ตอนที่ 1164 เซี่ยนอวี๋ส่งเทียบเชิญ (1)
จงโจว
บรรดาผู้กำกับและนักเขียนบทที่ออกมาแดกดันเซี่ยนอวี๋และภาพยนตร์เรื่องคนเล็กหมัดเทวดาถึงกับมึนตึ้บกันไปหมด เมื่อเริ่มตั้งสติได้จึงรู้ตัวว่า…
“ไม่ใช่ละ”
“ทุกคนพากันรุมโจมตีเซี่ยนอวี๋ แต่เหมือนจะไม่ช่วยโปรโมตหนังของตัวเองเลยสักนิด กลับกลายเป็นว่าคนเล็กหมัดเทวดาได้อานิสงส์ไปเต็มๆ ?”
“สรุปคือพวกเราทำแอสซิสต์ให้เขาทั้งหมด?”
“เอาเถอะ แค่นั้นยังไม่พอ หมอนั่นยังเล่นทำแอนิเมชันออกมาอีกเนี่ยนะ?”
“ช่องเด็กหมายเลขสองของบลูสตาร์มีผู้ชมกระจายอยู่ทั่วทั้งแปดทวีปของบลูสตาร์ พระเอกของหนังใหม่ของเซี่ยนอวี๋กลับมาโผล่ในการผจญภัยของเฮ่อเซิ่งอีกรอบ แถมยังทำให้ผู้ชมรู้สึกเอ็นดูเขาโดยอัตโนมัติ แล้วก็เริ่มสนใจหนังเรื่องนั้นเข้าไปอีก!”
“รอบนี้ขาดทุนหนักเลยละ!”
“รับรองว่าในตอนต่อๆ ไปของแอนิเมชัน ต้องมีโปรโมตเรื่องคนเล็กหมัดเทวดาเพิ่มอีกแน่ๆ !”
“วิธีโปรโมตแบบนี้ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยนะ แต่ผลลัพธ์ก็เห็นๆ อยู่ตรงหน้าแล้ว!”
“ปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว!”
…
ผู้คนในวงการภาพยนตร์ต่างรู้ดีว่าการประชาสัมพันธ์มีความสำคัญมากแค่ไหน
ไม่อย่างนั้นทำไมทุกครั้งก่อนหนังเข้าฉาย ทีมงานถึงต้องตะบี้ตะบันเร่งโปรโมตกันด้วยล่ะ?
เพื่อให้การโปรโมตสัมฤทธิ์ผล พวกเขาสามารถได้ทุกอย่าง ทั้งสร้างกระแส หรือแม้แต่สาดโคลนใส่พวกเดียวกันเองก็ยังทำได้…
เช่น ปล่อยข่าวว่านักแสดงบางคนวางมาดเป็นซูเปอร์สตาร์
หรือปล่อยข่าวว่าพระเอกกับนางเอกอินกับบทจนรักกันจริงนอกจอ
ใช่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกระแสที่ดูเหมือนทำให้ตัวเองเสียหายหรือไม่ก็ตาม
แต่เพื่อให้ภาพยนตร์เป็นที่พูดถึง บางทีมงานถึงขั้นไม่สนศักดิ์ศรีตัวเองเลยก็ยังได้!
เพราะมีแค่การโปรโมตที่ทำออกมาได้ดีเท่านั้น จึงทำให้ผู้ชมจำนวนมากเริ่มให้ความสนใจตั้งแต่ก่อนหนังจะเข้าฉาย
นี่แหละ คือความสำคัญของการโปรโมต
หรือจะเรียกว่าคือการตลาดก็ว่าได้?
เพราะหากทำการตลาดเก่ง ต่อให้หนังจะห่วยแค่ไหน ก็ยังสามารถสร้างปาฏิหาริย์ด้านรายได้ได้เลย!
อย่างหนังเรื่องหนึ่งชื่อว่าดิ เอ็กซ์-ไฟล์ส 3 (The Ex-Files 3)
ตัวหนังคุณภาพก็แค่กลางๆ แต่สุดท้ายกลับกวาดยอดบ็อกซ์ออฟฟิศมหาศาล ก็เพราะทำการตลาดได้อย่างยอดเยี่ยม!
ตอนนั้นมีประเด็นโปรโมตแบบนี้ออกมา
‘คู่รักคู่หนึ่งดูเรื่องดิ เอ็กซ์-ไฟล์ส 3 แล้วทะเลาะกันในโรงหนัง ถึงขั้นต้องเรียกรถพยาบาล!’
หรือข่าวว่า
‘ชายหนุ่มคนหนึ่งพาแฟนไปดูหนังเรื่องนี้ หลังจากดูจบจึงโทรหาแฟนเก่า สุดท้ายทะเลาะกับแฟนปัจจุบันจนกระโดดตึก!’
ฟังดูแล้วเกินจริงใช่ไหมละ?
แต่ข่าวแบบนี้แหละ ที่กลายเป็นไวรัลที่ผู้คนอยากรู้และแชร์ต่อกันอย่างสนุกสนาน
เพราะสิ่งที่การตลาดพยายามจะส่งต่อให้กับผู้ชมก็คือ
‘ดูหนังเรื่องนี้แล้วมีโอกาสทะเลาะกัน คิดถึงแฟนเก่า อยากกลับไปรีเทิร์นกับแฟนเก่า’
ยิ่งกระแสพูดถึงแรงเท่าไหร่
คนก็ยิ่งอยากรู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้แรงจริงไหม
จะถึงขั้นทำให้คู่รักทะเลาะกันเพราะแฟนเก่า หรือเปิดศึกวุ่นวายในโรงหนังได้จริงหรือเปล่า?
ความสงสัยนี้เอง คือพลังขับเคลื่อนการตลาดที่น่ากลัวที่สุด
ส่วนเรื่องเหตุการณ์พวกนั้นจริงหรือไม่ ก็ไม่สำคัญแล้ว
บางทีทีมโปรโมตหนังอาจจะแค่จับกระแสได้ถูกจังหวะ แล้วก็ผลักดันต่อให้แรงขึ้นเท่านั้นเอง
เอาเป็นว่าสุดท้ายภาพยนตร์ก็ก็ดังเป็นพลุแตกไปแล้ว
แน่นอนว่า
ภาพยนตร์เรื่องนั้นไม่ได้ดังเพราะกระแสล้วนๆ ยังมีเพลงประกอบที่เป็นปัจจัยเสริมอีก
อย่างเพลง ‘ความเหมาะสม’
หรือ ‘บอกเลิกก็เลิก’อะไรแบบนั้น
ทั้งเนื้อร้องและทำนองล้วนแล้วแต่ทำออกมาได้ดี นับว่าเป็นเพลงคุณภาพสูง
เมื่อรวมองค์ประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน บวกกับตัวภาพยนตร์ที่คุณภาพถือว่าพอดูได้
ผลลัพธ์ก็คือรายได้ถล่มทลายเกินความคาดหมายของทุกคน
ไม่อย่างนั้นผู้กำกับกับนักเขียนบทจากฉินโจวจะว่างขนาดพากันมาเกาะกระแสเซี่ยนอวี๋ทำไม?
ก็เพราะพวกเขาต้องการกระแสนั่นแหละ!
กระแสของเซี่ยนอวี๋ ไม่เกาะฟรีก็เสียของ มาประเคนให้ตรงหน้าแล้ว จะไม่ใช้ให้คุ้มได้หรือ?
ก่อนที่ภาพยนตร์จะเข้าฉาย สิ่งที่ทุกฝ่ายกำลังทำก็คือสงครามการโปรโมต ถ้าคุณภาพของภาพยนตร์แต่ละเรื่องสูสีกัน ใครชนะในสงครามโปรโมต คนนั้นก็ถือว่ามีชัยไปครึ่งหนึ่งแล้ว!
และในตอนนี้ มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยก็คือ
ในสงครามโปรโมตที่วุ่นวายครั้งนี้ คนเล็กหมัดเทวดา ได้เปรียบขึ้นนำไปก่อนแล้ว
ความได้เปรียบประการแรกก็คือ บรรดาผู้กำกับและนักเขียนบทจากจงโจว ที่พากันมาเกาะกระแสแล้วโดนย้อนศร กลายเป็นว่าช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับคนเล็กหมัดเทวดาอย่างถล่มทลาย!
ความได้เปรียบประการที่สองก็คือแอนิเมชันการผจญภัยของเฮ่อเซิ่งที่แหวกแนวไม่เหมือนใคร ซึ่งทำให้พระเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
ส่วนความได้เปรียบประการที่สาม…
ยังไม่ปรากฏ แต่กำลังจะเริ่มต้น
ใช่แล้ว
หลังจากที่แอนิเมชันเรื่องการผจญภัยของเฮ่อเซิ่งออกอากาศ และโลกออนไลน์ก็กำลังถกเถียงกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
สตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์ก็ประกาศข่าวด่วนทันที ‘เวลาหกโมงเย็นพรุ่งนี้ ทีมภาพยนตร์เรื่อง คนเล็กหมัดเทวดา จะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ที่ศูนย์วัฒนธรรมฉินโจว โดยเซี่ยนอวี๋ นักเขียนบทหลักของเรื่อง พร้อมเพื่อนๆ ในวงการ เตรียมนำผลงานเพลงใหม่มาแสดงสด พบปะผู้ชมอย่างพร้อมหน้า!’
นี่แหละ คือความได้เปรียบลำดับที่สาม!
คือหมากตัวสำคัญ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...