ตอนที่ 1142 ต้อยต่ำ
มีการมากดไลก์ด้วย!
หมอนี่แอบส่องอยู่ตลอดเลยนี่นา!
พื้นที่แสดงความคิดเห็นโดนถล่มยับก็ยังทำเป็นแกล้งตาย สุดท้ายความจริงถูกเปิดเผยเพราะไลก์เดียวแท้ๆ ผู้อ่านจากทุกทวีปถึงกับสับสนวุ่นวายไปหมดในทันที!
‘อะไรของเขาเนี่ย?’
‘หรือว่าเริ่มรู้สึกผิดแล้ว?’
‘ยังมีหน้ามากดไลก์อีกเหรอ’
‘เรื่องทั้งหมดมันฝีมือคุณไม่ใช่หรือไง!’
‘สำนักพิมพ์ออกมาช่วยแก้ต่างแทน ตัวเองกลับเอาแต่เงียบ’
‘เชอะ!’
‘เจ้าแก่ฉู่ขวง!’
“ถึงจะยังเสียใจอยู่มาก แต่ก็เข้าใจแล้ว นี่แหละคือเส้นทางของการเติบโต’
‘แฮร์รี่โตขึ้นจริงๆ แล้ว’
‘ซิเรียส แบล็ก ผู้อยู่ในใจเราตลอดไป!’
‘ฉันแค่อยากให้ความเจ็บปวดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของแฮร์รี่
หวังว่าเนื้อเรื่องต่อไปจะให้เขาได้ล้างแค้นด้วยมือของตัวเอง!’
‘แฮร์รี่น่าสงสารจริงๆ ’
‘พ่อแม่ตายเพราะโวลเดอมอร์ แม้แต่ซิเรียส แบล็กที่เปรียบเสมือนพ่ออีกคนของเขา ก็ยังต้องมาตายเพราะโวลเดอมอร์แบบกลายๆ อีก ฉันเกลียดลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนั้นเข้าไส้เลยจริงๆ !’
น่าคับแค้นใจ
เอาเถอะ
ความจริงก็คือ ไม่ว่าใครจะโวยวายอย่างไรการตายของซิเรียส แบล็กก็ได้กลายเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้เสียแล้ว
ทุกคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจ
แฮร์รี่ พอตเตอร์ตั้งแต่ภาคนี้เป็นต้นไปจะไม่ใช่วรรณกรรมสำหรับเด็กที่สดใสอีกต่อไป
แต่คือนิยายแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยความมืดมนและหนักหน่วง
จุดเปลี่ยนเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วด้วยซ้ำและแม้แต่ในตอนท้ายของภาคก่อนหน้านี้ ก็มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าให้เห็น
เมื่อมองย้อนกลับไปดูสี่ภาคก่อนไม่มีภาคไหนเลยที่บรรยากาศจะมืดมนเหมือนภาคนี้
ภายใต้โทนมืดมนเช่นนี้ แม้การตายของซิเรียสจะทำให้ตกตะลึงและเจ็บปวดแต่ก็ไม่ได้ดูขัดแย้งกับเนื้อหาโดยรวม
ตรงกันข้าม ถ้าภาคนี้จบลงอย่างมีความสุข ก็อาจจะทำให้บรรยากาศหดหู่ซึ่งปูทางมาตลอดทั้งเรื่องอาจสูญเปล่า กลายเป็นเรื่องราวที่หัวหนักแต่หางเบา
พูดอีกอย่างคือ
หลังจากที่แนวทางของเรื่องราวเปลี่ยนแปลงไปอย่างเงียบๆ แล้ว การที่ไม่มีใครตายต่างหากที่ไม่ปกติ
แม้ว่าในแง่ของความรู้สึกแล้ว ผู้อ่านบางคนจะไม่สามารถทำใจยอมรับได้ในทันทีก็ตาม
…
แน่นอนว่าการตายของซิเรียส แบล็ก ย่อมก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ และหลินเยวียนก็รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ดังนั้นเขาจึงคอยเฝ้าสังเกตปฏิกิริยาของผู้อ่านอยู่เงียบๆ
เมื่อเห็นแม้แต่เหล่าแฟนคลับเก่าแก่ที่ตามอ่านมานานยังสติแตก เขาก็ส่ายหัวเบาๆ
พวกเขายังใจไม่แข็งพอสินะ
ภาคห้าก็ทนไม่ไหวกันแล้วหรือ?
แล้วภาคหกจะทำยังไง?
ภาคเจ็ดจะไปต่อกันยังไงดี?
อันที่จริงตอนนี้หลินเยวียนได้เริ่มเขียนภาคหกของแฮร์รี่ พอตเตอร์แล้ว ชื่อว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม
นี่คือภาครองสุดท้ายของนิยายชุด และเนื้อหาหลักจะโฟกัสที่การสร้างตัวละครสเนป
ทั้งๆ ที่สเนปเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมสูงอยู่แล้ว!
ทำไมกันล่ะ
ก็เพราะว่าเขามีบทบาทเยอะแทบทุกภาค
เขาคืออาจารย์จอมเย็นชาที่ปากร้ายแต่ใจดี ด้วยบุคลิกที่เงียบขรึมและมืดมน จึงมักตกเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่เสมอ
ทำให้หลายคนสงสัยว่าเขาอาจจะเป็นคนไม่ดี
โดยเฉพาะในภาคห้า
ที่แฮร์รี่แอบโจมตีสเนป แล้วเผลอเห็นความทรงจำในอดีตของเขา
ที่แท้ ตอนที่สเนปยังเป็นวัยรุ่น เขาเคยถูกพ่อของแฮร์รี่กับกลุ่มเพื่อนกลั่นแกล้งอยู่สมัยเรียนที่ฮอกวอตส์
มิน่าล่ะ ทำไมเขาถึงดูเหมือนไม่ชอบแฮร์รี่มาโดยตลอด
ในชั้นเรียน แฮร์รี่ทำอะไรผิดนิดเดียว สเนปก็มักจะจับผิดไม่ยอมปล่อย
แต่ถึงเขาจะไม่ชอบแฮร์รี่ ทุกครั้งที่แฮร์รี่ตกอยู่ในอันตราย สเนปก็มักจะพุ่งเข้ามาช่วยเสมอ
ตอนที่แฮร์รี่ถูกโวลเดอมอร์พินิจใจ สเนปก็เป็นคนที่คอยสอนวิธีสกัดใจให้
เขาไม่เคยลืมหน้าที่ของตนเองในฐานะครู
เพราะแบบนี้
ผู้อ่านจำนวนมากจึงมักแซวว่าสเนปเป็นตัวละครประเภท ‘ซึนเดเระ’
แน่นอน
ขณะเดียวกันก็ยังมีอีกผู้อ่านอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยวางใจเขา คิดว่าสเนปไม่ใช่คนดี
อย่างไรเสีย เขาก็เคยเป็นผู้เสพความตายมาก่อน
จะว่าไปแล้ว
คำพูดของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูเมื่อครู่ก็พูดได้ดีเหมือนกันแฮะ
เล่นแย่งบทอี้อันไปซะอย่างนั้น
อืม
ต้องให้อี้อันออกมาเรียกกระแสบ้างแล้วละ ไม่อย่างนั้นเห็นทีจะกลายเป็นเงาจืดจางไปจริงๆ
…
มนุษย์มักหลงลืมอย่างง่ายดายจริงๆ ด้วย
ผู้อ่านซึ่งในตอนแรกทำใจไม่ได้กับการตายของซิเรียส แบล็ก หลังจากผ่านไปไม่กี่วัน อารมณ์พวกเขาก็เริ่มเย็นลง ถึงขั้นสามารถพูดคุยเกี่ยวกับพล็อตในเล่มที่ห้าได้อย่างใจเย็น
อย่างเช่น เส้นเรื่องความรักของแฮร์รี่
ความบาดหมางระหว่างสเนปและพ่อของแฮร์รี่
หรือว่าในเล่มถัดไปโวลเดอมอร์จะถึงจุดจบไหม
และการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศของเรื่องในภาคนี้
ประเด็นให้ถกเถียงมีมากมาย
มองจากมุมนี้ เหล่าผู้อ่านดั้งเดิมก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาความเข้มแข็งมากขึ้นจริงๆ
การแก้ต่างในครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จอยู่ไม่น้อย
คลังหนังสือซิลเวอร์บลูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก
อย่างน้อยก็ยังโชคดีที่ผู้อ่านไม่ลุกฮือขึ้นมาอีก!
สิ่งที่น่ากังวลก็คือฉู่ขวงนี่แหละ ก่อนหน้านี้หมอนี่เคยทำให้ผู้อ่านลุกฮือขึ้นมาประท้วงแล้วหลายครั้ง จนทางสำนักพิมพ์รู้สึกหวาดผวากันไปหมด
ทุกคนยังไม่ลืมเหตุการณ์การตายของเชอร์ล็อก โฮล์มส์เมื่อครั้งก่อน
ตอนนั้นหน้าประตูสำนักพิมพ์ถูกผู้อ่านที่เดือดดาลปิดล้อม เหล่าบรรณาธิการต้องทำงานแบบหวาดระแวงกันทุกวันเหตุการณ์นั้นก็กลายเป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียว
“โชคดีที่รอบนี้ผู้อ่านยังค่อนข้างมีเหตุผล”
“ตอนนี้ฉันเริ่มสงสารพวกที่แผนกนิยายแฟนตาซีแล้วละ”
“ได้ยินว่าพวกเขาเพิ่งได้ต้นฉบับแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์ไป ก็จัดประชุมยาวทั้งคืนเลย เพื่อวางแผนร่วมกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ว่าจะรับมือกับความโกลาหลจากฝั่งผู้อ่านยังไงดี”
“แต่ละคนก็อกสั่นขวัญแขวนไปเลยละ”
“คนเขียนไม่กลัวอะไรเลย แต่คนเป็นบก.นี่กลัวแทบตาย”
“คุณไม่รู้อะไร ตอนฉู่ขวงยังเขียนนิยายแนวสืบสวนสอบสวน แผนกนิยายสืบสวนสอบสวนก็เป็นแบบนี้เหมือนกันนั่นแหละ”
“เจ้าแก่ฉู่ขวงนี่ตัวแสบเลย”
“ไม่รู้เลยว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์เล่มถัดไป เจ้าแก่ฉู่ขวงจะก่อเรื่องอีกหรือเปล่า”
“แอบกลัวอยู่นิดๆ นะ”
“กลัวไปก็ไม่มีประโยชน์”
“สำนักพิมพ์อย่างเราน่ะ ไม่มีสิทธิ์ไปแทรกแซงงานเขียนของเจ้าแก่ฉู่ขวงได้เลย ตอนสมัยเรื่องกระบี่เทพสังหารที่เขาเขียนถึงตอนที่ปี้เหยาตาย บริษัทก็เคยพยายามเจรจาขอให้เขาเปลี่ยนเนื้อเรื่อง แต่เจ้าแก่ฉู่ขวงไม่แม้แต่จะยอมขยับเครื่องหมายวรรคตอนให้เลยด้วยซ้ำ”
“ตอนนี้ทำได้แค่ภาวนาให้หมอนี่เขียนอย่างเบามือหน่อยเท่านั้นเอง”
…
การพูดคุยและการบ่นภายในของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูนั้น หลินเยวียนไม่รู้อะไรด้วยเลย เพราะเขากำลังโฟกัสกับการเขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์เล่มที่หกอยู่
และในเวลาว่างจากการเขียนหนังสือ
หลินเยวียนก็ยังต้องแวะไปที่บริษัทบ้าง เพื่อพบปะพูดคุยกับผู้คน และเฟ้นหาคนดนตรีที่จะมาร่วมแสดงในคอนเสิร์ต ที่เขาวางแผนจะจัดขึ้นในปีหน้า
กระบวนการหาคนเป็นไปอย่างราบรื่น
เพียงแค่เอ่ยชื่อเซี่ยนอวี๋ก็เพียงพอแล้ว
เพราะบรรดาคนดนตรีระดับแนวหน้าของฉินโจว ส่วนใหญ่เคยเข้าร่วมมหกรรมดนตรีบลูสตาร์เมื่อปีก่อน
และถ้าเคยเข้าร่วมมหกรรมดนตรีบลูสตาร์ ก็เท่ากับเคยเข้าเรียนกับ เซี่ยนอวี๋ผู้เป็นถึงหัวหน้าโค้ชลำดับที่หนึ่งของฉินโจวมาแล้ว


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...