Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 124

ตอนที่ 124 มิตรภาพดุจเหล็กกล้า

จางเหวินอู่และคณะจากสาขาการประพันธ์เพลงวิทยาลัยศิลปะฉินตงเผ่นไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ออกจากตึกเรียนของวิทยาลัยศิลปะฉินโจว บรรดาอาจารย์ก็ทนไม่ไหว

“เพลงนั้นสุดยอดมาก!”

“สรุปแล้วหลินเยวียนเป็นใครกัน”

“เก่งกว่าโจวอวี๋เชียวนะ”

“ถ้าจะบอกว่าหลินเยวียนเก่งกว่าโจวอวี๋ก็อาจไม่ได้ บางทีอาจเป็นเพราะนักศึกษาที่ชื่อหลินเยวียนทำผลงานได้โดดเด่นกว่าปกติ ดูจากปฏิกิริยาของซือเฉิงก็มองออกแล้วว่าหลินเยวียนไม่น่าจะเป็นนักศึกษาที่มีพรสวรรค์มีชื่อเสียงอะไรในสาขาการประพันธ์เพลง แต่พวกเราก็ต้องยอมรับว่าเพลงนี้เขียนได้ดีจริงๆ ในบรรดาเพลงให้กำลังใจ คุณภาพขึ้นไปท็อปสิบได้ไม่มีปัญหาเลย”

“ความฝันแรก?”

“ลำพังคำพูดนี้ เพลงความฝันแรกดีกว่าผลงานของโจวอวี๋จริงๆ ถึงอย่างไรก็เป็นวิทยาลัยศิลปะฉินโจว พวกเรามาที่นี่อยากจะมายั่วยุ นึกไม่ถึงว่าผลสุดท้ายกลับเป็นแบบนี้ เสียหน้ามากเลย”

“…”

เมื่อได้ฟังบทสนทนาของอาจารย์กลุ่มนี้ จางเหวินอู่ในใจรู้สึกซับซ้อน ตนประเมินวิทยาลัยศิลปะฉินโจวต่ำเกินไปจริงๆ นึกไม่ถึงว่าต่อให้วิทยาลัยของเขามียอดอัจฉริยะอย่างโจวอวี๋ ก็ไม่สามารถต้านทานพลังของอีกฝ่ายได้ นักศึกษาที่ชื่อหลินเยวียนคนนี้เป็นเทพเซียนมาจากไหนกันแน่นะ

ในอาคารเรียน

คำถามเดียวกันก็ดังขึ้นในห้องตรวจผลงานของสาขาการประพันธ์เพลง ซือเฉิงจ้องมองอาจารย์ที่กำลังจะทำงานเสร็จ ในน้ำเสียงระคนไปด้วยความตื่นเต้นที่ข่มกลั้นไว้ไม่อยู่ “ที่ปรึกษาเซคห้ามานี่หน่อยครับ”

“คณบดี!”

หวาลี่ที่ปรึกษาและอาจารย์ประจำสาขาของหลินเยวียนรุดเข้ามาหน้าซือเฉิง ใบหน้ายิ้มขื่น “หลินเยวียนเป็นนักศึกษาคลาสฉันเองค่ะ ผลการเรียนวิชาสาขาของเขาไม่เลว แต่ความสามารถด้านการแต่งเพลงเมื่อเทียบกับทั้งปีสองสาขาการประพันธ์เพลงแล้วไม่ได้โดดเด่น ฉันเองก็นึกไม่ถึงว่าผลงานประเมินประจำปีครั้งนี้ของเขาจะยอดเยี่ยมขนาดนี้ เมื่อกี้ตอนที่อาจารย์ผู้ตรวจผลงานเอ่ยถึงหลินเยวียน ฉันเองก็งงอยู่เหมือนกันค่ะ”

“หลินเยวียนไม่โดดเด่น?”

“ท่านหมายถึงด้านไหนคะ”

หวาลี่จมอยู่ในห้วงความคิด พลางนับนิ้ว “ถ้าพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอกละก็อยู่ระดับโดดเด่นทีเดียวค่ะ ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์กับคนในชั้นเรียนหลินเยวียนก็ดีมาก ต่อให้ดูจากฝีมือด้านจิตรกรรม หลินเยวียนก็จัดว่ามีฝีมือทีเดียว เขาช่วยให้คลาสฉันได้ที่หนึ่งตอนประกวดหนังสือพิมพ์กระดานดำ”

“ผมถามเรื่องนี้?”

ซือเฉิงเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ต่อให้เป็นในวงการประพันธ์เพลงของเรา นักศึกษาที่เขียนเพลงอย่างความฝันแรกออกมาได้จะไม่โดดเด่นไปได้ยังไงครับ ถึงเขาจะทำผลงานได้โดดเด่นกว่าปกติ แต่นั่นก็หมายความว่าเขามีขีดจำกัดที่สูงมาก ปกติคุณเอาใจใส่นักศึกษามาก แต่กลับไม่รู้ว่าสาขาการประพันธ์เพลงของเรามีบุคคลอัจฉริยะที่ล้ำค่าแบบนี้ซ่อนอยู่!”

อัจฉริยะของสาขาการประพันธ์เพลง

นี่คือคำนิยามของซือเฉิง

หวาลี่พยักหน้ารัว เมื่อครู่เธอเองก็ได้ฟังเพลงความฝันแรกแล้ว หลินเยวียนคู่ควรกับคำว่าอัจฉริยะ ต่อให้จะทำผลงานได้โดดเด่นกว่าปกติ แต่ก็มีศักยภาพที่มากพอ เหตุผลข้อนี้ทุกคนเข้าใจดี

ในตอนนั้นเอง

ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากหน้าประตูอีก

ซือเฉิงมองไป ก็พบว่าคนจากสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์มาแล้ว หัวหน้าถึงกับเป็นโจวรุ่ยหมิงพี่ใหญ่ของสาขาการประพันธ์เพลง จึงพลันเอ่ยทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เหล่าโจว ไม่เจอกันนานเลย”

“ศาสตราจารย์ซือ”

โจวรุ่ยหมิงเองก็ยิ้มแย้ม สำหรับหัวหน้าสาขาการประพันธ์เพลงอย่างศาสตราจารย์ซือแล้ว เขายังให้เกียรติมาก นักแต่งเพลงมือทองไม่น้อยในวงการมาจากสาขาการประพันธ์เพลงวิทยาลัยศิลปะฉินโจว “ครั้งนี้มีต้นกล้าชั้นดีแนะนำให้ผมบ้างไหมครับ”

“ก็มีอยู่”

ซือเฉิงยิ้มได้ใจ พาโจวรุ่ยหมิงเข้าไปในห้องพักด้านข้าง นำเพลงความฝันแรกออกมาราวกับเป็นเพลงสมบัติล้ำค่า

โจวรุ่ยหมิงใจกระตุกวูบ

เพลงที่ทำให้ซือเฉิงเห็นความสำคัญได้มากขนาดนี้ คุณภาพจะต้องไม่เลว เขากับตัวแทนจากแผนกประพันธ์เพลงของสตาร์ไลท์สวมหูฟังฟังเพลงพร้อมกัน

ผ่านไปหลายนาที

ตัวแทนจากทางสตาร์ไลท์ก็มีสีหน้าประหลาดใจ ทุกคนล้วนเป็นมืออาชีพ แค่ฟังก็รู้แล้วว่า “เพลงนี้ยอดเยี่ยมมาก!”

“หัวหน้า ต้องเซ็นสัญญาคนนี้นะคะ!”

“เพิ่งปีสองก็มีความสามารถขนาดนี้แล้ว!”

“คนนี้สตาร์ไลท์จองตัว!”

“สมแล้วที่วิทยาลัยศิลปะฉินโจวเป็นสถาบันอันดับหนึ่ง แต่ละคนมีพรสวรรค์ ดูแล้วพวกเราคงต้องมาเดินดูที่นี่บ่อยๆ ที่นี่เป็นสถานที่บ่มเพาะนักแต่งเพลงจริงๆ!”

“…”

ตัวแทนสตาร์ไลท์ต่างตกตะลึง ในใจของโจวรุ่ยหมิงก็ตกตะลึงเช่นกัน คุณภาพของเพลงความฝันแรกนี้สูงเหนือความคาดหมาย แต่กลับเป็นผลงานของนักศึกษาปีสอง?

วิทยาลัยศิลปะฉินโจวเป็นพยัคฆ์หมอบมังกรหลบ!

สมแล้วที่เป็นสถาบันที่เซี่ยนอวี๋เรียน!

เขามองไปยังซือเฉิงด้วยสีหน้าหนักแน่น ท่าทางจริงจังขึงขัง “ศาสตราจารย์ซือครับ ผมขอพบผู้สร้างสรรค์เพลงนี้ได้มั้ยครับ”

ซือเฉิงยิ้มบาง “ได้อยู่แล้ว”

ปฏิกิริยาของโจวรุ่ยหมิงนั้นอยู่ในความคาดหมายของซือเฉิงทั้งสิ้น ต่อให้อยากได้แค่เพลงนี้ วันนี้เขาจะต้องให้หลินเยวียนเซ็นสัญญาให้ได้

ขณะที่ซือเฉิงกำลังจะหันหลังออกไป

โจวรุ่ยหมิงก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าร้อนรน “นักศึกษาคนนี้ชื่ออะไรเหรอครับ”

แน่นอนว่าเขามีเหตุผลให้ร้อนรน!

คุณภาพของเพลงนี้สูงมาก ในภาพจำของโจวรุ่ยหมิง นักศึกษาปีสองที่สามารถเขียนเพลงระดับนี้ออกมาได้ก็มีแค่เซี่ยนอวี๋ นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้มาเจออีกคนที่วิทยาลัยศิลปะฉินโจว!

เป็นเหมือนเซี่ยนอวี๋อีกคน?

ปีนี้สตาร์ไลท์โชคใหญ่หล่นทับแล้ว!

ถ้าให้สามบริษัทใหญ่แห่งอื่นๆ ได้ฟังเพลงนี้ น่ากลัวว่าพวกเขาก็จะเซ็นสัญญาโดยไม่ลังเลเช่นเดียวกัน ไม่มีเหตุผลให้ต้องปล่อยหลุดมือไป!

“เขาชื่อหลินเยวียน”

ซือเฉิงเอ่ยบอกโดยแทบไม่ต้องหยุดคิด ชื่อเสียงเรียงนามของนักศึกษาคนนี้ได้ถูกสลักไว้ในสมองของเขาแล้ว!

โจวรุ่ยหมิง “…”

บรรดาตัวแทนจากสตาร์ไลท์ซึ่งเดิมทียังคงตื่นเต้น เมื่อได้ยินชื่อนี้สีหน้าก็พลันพิลึกกึกกือ มองหน้ากันไปมาไม่พูดไม่จา

“ผมจะไปเรียกเขา”

ซือเฉิงไม่ทันสังเกตเห็นปฏิกิริยาของพวกเขา

โจวรุ่ยหมิงยิ้มขื่น “ไม่ต้องหรอกครับ ศาสตราจารย์”

ซือเฉิงชะงักไป “คุณรู้สึก ไม่พอใจ?”

โจวรุ่ยหมิงโบกมือ “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมก็ว่าเด็กปีศาจอย่างหลินเยวียน มีที่ไหนอยู่ๆ จะโผล่ออกมาอีกคน…”

เขาล่ะปวดตับจริงๆ

เดิมทีคิดว่าตนจะได้พบยอดอัจฉริยะอย่างเซี่ยนอวี๋เพิ่มอีกคน นึกไม่ถึงว่าน้ำจะซัดเข้าวัดราชามังกร[1]

คนที่ได้ชื่อว่ายอดอัจฉริยะ เดิมทีก็เป็นราชามังกรของบริษัทเราไม่ใช่หรือไง

“เด็กปีศาจ?”

ซือเฉิงไม่เข้าใจปฏิกิริยาของพวกโจวรุ่ยหมิง ก่อนหน้านี้ยังตื่นเต้นกันอยู่แท้ๆ ไหงตอนนี้รู้สึกว่าพวกเขาท่าทางผิดหวังมากอย่างนั้นล่ะ

“ศาสตราจารย์ครับ”

โจวรุ่ยหมิงบุ้ยใบ้ให้คนอื่นออกไป จากนั้นก็ขยับเข้าไปข้างหูของซือเฉิง “เราเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กัน ผมจะไม่ปิดบังก็แล้วกัน ที่จริงหลินเยวียนคือ…”

“หลินเยวียนทำไม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน