนเองก็บรรเลงทำนองพรรค์นี้ได้ง่ายๆ

แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ

เฉินจื้ออวี่แสยะยิ้มราบเรียบ

เสียงเปียโนค่อยๆ หยุดลงอย่างแผ่วเบา เสียงทุ้มหนาก็ดังขึ้น “ความฝันในฝันที่ไม่ตื่นจากฝัน สีแดงถูกเหนี่ยวรั้งในด้ายแดง ตื่นเต้นเหลือเพียงความเจ็บปวดไร้เรี่ยวแรงแล้วก็ไม่แยแส”

แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ!

เฉินจื้ออวี่ยังคงรักษายิ้มบางบนใบหน้า ฟังเพลงต่อ “ยามที่โอบกอดเธอจากด้านหลัง ที่คาดหวังกลับไม่ใช่ใบหน้าเธอ ช่างเย้ยหยันจริงนะเออ ฉันไม่รู้แต่ยังหวังเธอเข้าใจ”

แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ!!

รอยยิ้มของเฉินจื้ออวี่แข็งค้างไปแล้ว แต่เขากลับดึงดันไม่ยอมให้มันเลือนหายไป ท่อนคอรัสของเพลงกุหลาบแดงก็ดังขึ้นในโสตประสาท “ใช่หรือว่าความสุขบางเบาเหลือทน หลอกใช้กันไปแล้วจะไม่ทุกข์ตรม แววตาว่างเปล่ามองมาแสนทุกข์ระทม สุดท้ายไม่เหลือ สุดท้ายแล้วจบไม่ลง”

แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ!!

เฉินจื้ออวี่กัดฟันกรอด ออกแรงหยิกหน้าขาของตน สีหน้าของเขาเบี้ยวบูดขึ้นเรื่อยๆ ยามบทเพลงดำเนินไป “ไม่ได้มาครอบครองก็ต้องมืดมัว ได้รับความรักไปก็ไม่ต้องกลัว กุหลาบสีแดงฝันจางสลัว มือประสานไหลรินจากรอยร้าวรั่ว หมดความหมาย”

แต่…

แต่ก็…

นี่มันอะไรกันฟระเนี่ย!

เฉินจื้ออวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป

ไม่ข่งไม่แข่งมันแล้วโว้ย พอใจยัง!

เขารีบถอดหูฟังออก ปิดหูของตนแน่น ในตอนนั้นเองผู้จัดการเข้ามาพอดี ยิ้มบางเอ่ยว่า

“จื้ออวี่ฟังเพลงยัง?”

เห็นได้ชัดว่าคลื่นลูกนี้สงบแล้ว!

เพื่อที่จะเฉลิมฉลองบัลลังก์แชมป์ ในมือของผู้จัดการถึงกับมีแก้วสองใบกับไวน์แดงอีกหนึ่งขวด มาถึงบ้านของเฉินจื้ออวี่เวลาเที่ยงคืนพอดิบพอดี และเป็นเพราะสนิทสนมกันมาก ดังนั้นเขาจึงมีกุญแจบ้านของศิลปินในสังกัด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน