Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 154

ตอนที่ 154 (2) เกทับ

ฟ่านหลงเหอเดินออกจากห้องทำงานของผู้จัดการ ในห้องประชุมของแผนกดนตรี ทุกคนกลับมานั่งประจำตำแหน่งอีกครั้ง เพียงแต่สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความสับสน

เมื่อกี้เพิ่งจะประชุมไปไม่ใช่เหรอ

ทำไมรองหัวหน้าเรียกประชุมอีกแล้วล่ะ

หรือว่าจนถึงป่านนี้เขาก็ยังสู้ยิบตาอยู่

หลัวฉียังคงนั่งที่ตำแหน่งหัวหน้าดังเดิม ทว่าในใจของเธอรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านอย่างบอกไม่ถูก จนทันทีที่ฟ่านหลงเหอกลับมา เธอก็เอาแต่จ้องอีกฝ่ายเขม็ง พลางเอ่ยว่า “คุณคิดจะทำอะไร ยังอยากยื้อเวลาไปอีกสองสามวันหรือไงคะ”

“เรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอกครับ”

เมื่อฟ่านหลงเหอเห็นหลัวฉีอีกครั้ง ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปแล้ว

ใบหน้าของเขาผุดรอยยิ้มอบอุ่น แน่นอนว่ารอยยิ้มพิมพ์ใจนี้มีไว้สำหรับบรรดาพนักงานแผนกดนตรี “เพลงของเซี่ยนอวี๋ออกมาแล้ว ผมอยากให้ทุกคนช่วยกันตัดสินคุณภาพของเพลงนี้หน่อยครับ”

ผู้จัดการเห็นด้วยเพียงคนเดียวยังไม่เพียงพอ

ฟ่านหลงเหออยากใช้เพลงนี้โน้มน้าวใจคนทั้งแผนกต่อหน้าหลัวฉี

มีเพียงวิธีนี้ เขาถึงจะกอบกู้สถานะของตนซึ่งหล่นหายไปก่อนหน้านี้กลับมาได้

“เพลงส่งมาแล้ว?”

ในใจของหลัวฉีเริ่มหวาดหวั่นขึ้นเรื่อยๆ “เรื่องคุณภาพเพลงเอาไว้ก่อน พวกเราไม่จำเป็นต้องแปลงเนื้อเพลงเหรอคะ ต้องให้คุณภาพของเนื้อเพลงแตะถึงมาตรฐานก่อนไหมถึงจะอัดเพลงได้ คุณคิดว่าเรามีเวลาพอหรือไง”

ฟ่านหลงเหอตอบ “งั้นก็ได้ครับ”

เขากดโทรศัพท์ต่อหน้าทุกคน โทรหานักแต่งเนื้อเพลงทั้งสามซึ่งก่อนหน้านี้ไปเยือนถึงสตาร์ไลท์มิวสิก แต่ถูกเซี่ยนอวี๋ปฏิเสธกลับมา “ทางแผนกดนตรีมีประชุมสำคัญ รบกวนอาจารย์ทั้งสามท่านมาที่นี่หน่อยนะครับ”

หลังจากสนทนาจบ ฟ่านหลงเหอก็วางสาย

ในห้องประชุมเริ่มมีการถกเถียงเสียงดังอื้ออืง

มีเพียงลูกน้องคนที่เพิ่งฟังเพลงชอบเธอพร้อมกับฟ่านหลงเหอเมื่อครู่ ที่ใบหน้าประดับรอยยิ้มร่าราวกับกำลังรับชมการแสดง

วันนี้เขาได้เป็นประจักษ์พยานของเรื่องที่เกิดขึ้น ในใจนอกจากความตื่นตะลึงแล้ว ยังมีความรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างบอกไม่ถูก

“พวกเรามาแล้วครับ”

หวงต๋าและนักแต่งเนื้อเพลงอีกสองคนรุดมาถึง

หลัวฉีรีบเข้าไปพูดคุยกับพวกเขาทันที

ในห้องประชุมยังคงเสียงดังอึกทึก ระหว่างที่ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับการถกเถียงกันนั้นเอง เสียงเพลงก็พลันดังเข้ามาในโสตประสาท

“สายลมโชยพัดบนถนนในวันฝนพรำ เช็ดดวงตาช้ำไร้เหตุผลให้มองขึ้นไป…”

ห้องประชุมเงียบกริบลงทันใเด

มีเพียงเสียงดนตรีสังเคราะห์ซึ่งยังคงบรรเลงต่อไป

หัวใจของหลัวฉีเต้นระส่ำอย่างบอกไม่ถูก

ในฐานะหัวหน้าแผนกดนตรี ความสามารถในการเข้าถึงบทเพลงของเธอนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบเทียมได้

ฉะนั้นแล้ว เธอย่อมฟังคุณภาพของผลงานเพลงประกอบเช่นนี้ออก

ในตอนนั้นเอง

ขณะที่พนักงานในแผนกดนตรีฟังเพลงไป สีหน้าก็ฉายแววประหลาดใจขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้นสีหน้าของทุกคนก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึง

เพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าระยะเวลาในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้สั้นขนาดไหน

เวลาแค่เดือนเดียวเองนะ!

นับจนถึงการประชุมในวันนี้!

เวลายังไม่ครบหนึ่งเดือนเลยด้วยซ้ำไป!

และนักแต่งเนื้อเพลงรวมไปถึงหวงต๋าก็ได้รับรู้สถานการณ์โดยรวมเช่นเดียวกัน

พวกเขารู้ว่าหลัวฉีกำลังจ้องจับผิดเนื้อเพลงของเซี่ยนอวี๋ ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ทุกคนก็คิดว่าเพลงภาษาฉีของเซี่ยนอวี๋นั้นเป็นปัญหาใหญ่

แต่เมื่อฟังไปเรื่อยๆ…

สีหน้าของนักแต่งเนื้อเพลงก็พลันเปลี่ยนไป

พวกเขารู้พล็อตเรื่องของซีรีส์ นั่นเป็นการเตรียมตัวที่จำเป็นก่อนจะเขียนเนื้อเพลง

แต่ตอนนี้ได้ฟังบทเพลงซึ่งดังก้องในโสตประสาท พวกเขาก็พบว่าการเตรียมตัวเหล่านี้คล้ายกับว่าไม่จำเป็นอีกต่อไป

เพราะเนื้อหาในเนื้อเพลงของเพลงนี้สอดคล้องกับพล็อตเรื่องของซีรีส์พอดิบพอดี!

ถึงขั้นที่ต่อให้ไม่อ่านบทสรุปเนื้อเรื่องของซีรีส์ ก็ยังพอเข้าใจว่าเพลงนี้ร้องเกี่ยวกับอะไร!

“ความคิดมากมายก่อเกิดขึ้นในใจอีกครา รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าไม่เคยลบเลือน…ฉันที่มีเหตุผลเคยเอาแต่ใจเพียงใด โทษว่าความรักมาพรากอิสระไป…ฉันดิ้นรนเพื่อตัวเอง ไม่เคยรู้ถึงความปวดร้าว…ตอนนี้มีเพียงปรารถนา ให้เธอรับรู้เสียงจากใจ…”

ทั้งทำนองและเนื้อเพลง รวมไปถึงการเรียบเรียงก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้ฟ่านหลงเหอรู้สึกเพียงว่าเงินสามล้านที่เขาจ่ายไปนี้โคตรจะคุ้มค่าเลย!

“ฟู่”

ผู้คนผ่อนลมหายใจ เผยรอยยิ้มโล่งใจ แต่เมื่อมองไปทางหลัวฉี รอยยิ้มก็พลันชะงักค้างไปทันที

หลัวฉีลุกขึ้นยืน “ทำได้ไม่เลว”

รอยยิ้มผุดพรายบนใบหน้าของเธอ มองไปยังฟ่านหลงเหอ “ยินดีด้วย ถ้าได้ฟังเพลงนี้ก่อน ฉันเองก็จะเลือกเพลงนี้เหมือนกัน”

ฟ่านหลงเหอพูด “ขอบคุณครับ”

หลัวฉีพยักหน้า ก่อนจะหันหลังเดินออกไป

ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ยังคงรักษามาดของหัวหน้างาน เพียงแต่ทุกคนล้วนจินตนาการได้ว่าจิตใจของหลัวฉีในตอนนี้บอบช้ำแค่ไหน

ฟ่านหลงเหอไม่ได้ท้าชนกับอีกฝ่ายต่อ

หลังจากที่เขาประกาศจบการประชุม ก็ติดต่อไปยังสตาร์ไลท์มิวสิกทันที เพื่อแจ้งเรื่องการอัดเพลง

เขาไม่ได้ลืมเรื่องที่ตนรับปากอีกฝ่ายไว้ ว่าเซี่ยนอวี๋จะเป็นผู้รับผิดชอบการอัดเพลง

ถ้าหากคิดจะร่วมงานกันต่อ ก็ต้องทำตามที่สัญญาไว้ให้ได้

“ตัวแทนหลินคะ!”

หลังจากที่กู้ตงได้รับข่าวจากธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ ก็รีบไปเคาะประตูห้องทำงานของหลินเยวียนทันที เธอรู้สึกตื่นเต้นจนเก็บซ่อนไว้ไม่อยู่ “ทำสำเร็จแล้วค่ะ ธันเดอร์มิวสิกเลือกใช้เพลงของเราแล้ว!”

“ครับ”

หลินเยวียนคล้ายกับจะไม่แปลกใจที่กู้ตงมาหาตน และไม่แปลกใจยิ่งกว่าที่ธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ถูกใจเพลงของตน

เขาหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก เดินไปพลางพูดกับกู้ตงซื่งเดินตามมา “ไปส่งผมที่ธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์หน่อยได้มั้ยครับ”

หลินเยวียนรู้ว่าเวลากระชั้นมาก

ใช่ว่าเขาจะไม่ใส่ใจเรื่องนี้

ความจริงแล้ว เมื่อหลายวันก่อน หลินเยวียนได้สืบค้นข้อมูลของธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์เรียบร้อยแล้ว

เดิมทีคิดว่าถ้าเขาใช้วิธีการกรองคนอย่างง่าย ก็อาจหาเสียงที่เหมาะสมกับเพลงไม่ได้ จำเป็นต้องใช้ข้อมูลและรายละเอียดของนักร้องจากทางธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์

ปรากฏว่าในการคัดสรรครั้งแรก เขาก็หาผู้ขับร้องที่เหมาะสมกับเพลงนี้ได้แล้ว

………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน