ตอนที่ 161 ความตายของปี้เหยา
วันเวลาหลังจากนั้น เซวียเหลียงก็มาเรียนกับหลินเยวียนทุกวัน
แน่นอน อาหารเย็นของหลินเยวียนในทุกๆ วันล้วนมีเซวียเหลียงเป็นคนจัดการ
ฝีมือการทำอาหารของเซวียเหลียงถ้าหากใช้ค่าความสามารถมาเป็นเกณฑ์ในการวัด อย่างน้อยก็ต้อง 600 ขึ้นไป
ส่วนเจี่ยนอี้น่ะเหรอ
ติดลบไปเลย
แต่เจี่ยนอี้ก็ไม่ได้ยอมจำนน เขาคอยเป็นลูกมือ และเรียนรู้การทำอาหารกับเซวียเหลียงทุกวัน
เพียงแต่เมื่อเป็นเช่นนี้ การนับลำดับอาวุโสก็ยิ่งอีรุงตุงนังเข้าไปอีก
เซวียเหลียงเดิมทีเป็นลูกศิษย์ของหลินเยวียน หลังจากเจี่ยนอี้เรียนทำอาหารกับเซวียเหลียง รู้สึกว่าตนกลายเป็นศิษย์หลานของหลินเยวียนไปโดยปริยาย
อืม…
ต่างคนต่างก็มีมุมมองของตัวเอง
และทุกครั้งที่เรียนจบคาบ หลินเยวียนจะคอยตรวจสอบค่าความสามารถของเซวียเหลียง
เขารู้ดีว่าค่าความสามารถของเซวียเหลียงเพิ่มขึ้นอย่างคงที่ตลอด
จากความเป็นไปของแนวโน้มนี้ การที่เซวียเหลียงจะแตะถึงระดับนักแต่งเพลงมือทองเมื่อไหร่ ก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น
และในตอนนั้น วันเวลาก็ดำเนินมาถึงเดือนตุลาคม
ในดินแดนของเพื่อนบ้านอย่างฉินโจว กระบี่เทพสังหารเล่มใหม่ก็วางแผงอย่างเป็นทางการ!
ขณะนั้นโลกของกระบี่เทพสังหารก็เปิดเผยอย่างชัดเจน
สงครามระหว่างทีมปี้เหยากับทีมเสวี่ยฉีก็มีแนวโน้มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นปี้เหยาหรือลู่เสวี่ยฉี ก็ล้วนสั่งสมฐานแฟนคลับไว้ได้สูงมาก!
ฐานแฟนคลับเหล่านี้ ล้วนหล่อหลอมจนกลายเป็นความรักที่นักอ่านมีต่อนิยายเรื่องนี้
ฉะนั้นแล้ว ทุกครั้งที่นิยายเรื่องกระบี่เทพสังหารเล่มใหม่ออกมา ผู้อ่านก็จะตั้งหน้าตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ
แต่ว่า…
ทันทีที่เห็นว่าเล่มล่าสุดออกมา
เมื่อจางเสี่ยวฝานรู้ความจริงที่หมู่บ้านหญ้าคาถูกล้างบาง และคนที่ช่วยชีวิตตนและหลินจิงอวี๋ก็คือผู่จื้อ จิตสังหารก็สุมอยู่เต็มอก และถึงกับค่อยๆ จมดิ่งลงสู่วิถีมาร
ผู้อ่านรู้สึกหวั่นวิตกขึ้นมา
นี่คือจุดพีคของเรื่องราว ประมุขนิกายปีศาจบุกโจมตี และกระบี่เทพสังหารก็ถือกำเนิดขึ้นในที่สุด
ชั่ววินาทีนั้นทำให้ผู้อ่านจำนวนหนึ่งหัวใจเต้นระส่ำด้วยความตื่นเต้น!
แต่ถึงอย่างนั้น ใครจะไปคาดคิดล่ะว่าหลังจากที่กระบี่เทพสังหารกำเนิดขึ้นมา คนแรกที่จะถูกเด็ดหัวก็คือจางเสี่ยวฝาน ซึ่งในตอนนั้นเป็นจางเสี่ยวฝานที่วิชามารเข้าแทรก และกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ในสายตาของเจ้าสำนักเมฆาคราม
จางเสี่ยวฝานต้องตายสถานเดียว
ความรู้สึกของนักอ่านปั่นป่วนอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นไม่เท่าไหร่ เรื่องราวส่วนที่ทำให้ผู้อ่านต่างพากันหายใจกันไม่ทั่วท้องก็ได้ปรากฏขึ้นแล้ว!
ยามที่กระบี่เทพสังหารพุ่งตรงเข้ามาหมายปลิดชีพจางเสี่ยวฝาน เงาร่างสวมอาภรณ์สีเขียวกลับเข้ามาขวางเบื้องหน้า!
‘เก้าผีวิญญาณมืด ทวยเทพแลเหล่ามาร ขอโลหิตข้า หลั่งมาสังเวย’
‘สามภพเจ็ดภูมิ ต่อให้ติดอยู่ในขุมนรก ขอทำเพื่อรัก แม้ตายก็ไม่เสียดาย…’
ปี้เหยา!
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย เป็นปี้เหยาที่เข้ามาขวางหน้าจางเสี่ยวฝาน ใช้ชีวิตและจิตวิญญาณเข้าแลก รับคมกระบี่เทพสังหารแทนจางเสี่ยวฝาน!
กระแสลมโหมคลั่งเปลี่ยนทิศในฉับพลัน กลายเป็นน้ำวนขนาดมหึมาโอบล้อมร่างของปี้เหยา
หญิงสาวผู้ซึ่งทั้งอ่อนโยนและงดงามถูกแรงลมหอบขึ้นกลางอากาศ หันหน้าเข้ารับกระบี่หลากสีสัน
ชั่ววินาทีนั้น นางเป็นแสงอันเจิดจรัสเพียงแห่งเดียวในใต้หล้า!
ยามกระบี่เทพสังหารผ่าลงมาโดยไม่อาจหยุดยั้ง ทั้งผืนปฐพีก็พลันเกิดเสียงดังกัมปนาท
ท่ามกลางความพร่ามัว ร่างอรชรอ่อนปวกเปียกก็ค่อยๆ ร่วงหล่นลงสู่พื้น
ทั่วทั้งใต้หล้าเงียบสงัดลงฉับพลัน
จางเสี่ยวฝานยื่นมือออกไปไขว่คว้า แต่กลับไม่อาจแตะต้องสิ่งใดได้
สิ่งสุดท้ายที่ร่วงหล่นลงบนฝ่ามือ กลับเป็นชายเสื้อสีเขียวชิ้นหนึ่งที่ยังไม่มอดไหม้
“ทำไมเจ้าถึงโง่งมเช่นนี้เล่า…ข้ายังไม่ทันได้บอกเจ้าเลย ว่าคนที่ข้าเห็นในบ่อน้ำโบราณนั่น ก็คือเจ้า…”
จางเสี่ยวฝานอับจนหนทาง
และผู้อ่านนับไม่ถ้วน เมื่อต้องเผชิญกับพล็อตที่ถูกเรียกขานว่าเป็นจุดหักมุมของทั้งเรื่อง ก็เดือดดาลกันสุดขีด!
บางคนโวยวายด้วยความโมโห!
ปี้เหยาตายแล้ว?
หลายคนยอมรับความจริงนี้ไม่ได้ไปชั่วขณะ
ในตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นทีมปี้เหยา หรือว่าทีมเสวี่ยฉี หรือแม้แต่ทีมฮาเร็มซึ่งเมื่อเทียบกันแล้วเป็นส่วนน้อย ก็ไม่อาจข่มกลั้นความรู้สึกในใจ จนต้องมาระบายอารมณ์ในกระทู้ที่เกี่ยวข้องบนโลกออนไลน์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน