ตอนที่ 151 ความยากระดับขุมนรก
ทันทีที่กู้ตงกลับมายังบริษัทก็วิ่งตรงไปยังห้องทำงานของหลินเยวียนทันที สีหน้าบอกไม่ได้ว่าดีใจหรือกังวล “ตัวแทนหลิน วันนี้มีออเดอร์ใหม่มา พวกเขายินดีให้คุณเลือกนักร้องและเข้าร่วมการอัดเพลงค่ะ”
“อ้อ”
ปฏิกิริยาตอบสนองของหลินเยวียนเรียบเฉยเฉกเช่นที่ผ่านมา เพราะเขามีปัญหาที่น่าเป็นห่วงมากกว่า “เท่าไหร่ครับ”
กู้ตงสีหน้าชะงักค้าง
เธอหยิบเอกสารที่ผู้ว่าจ้างส่งมาให้ พูดงึมงำว่า “ราคายังไม่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการค่ะ เพราะฉันคิดว่าออเดอร์นี้ค่อนข้างยาก พวกเขาให้เวลาเราทำงานหนึ่งเดือน…”
ในตอนนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
กู้ตงวางออเดอร์ไว้บนโต๊ะ เอ่ยขึ้นด้วยความเกรงใจ “ขอรับโทรศัพท์แป๊บนึงนะคะ”
หลินเยวียนพยักหน้า
สายนี้โทรมาจากฟ่านหลงเหอ
เพราะเซี่ยนอวี๋เขียนเพลงออกมาได้หรือไม่นั้น ได้เกี่ยวโยงไปถึงอนาคตของฟ่านหลงเหอระดับหนึ่งแล้ว
ฉะนั้นฟ่านหลงเหอจึงให้ความสำคัญมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อต่อสายติดก็เอ่ยถามขึ้นอย่างรีบร้อน
“อาจารย์เซี่ยนอวี๋รับออเดอร์หรือเปล่าครับ”
“ฉันเพิ่งถึงบริษัท…”
“งั้นคุณช่วยรีบถามให้ผมตอนนี้เลยได้มั้ยครับ!”
กู้ตงพูดอย่างกระอักกระอ่วน “เดี๋ยวฉันถามให้นะคะ อีกเรื่องหนึ่งอาจจะเสียมารยาทสักหน่อย แต่อยากทราบว่าทางบริษัทคุณยินดีจ่ายให้ออเดอร์นี้เท่าไหร่เหรอคะ”
“สอง…ไม่…สามล้าน!”
ฟ่านหลงเหอกัดฟัน “นี่เป็นราคาสูงสุดที่ผมตัดสินใจเองได้ ถ้าบริษัทคุณไม่พอใจ ผมจะต้องไปคุยกับหัวหน้าเบื้องบนแล้ว แต่ความหวังมีไม่มากนะครับ ถึงยังไงสามล้านก็เป็นราคาที่สูงมากในท้องตลาดแล้ว แถมพวกเราต้องการแค่ลิขสิทธิ์ของเพลงซาวด์แทร็ก!”
ฟ่านหลงเหอสู้สุดชีวิตจริงๆ ถึงขั้นที่ลดขั้นตอนการต่อรองราคาไปเลย เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก!
กู้ตงได้ยินราคานี้ หัวใจก็เต้นระรัว!
ตั้งแต่เธอทำงานมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับผู้ว่าจ้างที่กระเป๋าหนักขนาดนี้!
ไม่สิ
ต้องบอกว่า ตั้งแต่บริษัทย่อยก่อตั้งขึ้นมา นี่น่าจะเป็นออเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดที่ได้รับมา ชั่วขณะนั้นกู้ตงแทบอยากตอบตกลงไปเดี๋ยวนั้น ทว่าเธอเองก็เข้าใจว่าเมื่อราคายิ่งสูง มาตรฐานก็สูงตามไปด้วย อีกฝ่ายก็ดันให้เวลาแค่เดือนเดียวอีก…
สายตาของเธอซับซ้อน เอ่ยขึ้นราวกับขอคำยืนยัน “สามล้าน?”
หลินเยวียนเงยหน้าขึ้นมองกู้ตง รีบตอบไปทันใด “ผมรับครับ”
ทันใดนั้นกู้ตงเบิกตากว้างจ้องมองเขา ปิดหูโทรศัพท์ไว้ เสียงสั่นเครือเล็กน้อย พยายามกดเสียงให้เบาลง “แต่ตัวแทนหลินยังไม่ได้อ่านรีเควสในเพลงของเขาเลยนะคะ แล้วพวกเขาก็ให้เวลาเดือนเดียว คุณลองดูก่อนว่าเหมาะสมหรือเปล่า…”
“เหมาะสมครับ”
หลินเยวียนเอ่ย
เมื่อเห็นว่ากู้ตงจ้องตนเขม็ง หลินเยวียนจึงเอื้อมไปหยิบเอกสารมากวาดตามอง ผ่านไปสามวินาที เขาถึงพูดขึ้นอีกครั้ง
“เหมาะสมครับ”
คุณใช้เวลาอ่านไปสามวินาทีเองนะ!
กู้ตงยกมือขึ้นคลึงขมับอย่างอดไม่ไหว
แต่ไหนๆ หลินเยวียนก็บอกแบบนี้แล้ว เธอก็ทำได้เพียงคลายมือออกจากโทรศัพท์อย่างยอมรับโชคชะตา คุมน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด พลางตอบฟ่านหลงเหอไป “อาจารย์เซี่ยนอวี๋รับค่ะ”
“ครับ!”
ฟ่านหลงเหอตื่นเต้นอยู่บ้าง
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเซี่ยนอวี๋เขียนเพลงที่ดีกว่าออกมาได้ไหม แต่เมื่อเขารับออเดอร์แล้วก็นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี อย่างน้อยตนก็ยังพอมีคุณสมบัติจะไปฟาดฟันกับหลัวฉีได้!
สิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือ หลินเยวียนเห็นว่าเวลากระชั้นเกินไป และไม่คิดจะรับออเดอร์ด้วยซ้ำ
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ต้องให้หลัวฉีลงมือหรอก ตนก็แค่นอนรอรับคำเยาะเย้ยถากถาง จะไปดิ้นรนทำไมอีกล่ะ
“จริงสิ!”
จู่ๆ เขาก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงรีบร้อนกล่าวว่า “ผมจะส่งนักเขียนเนื้อเพลงไปสมทบด้วย เพราะเราต้องการเพลงภาษาฉี อาจารย์เซี่ยนอวี๋อาจไม่คุ้นเคย…”
“ได้ค่ะ”
กู้ตงพยักหน้าเห็นด้วย หันไปมองหลินเยวียน ก่อนจะกัดฟันถามออกไป “ถ้าอย่างนั้นเราเซ็นสัญญากันพรุ่งนี้ใช่มั้ยคะ”
“เซ็นเย็นนี้ก็ได้ครับ”
ฟ่านหลงเหอรีบร้อนกว่าที่กู้ตงคิดไว้
“ก็ได้ค่ะ”
กู้ตงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแม้แต่นิดเดียว หลังจากเธอวางสาย ในใจก็รู้สึกปั่นป่วนไปหมด มองหลินเยวียนพลางเอ่ยว่า “ตัวแทนหลินคุณแน่ใจจริงๆ ใช่มั้ยคะ สัญญาขนาดใหญ่แบบนี้ต้องใส่เงื่อนไขค่าชดเชยหากผิดสัญญา ถ้าเขียนเพลงที่เหมาะออกมาไม่ได้พวกเราก็จบเลยนะคะ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน