ตอนที่ 168 สตาร์ไลท์มิวสิก – ตอนที่ต้องอ่านของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนนี้ของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเงินทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 168 สตาร์ไลท์มิวสิก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 168 สตาร์ไลท์มิวสิก
ชีซิงเอนเตอร์เทนเมนต์
ในฐานะหนึ่งในบริษัทบันเทิงขนาดใหญ่ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในฉีโจว ขนาดของชีซิงอยู่ในระดับเดียวกับธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ และในห้องพักบนชั้นสิบสองของบริษัท สุ่ยอวิ๋นก็มาพบปะกับทีมงานของเธอ
“พี่อวิ๋น”
ผู้จัดการของสุ่ยอวิ๋นเป็นตัวแทนของทีมงาน เอ่ยขึ้นอย่างยิ้มแย้ม “หลังจากที่บริษัทเราเปิดออเดอร์แข่งขันไป ประสิทธิภาพของบริษัทเหล่านี้ก็สูงมากค่ะ เพลงที่สั่งทำก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว”
“เรดมูนกับโลนวูล์ฟล่ะ”
“สุ่ยอวิ๋นค่อนข้างให้ความสำคัญกับสองบริษัทนี้”
ผู้จัดการกล่าว “โลนวูล์ฟทำชิ้นงานเสร็จตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เรดมูนช้ากว่าหน่อย แต่ก็ทำเสร็จแล้วก็ส่งเพลงมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว บริษัทระดับพวกเขาถ้ายอมตั้งใจทำ สองเดือนทำเสร็จหนึ่งออเดอร์ก็ไม่ใช่ปัญหา ความจริงพิสูจน์แล้วว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับออเดอร์นี้มากทีเดียว พี่อยากฟังเพลงของใครดีคะ”
สุ่ยอวิ๋นบอก “โลนวูล์ฟแล้วกัน”
ผู้จัดการพยักหน้า พลางกดเปิดผลงานของโลนวูล์ฟ
นี่เป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ใช้ได้เลย รวมไปถึงเนื้อเพลงและเรียบเรียงเพลงก็ทำได้ดี หนำซ้ำโลนวูล์ฟยังอุตส่าห์หานักร้องซึ่งเนื้อเสียงใกล้เคียงกับสุ่ยอวิ๋นมาอัดเพลงเดโมด้วย เพื่อให้สุ่ยอวิ๋นสัมผัสได้ถึงบทเพลงอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ตรงนี้ต้องขออธิบายสักเล็กน้อย
ผู้รับงานฝีมือดีมักจะทำทั้งทำนองและเรียบเรียงเพลงรวมกัน ส่วนการทำเนื้อเพลงเป็นโปรเจ็กต์เสริม
ส่วนความแตกต่างของการแต่งทำนองเพลงและเรียบเรียงเพลง เกณฑ์และมาตรฐานในการตัดสินทั้งในประเทศจีนและนานาชาติบนดาวโลก
นักประพันธ์เพลงระดับนานาชาติ อันที่จริงจะหมายรวมถึงบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำทั้งทำนองและเรียบเรียงเพลง ซึ่งก็เป็นรูปแบบที่หลินเยวียนทำอยู่
แน่นอนว่านี่เป็นคำอธิบายทางวิชาการที่นานาชาติใช้กัน
และคำอธิบายดั้งเดิมของแดนมังกรกล่าวไว้ว่า
ประพันธ์ทำนองเปรียบเหมือนการสร้างคนขึ้นมา และเรียบเรียงเพลงเป็นการแต่งองค์ทรงเครื่อง
อย่างหลังเป็นงานที่แยกออกไป…
บลูสตาร์คล้ายกับจะหยุดอยู่ระหว่างสองนิยามนี้
นักประพันธ์เพลงส่วนมากจะยินดีเรียบเรียงทำนองและเนื้อเพลง แต่ถ้าหากผู้ว่าจ้างรู้สึกว่าใช้ไม่ได้ก็ต้องเรียบเรียงเพลงและแก้เนื้อร้องใหม่ และเลือกใช้เพียงทำนองส่วนที่ใช้เสียงคนขับร้อง
แต่ถึงอย่างนั้น โลนวูล์ฟก็เป็นบริษัทซึ่งอยู่บนอันดับที่สูงมาก
ผลงานที่พวกเขาปล่อยออกมา ไม่ว่าจะเป็นทำนองเพลงหรือการเรียบเรียงเพลง หรือแม้แต่เนื้อเพลงก็ล้วนทำออกมาได้ไม่เลวเลย
หลังจากที่ฟังจบ คนในทีมจำนวนไม่น้อย ก็มีสีหน้าฉายแววพึงพอใจ
สุ่ยอวิ๋นไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะให้คนเปิดเพลงของเรดมูนต่อ
เมื่อฟังจบแล้ว ทีมงานของสุ่ยอวิ๋นก็ตกอยู่ในความสับสน
เพราะผลงานของเรดมูนก็ไม่เลวเช่นกัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เตรียมพร้อมรอบด้าน ที่เรียบเรียงเพลง เขียนเนื้อเพลง และขับร้องมาเป็นเพลงเดโมอย่างโลนวูล์ฟ ทว่าด้านทำนองเพลงก็ควรค่าแก่การยอมรับ
“พูดข้อสรุปกันก่อนแล้วกัน”
สุ่ยอวิ๋นเอ่ย “เพลงของโลนวูล์ฟ คล้ายกับผลงานครั้งก่อนของฉันมาก เรียกได้ว่าทำออกมาตรงตามแบบฉบับของฉันเลย แต่ปัญหาก็คือฉันต้องการความแปลกใหม่แหวกแนว เมื่อเทียบกับผลงานเมื่อก่อนของฉันแล้ว เพลงนี้ไม่ได้ออกจากกรอบเดิมสักเท่าไหร่”
ผู้คนพากันพยักหน้า
สุ่ยอวิ๋นพูดต่อ “แล้วก็เพลงของเรดมูน ปัญหาของเรดมูนตรงกันข้ามกับโลนวูล์ฟเลย ก็คือเรดมูนแปลกใหม่แหวกแนวมากเกินไป ถึงกับกล้าใส่ท่อนแร็ปเข้ามา ฉันไม่ได้ต่อต้านแร็ปนะ แต่ฉันชอบการแร็ปแบบที่มีเมโลดีมากกว่า…”
“งั้นสรุปว่าเลือกเพลงไหนเหรอคะ”
ผู้จัดการลองถามหยั่งเชิง
หลังจากสุ่ยอวิ๋นขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เอ่ยขึ้น “ยังมีอีกสามชิ้นไม่ใช่เหรอ ส่งมาหรือยัง”
“เอ่อ…”
ผู้จัดการเงียบงันไปชั่วขณะ เปิดอีเมลของตนเอง ก่อนจะเลิกคิ้วตอบว่า “อีกสามเจ้าที่เหลือส่งงานมาแล้วค่ะ แต่สามบริษัทนี้ที่จริงแล้วถูกใส่มาประกอบเฉยๆ เหตุผลข้อนี้พี่อวิ๋นน่าจะเข้าใจดีนะคะ”
“งั้นก็ส่งมาให้ฉันลองฟังก่อน”
สุ่ยอวิ๋นโบกมือ “ช่างเถอะ หยิบหูฟังมาให้ฉัน ฉันจะฟังเพลงที่เหลือต่อ พวกคุณคุยกันไปก่อนเลยว่าเลือกโลนวูล์ฟหรือเรดมูนดีกว่ากัน”
ผู้จัดการมองไปยังสุ่ยอวิ๋น
ไม่รู้ว่าเพลงในหูฟังของสุ่ยอวิ๋นนั้นเสียงดังเกินไปหรือเปล่า เพราะเธอไม่ได้ยินเสียงของผู้จัดการเลย เพียงแค่นั่งเอนกายหันข้าง ด้วยท่าทางประหนึ่งกำลังดื่มด่ำในบทเพลง ขาซ้ายขวาขยับดุกดิกขึ้นลงไปตามจังหวะ…
“พี่อวิ๋น?”
ผู้จัดการพูดเสียงดังขึ้น
สุ่ยอวิ๋นก็ยังคงไม่ได้ยิน
ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่ได้คิดว่าสุ่ยอวิ๋นกำลังตั้งใจฟังเพลง พวกเขาสงสัยว่าสุ่ยอวิ๋นอารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะทุกคนทะเลาะกันรุนแรงจนเหลือรับ?
“พี่อวิ๋น!”
ผู้จัดการเดินเข้าไปตรงหน้าของสุ่ยอวิ๋น
เมื่อสุ่ยอวิ๋นเห็นผู้จัดการเต็มวิสัยทัศน์ ก็ได้สติกลับมาจากบทเพลง เธอลุกพรวดขึ้นมา ทำเอาทีมงานทุกคนสะดุ้งโหยง ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดสุ่ยอวิ๋นถึงได้มีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้
“ฉันตัดสินใจแล้ว!”
น้ำเสียงของสุ่ยอวิ๋นรวดเร็วเฉียบขาด
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็จ้องมองสุ่ยอวิ๋น ผู้จัดการเองก็เช่นกัน ในใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วสุ่ยอวิ๋นจะเลือกเรดมูนหรือโลนวูล์ฟ
ไม่ใช่เรดมูน
และไม่ใช่โลนวูล์ฟ
สุ่ยอวิ๋นถอดหูฟังข้างซ้ายออก พูดออกมาคำหนึ่งอย่างหนักแน่นไร้ซึ่งความลังเลแม้แต่เสี้ยวเดียว
“สตาร์ไลท์มิวสิก!”
ชั่ววินาทีนั้น หลายคนนึกสงสัยว่าตนฟังผิดไปหรือเปล่า บางคนยืนอึ้งอยู่กับที่ ผู้จัดการถึงกับต้องมาเค้นสมองขบคิด สตาร์ไลท์มิวสิกคือบริษัทไหนล่ะเนี่ย
………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...