Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 132

สรุปบท ตอนที่ 132 คนครุ่นคิด: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

อ่านสรุป ตอนที่ 132 คนครุ่นคิด จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 132 คนครุ่นคิด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 132 คนครุ่นคิด

หลังจากการแข่งขันจบลง การถกเถียงกันก็ปรากฏไปทั่วทั้งโลกออนไลน์ ความถี่ของชื่อซย่าฝานนั้นสูงมาก นอกจากนั้นแล้ว บทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับเซี่ยนอวี๋ก็เกิดขึ้นอย่างล้นหลามเป็นครั้งแรก!

เซี่ยนอวี๋มีชื่อเสียงแล้วจริงๆ

กระแสความฮ็อตฮิตผลงานทั้งหมดของเขาในตอนนี้ ไม่มีเพลงไหนด้อยไปกว่ากันเลย เพียงแต่เพราะเป็นการทำงานอยู่เบื้องหลัง จึงไม่มีโอกาสได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่มาโดยตลอด และบนเวทีรายการสะพรั่งแห่งนี้ ในที่สุดก็ไม่มีใครมองข้ามการมีตัวตนของเขาได้อีกต่อไป!

‘พวกเธอเห็นหรือยังล่ะ’

มีคนแดกดัน ‘บวกกับจ้าวอิ๋งเก้อเมื่อคราวก่อน ผู้ชนะรายการสะพรั่งสองครั้งล่าสุดล้วนแต่ร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋ ต่อไปผู้ชนะรายการนี้ก็คงจะร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋ ทำเพลงสักเพลงถึงจะนับว่าเป็นความสำเร็จ?’

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการประชดประชัน

ความสนใจของทุกคนล้วนไปรวมอยู่ที่เพลงความฝันแรก เฉกเช่นที่จ้าวเจวี๋ยพูดเอาไว้ เพลงนี้ปล่อยออกไปในเช้ามืดวันแรกของเดือนสิงหาคม และเวอร์ชันที่ปล่อยออกมาไม่ใช่เวอร์ชันในสตูดิโอ

หากแต่เป็นเวอร์ชันไลฟ์สดจากรายการสะพรั่ง!

แน่นอนว่าเสียงที่บันทึกไว้ได้ผ่านการปรับแต่ง

ตัวอย่างเช่นเสียงเชียร์ของฝูงชนและเสียงปรบมือล้วนถูกตัดทิ้งไปส่วนมาก เหลือไว้เพียงเสียงกู่ร้องทั่วทั้งห้องส่งหลังจากที่เพลงจบลง

หากใช้คำพูดของจ้าวเจวี๋ยเอง ก็คือให้ปล่อยเวอร์ชันไลฟ์สดบนเวทีก่อน จากนั้นค่อยปล่อยเวอร์ชันสตูดิโอ

ถึงอย่างไรการอัดเพลงใหม่จะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ

ทางหลินเยวียนมีเวอร์ชันสตูดิโอ ซึ่งก็เป็นผลงานในการประเมินประจำปีการศึกษาของเขา แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้เหนือไปกว่าเวอร์ชันไลฟ์สดบนเวที

ผู้ชมจำนวนมากที่ดูรายการนี้จบ ก็รีบไปดาวน์โหลดเพลงความฝันแรกทันที

‘เพลงนี้ต้องดังแน่!’

‘คว้าแชมป์เดือนนี้ได้สบายไร้ปัญหา’

‘ถ้าเพลงนี้ไม่ได้ที่หนึ่งสิแปลก เพลงของแชมป์รายการสะพรั่ง แถมยังเป็นเพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋ด้วย!’

ในตอนนี้อยู่ๆ ก็มีคนนึกขึ้นได้ ‘เดือนสิงหามีนักร้องแถวหน้าอีกสองคนไม่ใช่เหรอ’

‘ศึกสองอวี่?’

‘เมื่อกี้ฉันเพิ่งฟังเพลงของเฉินจื้ออวี่กับจินซูอวี่ เพลงนี้ของเฉินจื้ออวี่ดีมากเลย เพราะกว่าเพลงของจินซูอวี่อีก!’

‘เดี๋ยวนะ…’

‘งั้นเฉินจื้ออวี่…’

‘คงไม่ได้…’

‘อันดับหนึ่ง…’

‘อีกสินะ…’

เรียกว่าประโยคเดียวปลุกคนให้ตื่นได้อย่างแท้จริง

หรือว่าเฉินจื้ออวี่อยากจะครองสมญานาม ‘ลูกคนรองตลอดกาล’ ไปเรื่อยๆ?

……

ในช่วงเช้ามืดของเดือนสิงหาคมนั้นเอง

เฉินจื้ออวี่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในห้องนอนด้วยความหวั่นวิตก

เขาไถแพลตฟอร์มฟังเพลงใหญ่ๆ แต่ละแห่ง แต่เมื่อได้เห็นหัวข้อโปรโมตของเพลง สายตาของเขาก็นิ่งค้าง ทั้งตัวแทบกลายเป็นประติมากรรมสีเทาเข้มชิ้นหนึ่ง

ตั้งชื่อประติมากรรมชิ้นนั้นได้ว่า ‘คนครุ่นคิด[1]’

ฉันต้องเปิดผิดวิธีแน่ๆ

ผ่านไปสิบนาทีเต็มๆ เฉินจื้ออวี่ถึงได้ผุดรอยยิ้มเบาใจออกมา

ระบบขัดข้องก็เป็นเรื่องสุดแสนจะปกติ มีครั้งหนึ่งตนปล่อยเพลงใหม่ไปแล้วแท้ๆ ทว่ากว่าแต่ละแพลตฟอร์มจะขึ้นเพลงให้ก็ปาไปตีหนึ่งแล้ว

เฉินจื้ออวี่กดปิดแพลตฟอร์มฟังเพลง

แล้วเปิดขึ้นมาใหม่

จากนั้นเขาก็นิ่งค้างกลายเป็นประติมากรรมไปอีกครั้ง

ผู้จัดการปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูพอดี เปิดประตูเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบาง แต่ทันทีที่ผู้จัดการเห็นเฉินจื้ออวี่นั่งนิ่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ในใจก็พลันเกิดลางสังหรณ์ประหลาดที่อธิบายไม่ถูก รู้สึกว่าภาพเหตุการณ์นี้โคตรจะคุ้นเคย

“นายโอเคหรือเปล่า”

เขาเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

เฉินจื้ออวี่ได้สติกลับมา เขามองผู้จัดการด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและอบอุ่น กวักมือไหวๆ “ผมไม่เป็นไร ครั้งนี้ไม่มีปัญหาแน่ คุณมาเร็ว เราฟังเพลงกันเถอะ!”

ยอดเยี่ยมไปเลย!

ผู้จัดการพรูลมหายใจอย่างโล่งอก เมื่อกี้เขาเดินเข้ามายังคิดซะอีกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อมาคิดให้ถี่ถ้วนแล้วจะไปเกิดอะไรขึ้นได้ล่ะ เดือนนี้ไม่มีเซี่ยนอวี๋ ส่วนเพลงของจินซูอวี่ก็ไม่ได้ดีพอให้กังวล

“เพลงอะไรล่ะ”

เขานั่งลงพลางหัวเราะเหอะๆ ก่อนจะร้องขึ้นมาด้วยความตกใจกลัว “เฉินจื้ออวี่นายทำอะไรน่ะ!”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ!”

เฉินจื้ออวี่หยิบสายของหูฟังมาพันรอบคอของผู้จัดการ กดร่างของผู้จัดการซึ่งดิ้นต่อสู้ “ตายซะตายซะตายซะตายซะคนนำพาลางร้ายอย่างคุณคุณบอกไม่ใช่หรือไงว่ารับรองว่าเดือนนี้ไม่มีเซี่ยนอวี๋ผมนอนรอมงแชมป์ทำไมเซี่ยนอวี๋ยังโผล่มาอีกจะนั่งคิดนอนคิดก็เพราะคุณพูดเป็นลางนั่นแหละ!” เฉินจื้ออวี่เป็นนักร้องที่ยอดเยี่ยม พลังปอดของเขาน่ากลัวเหลือเกิน

“จะฆ่ากันหรือไง!”

ผู้จัดการร้องลั่น ใบหน้าซีดเผือด วิธีการปล่อยเพลงในครั้งนี้ของเซี่ยนอวี๋พิเศษเกินไป ใครจะไปคาดคิดกันฟระ!

ถึงยังไงก็บ้านเมืองก็มีขื่อมีแป ท้ายที่สุดเฉินจื้ออวี่ก็ควบคุมความพยาบาทของตน และสงบสติอารมณ์

ผ่านไปห้านาที

เขากับผู้จัดการนั่งอยู่ด้วยกัน ฟังเพลงความฝันแรกจนจบ

ความคิดเห็นซึ่งมียอดไลก์อันดับสาม: พยายามเข้านะ

ความคิดเห็นซึ่งมียอดไลก์อันดับสี่: …

สีหน้าของเฉินจื้ออวี่ซับซ้อนซะยิ่งกว่าอะไร ทันใดนั้นก็พูดขึ้นด้วยความเดือดดาลระคนช้ำใจ “ฮ็อตเสิร์ชแบบนี้ ไม่ต้องขึ้นก็ได้ปะ!”

……

ขณะเดียวกันนั้นเอง

จินซูอวี่ก็เปิดเพลงใหม่ของเฉินจื้ออวี่ฟังอย่างกระอักกระอ่วน หลังจากฟังไปได้สามสี่นาที หัวคิ้วของเขาก็ขมวดมุ่น

อันดับหนึ่ง นอนมาแล้ว

เมื่อกวาดตามองไปยังแบนเนอร์โปรโมต เฉินจื้ออวี่ก็เห็นข้อความแนะนำบรรทัดหนึ่ง ‘เพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋ซึ่งพาซย่าฝานคว้าแชมป์รายการสะพรั่ง ความฝันแรกปล่อยแล้ว!’

เขารีบคลิกเข้าไป

ฟังไปได้เพียงครึ่งเพลง จู่ๆ เขาก็ถอดหูฟังออก

จินซูอวี่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา โพสต์ข้อความลงในโมเมนต์วีแช็ตสามคำ

‘ตายเรียบแน่!’

โดยมีภาพประกอบเป็นปลาตัวหนึ่ง

มาคิดๆ ดูแล้ว จินซูอวี่รู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่ดีเท่าไหร่ ถึงอย่างไรเพื่อนสนิทตั้งหลายคนของตนล้วนเป็นพนักงานในบริษัท

ถ้าเกิดในบริษัทมีคนเอาไปพูดพล่อยจะทำยังไง

ถ้าอาจารย์เซี่ยนอวี๋ไม่พอใจกับการแสดงออกของเขาจะทำยังไง

เขาจึงตั้งค่าจำกัดการมองเห็นของโพสต์นี้

‘มีเพียงเฉินจื้ออวี่ที่เห็น’

เป็นนักร้องแถวหน้าในวงการเหมือนกัน ทั้งสองเพิ่มเพื่อนกันไว้เป็นเรื่องปกติมาก เพียงแต่หลังจากที่ทั้งสองเพิ่มเพื่อนกันไปแล้ว ก็ไม่เคยพูดคุยกันก็เท่านั้น

ห้านาทีให้หลัง

จินซูอวี่ก็ได้รับการกดไลก์จากเฉินจื้ออวี่เป็นครั้งแรกในชีวิต

และสองนาทีต่อมา อีกฝ่ายก็ถึงกับมาแสดงความคิดเห็น ‘คำพูดนี้ของนายฉันรู้สึกคุ้นหูมาก เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนนะ…ช่างมันเถอะไม่คิดละ ฉันสงสัยว่าทำไมครั้งก่อนนายไม่พักไปให้นานกว่านี้หน่อย’

จินซูอวี่ตอบกลับ ‘นั่นน่ะสิ ทำไมไม่พักไปให้นานกว่านี้หน่อย’

เฉินจื้ออวี่ตอบกลับอีกว่า ‘เรื่องบางเรื่องทำตัวให้ชินก็พอแล้ว บนโลกนี้ ไม่มีใครเข้าใจจินซูอวี่ได้ดีเท่าฉันแล้ว แต่ว่ากันตามตรงเลยนะ บริษัทนายมันเหี้ยมว่ะ’

จินซูอวี่จึงตอบไปว่า ‘เรื่องของบริษัท พนักงานโปรดอย่าแทรกแซง’

…………………………………………

[1] คนครุ่นคิด (Le Penseur) ประติมากรรมบรอนซ์และหินอ่อนโดยโอกุสต์ โรแด็ง ศิลปินชาวฝรั่งเศส

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน