Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 131

สรุปบท ตอนที่ 131 ผู้ชนะ: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 131 ผู้ชนะ – ตอนที่ต้องอ่านของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนนี้ของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเงินทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 131 ผู้ชนะ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 131 ผู้ชนะ

เมื่อถังเยวี่ยร้องเพลงจบ ผู้ชมคิดว่าผู้ชนะของปีนี้ไม่จำเป็นต้องสงสัยแล้ว

เมื่อซย่าฝานร้องเพลงเสร็จ ผู้ชมก็คิดว่าผู้ชนะของปีนี้ไม่จำเป็นต้องสงสัยแล้ว

เอาเถอะ

แม้ว่าภาษาจีนจะกว้างและลึกซึ้ง ทว่าครั้งที่สองนั้นไม่จำเป็นต้องสงสัยจริงๆ เพราะผู้ชมทั่วทั้งห้องส่งตะโกนร้องชื่อหนึ่งออกมา

“ซย่าฝาน!”

“ซย่าฝาน!”

ผู้ชมด้านล่างเวทีมีความเป็นกลาง และข้อดีที่สุดของผู้ชมที่เป็นกลางก็คือถ้าใครร้องดีกว่าก็เป็นแฟนคลับของคนนั้น ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นแฟนคลับของถังเยวี่ย ตอนนี้เป็นแฟนคลับของซย่าฝาน

ราวกับว่ากำลังกระโดดสลับไปมา

พิธีกรชายรีบสาวเท้าขึ้นเวที เอ่ยด้วยเสียงดังกังวาน “เป็นโชว์ที่ยอดเยี่ยมมากเลยครับ ในตอนนี้ผมเชื่อว่า ผู้ชมทั้งในห้องส่งและผู้ชมทางบ้านน่าจะตื่นเต้นเหมือนกันใช่ไหมล่ะครับ แต่ว่าพวกเรายังต้องใจเย็นกันก่อนนะครับ”

“ใช่แล้วค่ะ”

พิธีกรหญิงก็ยืนกล่าวบนเวทีเช่นเดียวกัน “นึกไม่ถึงเลยนะคะว่าในศึกชิงแชมป์ครั้งนี้จะมีเพลงใหม่ปรากฏถึงสองเพลง แถมทั้งสองเพลงยังทำให้พวกเราตื่นเต้นไม่หายเลยล่ะค่ะ ขอถามคณะกรรมการทั้งสี่ท่านว่ามีความเห็นว่าอย่างไรบ้างคะ”

กล้องฉายไปยังคณะกรรมการ

คณะกรรมการเองก็ตื่นเต้นเช่นเดียวกัน แต่ละคนท่าทางเหมือนกินขนมล่าเถียว ใช้เวลานานโขกว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ และตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างอิ่มเอิบ

“ฉันคิดว่าฉันใจเย็นลงแล้วนะคะ”

กรรมการคนแรกกล่าวกลั้วหัวเราะ “แต่ที่จริงฉันก็ไม่รู้ว่าควรคอมเมนต์เพลงนี้ว่ายังไง บอกได้แค่ว่าคนที่เขียนเพลงระดับนี้ออกมาได้ ต้องไม่ใช่คนที่ไร้ชื่อเสียงอย่างแน่นอนค่ะ ทำนองดี ร้องก็ดี ถ้าให้ฉันคอมเมนต์ก็พูดได้แค่ว่าสำหรับฉันแล้ว เพลงนี้ของซย่าฝานเป็นเพลงที่ฉันชอบที่สุดในการประกวดซีซันนี้เลยค่ะ!”

“โชว์สมบูรณ์แบบมากครับ!”

กรรมการคนที่สองเองก็ให้คำชื่นชมในระดับที่สูงมาก จากนั้นจึงมองไปยังซย่าฝาน “ซย่าฝานคุณกระซิบหน่อยได้ไหมครับว่าอาจารย์นักแต่งเพลงท่านไหนที่อยู่เบื้องหลังเพลงนี้”

ขวับๆๆ!

สายตาของทุกคนมองไปยังซย่าฝาน ขณะที่ทุกคนยังคงดื่มด่ำกับพลังของบทเพลง ก็นึกสงสัยเช่นกันว่านี่เป็นผลงานของใคร

ซย่าฝานมองไปยังด้านข้าง

จ้าวเจวี๋ยพยักหน้าเบาๆ ให้เธอ

ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับอีกต่อไป เพราะซย่าฝานได้มีเจตจำนงจะเซ็นสัญญากับสตาร์ไลท์แล้ว

ซย่าฝานสูดลมหายใจเข้าลึก ยิ้มบางตอบ “เพลงนี้มีชื่อว่าความฝันแรก และผู้ประพันธ์ผลงานชิ้นนี้ก็คือ…”

“เซี่ยนอวี๋ค่ะ”

เฮ้ๆๆ เพียงคำพูดเดียวก็นำพามาซึ่งเสียงเชียร์ดังสนั่น ดุจหินก้อนเดียวก่อกำเนิดเกลียวคลื่น!

เซี่ยนอวี๋!

เป็นเซี่ยนอวี๋จริงด้วย!

ชั่วขณะนั้นสีเหม่ยอยากล้มลงไปตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด!

ก่อนหน้านี้เธอไปปั่นประสาทซย่าฝานไว้ หนำซ้ำยังจงใจเสียดสีจ้าวเจวี๋ยไปว่าให้ปลาตัวนั้นมากู้สถานการณ์

ผลเป็นยังไงล่ะ!

เป็นอย่างที่ฉันพูดเลยใช่ไหม

ฉันนี่มันปากพาซวยจริงๆ!

ถังเยวี่ยยิ้มขื่นเอ่ยว่า “ถึงกับเป็นเซี่ยนอวี๋ ฉันชอบเพลงของเซี่ยนอวี๋มาก เลยตั้งใจเลือกร้องเพลงปลายักษ์ในรอบสี่คนสุดท้ายเลยนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก”

สีเหม่ยกัดฟันกรอด แค่นเสียงหึ “เซวี่ยนล่านอิ๋นกวงของเราเองก็มีนักแต่งเพลงเก่งๆ อีกมาก ฝีมือของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเซี่ยนอวี๋เลย!”

ถังเยวี่ย “…”

แต่ฉันชอบเซี่ยนอวี๋นี่นา

ก่อนหน้านี้ถังเยวี่ยเคยวาดฝันไว้ ว่าเข้ามาในวงการแล้ว หลังจากนี้จะได้โคจรมาพบกับอาจารย์เซี่ยนอวี๋บ้างไหมนะ

ผลคือตนได้โคจรมาพบกับเซี่ยนอวี๋จริงๆ เพียงแต่วิธีที่โคจรมาเจอนั้นออกจะพูดยากอยู่สักหน่อย

แน่นอนว่าความคิดเช่นนี้ถังเยวี่ยไม่กล้าพูดออกมา ตอนนี้เธอเป็นนักร้องของเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงแล้ว และทุกคนก็รู้โดยทั่วกันเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงกับสตาร์ไลท์ก็เป็นคู่แข่งกัน

“ฉันไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย”

หลังจากช่วงเวลาแห่งความตื่นอกตกใจผ่านพ้นไป กรรมการท่านที่สามก็ทอดถอนใจ “ผู้ชมบางคนอาจไม่คุ้นเคยกับอาจารย์เซี่ยนอวี๋ ถึงขั้นที่มีคนไม่รู้ว่าเซี่ยนอวี๋เป็นใคร แต่ทุกคนคงจะรู้จักเพลงกุหลาบแดงใช่ไหมครับ ซิงเกิลที่ออกมาในเดือนมิถุนายนและโด่งดังเป็นพลุแตกนี้เป็นผลงานของเซี่ยนอวี๋ เขาเป็นนักแต่งเพลงมือทองของวงการเพลงเรา”

ทันทีที่คำพูดนี้จบลง

ด้านล่างเวทีก็ลุกฮือขึ้นมา

คณะกรรมการคนที่สามตกใจจนสะดุ้งโหยง เกิดอะไรขึ้น ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมปฏิกิริยาของผู้ชมถึงรุนแรงขนาดนี้

เขามองไปยังเพื่อนทั้งสาม

เพื่อนอีกสามคนก็แบมือยักไหล่

คณะกรรมการทั้งสี่ทำได้เพียงหันไปมองผู้ชม เพื่อฟังเสียงตะโกนของฝูงชน และได้ยินพวกเขาตะโกนกันว่า

“พวกเรารู้จักเซี่ยนอวี๋!”

“ผมเคยฟังเพลงของเขา!”

“ฉันเป็นแฟนเพลงของเซี่ยนอวี๋!”

“ขอโทษนะคะ แต่พวกเรารู้จักเขาดีเลยละ!”

คณะกรรมการพลันแค่นหัวเราะ พิธีกรเองก็อดมีความสุขท่ามกลางความวุ่นวายนี้ไม่ได้ “ดูท่าแล้วคณะกรรมการทั้งสี่ท่านจะประเมินผู้ชมของเราต่ำไปนะครับ ชื่อเสียงของเซี่ยนอวี๋ต่อให้เป็นนอกวงการก็นับว่าไม่ธรรมดาเลยครับ”

นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก

คนทั่วไปที่ติดตามเพลงในช่วงนี้ ไม่มีทางไม่คุ้นชื่อเซี่ยนอวี๋ เพลงกุหลาบแดงได้ครองแชมป์ในเดือนมิถุนายนไม่ใช่หรืออย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ผลงานของเซี่ยนอวี๋จะไม่มาก แต่ความฮ็อตฮิตของแต่ละเพลงก็ไม่ใช่ย่อยเลย “ถูกต้องมั้ยครับทุกคน!”

“ถูกต้อง!”

ฝูงชนกู่ร้อง

การถกเถียงของผู้ชมในตอนนี้ไม่ใช่ ‘เซี่ยนอวี๋คือใคร’ อีกต่อไป ต่อให้ไม่รู้จักจริงๆ ว่าเซี่ยนอวี๋เป็นใคร ก็ต้องแสร้งทำเป็นรู้จักไปก่อน ไม่อย่างนั้นจะเห็นได้ชัดว่าตนตามกระแสไม่ทัน และผู้ชมที่รู้จักเซี่ยนอวี๋จริงๆ ก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่

“เซี่ยนอวี๋โหดไปแล้ว!”

“นักแต่งเพลงมือทองของแท้แน่นอน!”

“คณะกรรมการคิดจริงๆ เหรอว่าพวกเราไม่รู้จักเซี่ยนอวี๋ ก่อนหน้านี้เพลงปลายักษ์ที่ถังเยวี่ยร้องก็เป็นผลงานของเซี่ยนอวี๋ไม่ใช่เหรอ ฉันเป็นแฟนคลับตัวยงของเซี่ยนอวี๋เลยนะ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่มีใครรู้จักเซี่ยนอวี๋ดีเท่าฉันแล้ว!”

สถานการณ์ในตอนนั้นเองก็สุดจะเหลือรับ

สีเหม่ยนั่นแหละที่ทำให้ซย่าฝานมีเหตุผลให้แพ้ไม่ได้

“…”

ถังเยวี่ยขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไม่พูดไม่จากับเธออีก

หลังจากการประกวดจบลง สีเหม่ยก็ลากถังเยวี่ยออกไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่นักข่าวตามไปสัมภาษณ์ พวกเธอก็ตอบอย่างรีบร้อนเพียงไม่กี่ประโยค อยู่ที่นี่ต่อไปก็เจ็บใจเปล่าๆ หนำซ้ำเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย เธอไม่น่าสวมรองเท้าที่ส้นสูงขนาดนี้มาเลย

รีบไปก่อนดีกว่า

จ้าวเจวี๋ยยังไม่รีบกลับอย่างแน่นอน เธอตั้งใจว่าจะพาซย่าฝานไปให้นักข่าวเห็นหน้าค่าตา พร้อมทั้งแถลงข่าวเรื่องหนึ่งต่อสาธารณะ ขณะที่กำลังแถลงข่าวเรื่องนี้ เธอก็เห็นสีเหม่ยซึ่งกำลังรีบร้อนเดินออกไป “สตาร์ไลท์เราได้เซ็นสัญญากับซย่าฝานไปแล้วค่ะ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะให้ซย่าฝานลงชิงชัยในชาร์ตเพลงใหม่ของเดือนนี้!”

แชะๆๆ!

นักข่าวกระหน่ำรัวชัตเตอร์ในทันใด คำถามแล้วคำถามเล่าถาโถมเข้ามารอบตัวของผู้ชนะในค่ำคืนนี้ และซย่าฝานก็รับผิดชอบตอบทีละคำถาม

ไม่รู้ว่าทำไม

เมื่อแข่งขันเวทีสุดท้ายเสร็จ ซย่าฝานก็รู้สึกประหนึ่งเกิดใหม่ ความกระวนกระวายอันตรธานหายไปแล้ว

ถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามของนักข่าวที่ประเดประดังเข้ามามากมาย น่ากลัวว่าในสมองของตนคงคิดเพียงแต่ว่าห้องน้ำอยู่ไหนล่ะมั้ง

……

และในเมืองซู

เขตสวนอู๋ถง

ระหว่างการถ่ายทอดสดการคว้าแชมป์ของซย่าฝาน หลินเซวียนซึ่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ก็กระโดดตัวลอย โดยเฉพาะยามที่ซย่าฝานประกาศว่าบทเพลงสุดท้ายนั้นเป็นผลงานของน้องชาย เธอก็ยิ่งดีอกดีใจกว่าเดิม

“ชนะแล้ว น้องชายนายทำได้ดีมาก!”

หลินเยวียนพูด “ซย่าฝานเก่งที่สุดแล้ว”

ก่อนหน้านี้ซย่าฝานเคยอัดเพลงความฝันแรก

แต่ไม่ว่าเธอจะอัดเพลงเวอร์ชันซึ่งใช้ในการประเมินประจำปีการศึกษาของหลินเยวียน หรือเวอร์ชันเดโมซึ่งอัดไปไม่รู้กี่ครั้ง ก็เทียบกับการขับร้องบนเวทีในค่ำคืนนี้ของซย่าฝานไม่ได้เลย

นี่เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของเพลงความฝันแรก ดีเสียจนทำให้หลินเยวียนตกตะลึง ซย่าฝานปรับคีย์สูงกว่าเดิมด้วย

ไม่เพียงเสียงสูงทรงพลัง

แต่นี่เป็นการแสดงที่สมบูรณ์แบบครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้!

ครั้งนี้ยิ่งทำให้หลินเยวียนตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วศักยภาพของคนเรานั้นไม่มีวันหมด!

‘ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่!’

ในกลุ่มแช็ต เจี่ยนอี้ส่งข้อความมาเป็นคนแรก เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ดูการแข่งขันรายการสะพรั่งอยู่เหมือนกัน

เพื่อที่จะแสดงออกว่าตนรู้สึกปลื้มปริ่มมากแค่ไหน

เจี่ยนอี้ถึงขั้นลงทุนส่งอั่งเปามูลค่าหนึ่งหยวนมาในกลุ่มเลยทีเดียว

………………………………………………….

[1] กระบี่มีไว้สำหรับวีรบุรุษ มาจากคำกล่าวว่า ‘กระบี่มีไว้สำหรับวีรบุรุษ แป้งชาดมีไว้สำหรับโฉมงาม’ เปรียบเปรยว่าแต่ละคนต่างก็มีสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน