Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 185

ตอนที่ 185 ปรมาจารย์สอนการแสดง

การถ่ายทำใช่ว่าจะราบรื่นไปตลอดรอดฝั่ง

เริ่มต้นมาก็สนุกสนานครึกครื้นกันอยู่หรอก แต่หลังจากที่ถ่ายทำมาได้สักระยะหนึ่ง การแสดงเริ่มมีความยากขึ้น นั่นก็คือจุดที่มีมุกตลกพิลึกกึอกือเหล่านั้น พานให้พระเอกอย่างเหอเซิ่งคล้ายจะควบคุมไม่อยู่

ในวันนี้

ระหว่างการถ่ายทำฉากในจวนสกุลหวา ไม่ว่าเฮ่อเซิ่งจะแสดงอย่างไรก็หาอารมณ์ไม่เจอสักที ต่อให้เป็นคนที่อารมณ์ดีอย่างอี้เฉิงกง ก็ยังทนไม่ไหวบอกให้พักการถ่ายทำชั่วคราว และเรียกเฮ่อเซิ่งไปคุยส่วนตัวร่วมสิบนาทีเห็นจะได้

น่าเสียดายที่ผลสัมฤทธิ์ของการคุยส่วนตัวนั้นมีขีดจำกัด…

เมื่อเข้าไปอยู่ในการแสดงอีกครั้ง ผลลัพธ์จากการตีบทของเฮ่อเซิ่ง ยังคงแตะไม่ถึงตามมาตรฐานของอี้เฉิงกง

ไม่เพียงอี้เฉิงกง

แม้แต่โปรดิวเซอร์อย่างเสิ่นชิงซึ่งส่วนมากจะตามติดกองถ่าย ก็ยังมองออกว่าเฮ่อเซิ่งแปลกไป

ส่วนรายละเอียดนั้นยากจะอธิบาย

ความรู้สึกก็คือ เฮ่อเซิ่งคล้ายว่าจะไม่ตลกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว?

แต่นี่ก็เป็นเรื่องปกติ

การถ่ายทำภาพยนตร์มักจะเจอกับความยากเช่นนี้

มาตรฐานของอี้เฉิงกงนั้นเข้มงวดสักหน่อยนับเป็นเรื่องดี

อันที่จริงนี่ไม่ใช่ปัญหาของเฮ่อเซิ่งหรอก แต่เป็นปัญหาจากการวางบทบาทของตัวละครอย่างถังปั๋วหู่ เพราะต้องเข้าใจก่อนว่านี่เป็นตัวละครของโจวซิงฉือ!

ตัวละครของโจวซิงฉือนั้นแลดูตลกโปกฮา แสดงออกมาได้อย่างเรียบง่ายสบายๆ แต่แท้จริงแล้วพวกเขาต้องใช้ทักษะด้านการแสดงคอมเมดีที่สูงมาก

ถึงอย่างไรเฮ่อเซิงก็ไม่ใช่โจวซิงฉือ

เขาแสดงช่วงหนึ่งออกมาได้ดี ไม่ได้หมายความว่าเขาจะคุมทั้งเรื่องได้อยู่หมัด

ถ้าหากหาโจวซิงฉือเวอร์ชันสำเนาบนบลูสตาร์ได้ง่ายดายปานนั้นจริง โจวซิงฉือก็คงไม่ใช่โจวซิงฉือหรอก

สุดท้ายแล้วอี้เฉิงกงก็อับจนหนทาง ทำได้เพียงโบกมือไหวๆ “ถ่ายส่วนของคนอื่นก่อนแล้วกัน”

เฮ่อเซิ่งพยักหน้า ไปนั่งหลบมุมด้วยความหงุดหงิดใจ

เขาเป็นเพียงนักแสดงตัวเล็กๆ ประสบการณ์การแสดงที่มี แท้จริงแล้วมาจากประสบการณ์การเป็นตัวประกอบล้วนๆ

ทักษะการแสดงที่ร่ำเรียนมาใช้กับที่นี่ไม่ได้เลย…

ฉะนั้นแล้ว เมื่อการแสดงเข้าสู่ภาวะชะงักงันราวกับติดอยู่กลางคอขวด เขาทำได้เพียงหาวิถีทะลวงออกมาด้วยตนเอง

ไม่มีผู้ช่วย เขาเริ่มรู้สึกกระหายขึ้นมา ขณะที่กำลังไปหาน้ำดื่ม ด้านข้างกลับมีน้ำแร่ขวดหนึ่งยื่นมาให้

“ตัวแทนหลิน? ขอบคุณครับ…”

เฮ่อเซิ่งลุกขึ้นอย่างเก้อเขิน

หลินเยวียนเป็นนักเขียนบท แต่เสิ่นชิงกับอี้เฉิงกงล้วนแต่เรียกหลินเยวียนว่าตัวแทนหลิน ทำให้คนอื่นๆ พลอยเรียกหลินเยวียนว่าตัวแทนหลินตามไปด้วย

ขณะเดียวกันในใจของเขาก็อดรู้สึกวิตกขึ้นมาไม่ได้

เขากังวลว่าตัวแทนหลินจะไม่พอใจกับผลงานของตน จึงเดินมาต่อว่า

ที่ยื่นน้ำมาให้ตนดื่ม ก็เป็นเพียงความสงบก่อนพายุฝนพัดถล่มก็แค่นั้น

“นั่งเถอะครับ”

หลินเยวียนเอ่ยถาม “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”

หลินเยวียนเพิ่งใช้แคปซูลความทรงจำเสร็จ และเห็นภาพที่การแสดงของเฮ่อเซิ่งทำให้ผู้กำกับหัวเสียเข้าพอดี จึงมาหาด้วยความเป็นห่วง

“ผมหาความรู้สึกไม่เจอ…”

เฮ่อเซิ่งพูดอย่างรู้สึกผิด “หลังจากนี้ผมจะพยายาม…”

หลินเยวียนเงียบ…

ถ้าพยายามไปแล้วได้ผล จะมีระบบไว้ทำไมล่ะ

อันที่จริงหากว่ากันตามผลงาน เฮ่อเซิ่งก็มีกลิ่นอายของโจวซิงฉืออยู่มากทีเดียว ฉะนั้นหลินเยวียนถึงรู้สึกพึงพอใจกับนักแสดงอย่างเฮ่อเซิ่งมาก

แต่พึงพอใจก็ส่วนพึงพอใจ

ลึกๆ ในใจหลินเยวียนรู้ดี ไม่ว่าอย่างไรเฮ่อเซิ่งก็ไม่ใช่โจวซิงฉือ

หน้าใหม่คนนี้ไม่มีการแสดงของโจวซิงฉือมาเป็นต้นแบบด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าเขาคลำโขดหินข้ามแม่น้ำอย่างแท้จริง

แสดงออกมาได้แบบนี้ นับว่าเก่งมากแล้ว

และด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ อันที่จริงถ้าเฮ่อเซิ่งจะกลายเป็นโจวซิงฉือของบลูสตาร์ได้ จำเป็นต้องผ่านการขัดเกลาอีกมาก

บางทีเขาอาจมีหวังที่จะก้าวข้ามกำแพงตรงหน้านี้ไปได้

หรือบางทีเขาอาจก้าวไม่พ้นกำแพงนี้ไปชั่วชีวิต

แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นเรื่องของเฮ่อเซิ่ง เฮ่อเซิ่งจะต้องเป็นคนเอาชนะมันด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่หลินเยวียนต้องทำ ก็คือทำให้เฮ่อเซิ่งกลายเป็นโจวซิงฉือชั่วคราว!

“แพงเกินไป”

หลินเยวียนพึมพำ

เฮ่อเซิ่งงงงัน “อะไรแพงเกินไปเหรอครับ”

หลินเยวียนไม่ได้พูดอะไร

แพงเกินไปหมายถึงราคาของไอเทม ‘สตาร์พีซ’ ซึ่งตกผลึกฝีมือการแสดงของโจวซิงฉือ ราคาตั้งชิ้นละสามล้าน!

ประสิทธิภาพมีระยะเวลาหนึ่งชั่วโมง

หลินเยวียนเห็นว่าการแสดงของเฮ่อเซิ่งไม่มีปัญหา ดังนั้นจึงไม่ยอมใช้มาโดยตลอด

เห็นทีตอนนี้จำเป็นต้องหยิบออกมาใช้จริงๆ ซะแล้ว

แต่เรื่องนี้ไม่สามารถทำอย่างปุบปับฉับพลันได้ หลินเยวียนตัดสินใจพูดคุยกับเฮ่อเซิ่งเกี่ยวกับการแสดง หนังสือที่เขาอ่านหลายวันมานี้ไม่สูญเปล่า ลำพังเรื่องทฤษฎีการแสดง ความรู้ของหลินเยวียนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่านักแสดงมืออาชีพหลายคนเลย

“คุณคิดว่าถังปั๋วหู่เป็นผู้ยิ่งใหญ่หรือเป็นผู้น้อย”

“คนใหญ่คนโต…ล่ะมั้งครับ?”

“ผิดครับ ถังปั๋วหู่เป็นผู้น้อยต่างหาก”

หลินเยวียนสรุปรวมความรู้จากตำราที่ได้อ่านในช่วงนี้ เริ่มหว่านล้อมล่อหลอก แม้ว่านี่จะไม่ใช่สิ่งที่เขาถนัดเลยก็ตาม “ตามเนื้อแท้แล้ว ที่จริงถังปั๋วหู่เป็นแค่ผู้น้อย สิ่งที่เรียกว่าผู้ยิ่งใหญ่ ในความจริงเป็นแค่ตัวตนภายนอกเท่านั้น ผู้ยิ่งใหญ่ไม่มีทางอับจนหนทางแบบถังปั๋วหู่หรอกครับ ตัวตนที่แท้จริงของถังปั๋วหู่ในเรื่องนี้คือหวาอัน และสิ่งที่เขาประสบพบเจอในจวนสกุลหวา อันที่จริงก็เป็นสิ่งที่ผู้น้อยประสบพบเจอกันทั้งนั้น เพียงแต่เขามีไพ่ตายเป็นตำแหน่งของตัวเอง และไพ่ตายใบนี้เขาจะหยิบออกมาใช้ตอนท้ายเรื่อง”

เฮ่อเซิ่งชะงักไป

เขาพอใจเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว…

เปลือกนอกของถังปั๋วหู่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่ผู้ยิ่งใหญ่มีหรือจะรับมือกับภรรยาแปดคนไม่ได้?

ผู้ยิ่งใหญ่จะถูกภรรยาทั้งแปดคนป่วนจนแทบกระอักเลือด?

ผู้ยิ่งใหญ่จะพยายามตามจีบสาวใช้แทบเป็นแทบตาย แถมยอมถูกโขกสับสารพัด?

โดยเฉพาะตั้งแต่ถังปั๋วหู่เข้าไปในจวนสกุลหวา เขาก็กลายเป็นผู้น้อยไร้อำนาจและชื่อเสียงใด

อุตส่าห์ไปโวยวายแข่งกับคนอื่นว่าชีวิตของใครเอน็จอนาถกว่ากัน แถมหยิบแมลงสาบขึ้นมาตีโพยตีพายบอกว่าเป็นสหายรักมานานหลายปี

ตอนกินข้าวในโรงอาหาร ก็ถูกคนแย่งไปหมด จนตัวเองเหลือแค่จานเปล่า…

สิ่งที่คนผู้น้อยประสบพบเจอ ถังปั๋วหู่ก็ผ่านมาหมดแล้ว และปฏิกิริยายามที่เขาเผชิญเรื่องราวเหล่านี้ ไม่ว่าจะไร้สาระแค่ไหน ตลกขบขันอย่างบอกไม่ถูกแค่ไหน ก็ล้วนเป็นปฏิกิริยาที่ผู้น้อยพึงมีทั้งนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน