ตอนที่ 197 นกฟินิกซ์หรือจะสู้กุ้ง (1)
วันที่ 8 เมษายน
ในที่สุดหลินเยวียนก็มาถึงชมรมจิตรกรรมของวิทยาลัยศิลปะฉินโจว
ที่เป็นครั้งแรกที่หลินเยวียนแวะมายังชมรม ตั้งแต่กลับมายังมณฑลฉิน
ทันทีที่เขาเดินเข้าประตูมา หลายคนก็ลุกขึ้นยืน แววตาลุกโชนจับจ้องมาที่เขา มีคนเอ่ยถาม
“ท่านเทพกลับมาแล้ว วันนี้มาสอนเหรอ”
หลินเยวียนส่ายหน้าตอบ
วันนี้เขาไม่ได้มาสอน
ทุกคนอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้ แต่ก็ไม่มีใครตอแยหลินเยวียน เพียงแต่มองตามเขาตาละห้อยโดยไม่รู้ตัว…
ในชมรมมีกำแพงสำหรับจัดแสดงผลงาน บนนั้นแขวนผลงานของสมาชิกในชมรมไว้
เมื่อก่อนตอนที่หลินเยวียนอยู่ ผลงานก็มักจะถูกนำไปแขวนโชว์อยู่บ่อยครั้ง แต่ช่วงนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว
หลินเยวียนเดินมาถึงหน้ากำแพงจัดแสดง และมองดูผลงานที่แขวนไว้
ตอนนี้เขาต้องการผู้ช่วย ผู้ช่วยที่สามารถช่วยเขาวาดรูปได้จริงๆ
ผู้ช่วยคนนี้ อย่างน้อยก็ต้องมีฝีมือดีพอถึงขั้นที่ผลงานถูกนำมาจัดแสดง
ภาพวาดบนผนังทุกชิ้น ล้วนมีชื่อของผู้สร้างสรรค์ผลงานเขียนไว้
มีชื่อของหลายคนที่หลินเยวียนรู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง เพราะพวกเขาเป็นแขกประจำของกำแพงจัดแสดงผืนนี้ ก็เหมือนกับหลินเยวียนที่เมื่อก่อนผลงานของเขาก็ถูกนำมาอวดโฉมอยู่บ้างเป็นครั้งคราว…
“หลัวเวย?”
สายตาของหลินเยวียนจับจ้องไปยังภาพวาดแผ่นหนึ่ง
หลัวเวยคนนี้ เมื่อก่อนหลินเยวียนเคยเห็นชื่ออยู่หลายครั้ง
คนคนนี้เชี่ยวชาญภาพเขียนพู่กันโบราณ และฝีมือการวาดภาพเขียนพู่กันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลินเยวียนเลย แตะถึงระดับมืออาชีพด้วยซ้ำ!
เพียงแต่ในครั้งนี้ ผลงานของหลัวเวยกลับไม่ใช่ภาพเขียนพู่กัน แต่เป็นภาพสเก็ตช์บุคคลที่ลงสีแล้ว
ไม่ใช่สไตล์การวาดภาพสมจริง
นี่เป็นภาพบุคคลในการ์ตูนตามแบบฉบับ
ภาพของหญิงสาวงามพิเลิศเฉิดฉันท์สีหน้าเรียบเฉยแกมเย่อหยิ่ง บนศีรษะสวมมงกุฎ ชายกระโปรงยาวสวยสง่าลากไปตามพรมแดง
ฉากหลังคล้ายกับจะเป็นพระราชวัง
สิ่งปลูกสร้างแกะสลักงามวิจิตร ถ้วยชาลายประณีต แม้แต่รอยยับบนกระโปรงของดรุณีก็พลิ้วไหวเป็นธรรมชาติ ดึงดูดสายตาผู้คนทันทีที่แรกเห็น
“ภาพวาดฝีมือประธานชมรมสุดยอดเหมือนเสกมาเลย!”
ด้านข้างมีเสียงหนึ่งดังมา หลินเยวียนหันไปมอง ก็พบว่าเป็นจงอวี๋
“ได้ยินว่าท่านเทพมาแล้ว ฉันก็รีบมาทันทีเลย” จงอวี๋ยิ้มพลางเอ่ยอธิบาย
หลินเยวียนพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยถาม “ประธานชมรมคือใครครับ”
“ท่านเทพไม่รู้จักเหรอ…เอาเถอะ ประธานชมรมไม่ค่อยได้เข้าชมรมหรอก เทอมนี้ต้องสอบซ่อมทุกวี่ทุกวัน…นายคงไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้หรอกใช่ไหม เอาเป็นว่าหลัวเวยก็คือประธานชมรมจิตรกรรมของพวกเรา” จงอวี๋พูดแนะนำ
หลินเยวียนกระจ่างขึ้นมา
ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านข้าง เสียงนั้นแฝงไปด้วยความอืดอาดและไม่ใส่ใจ “ฉันก็ว่าใครมานินทาลับหลังว่าฉันสอบซ่อมอยู่ทุกวี่ทุกวัน ที่แท้ก็เป็นจงอวี๋ ปีนี้ฉันตกแค่สามวิชาเองค่ะ”
คำพูดนี้ พูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
จงอวี๋กลับหน้าเปลี่ยนสีทันที หันหน้าไปมองผู้หญิงที่เอ่ยคำพูดนี้ พูดด้วยรอยยิ้มขื่น “ประธานหลัว มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยนะ…”
“พวกนายดูภาพวาดของฉันจนเคลิ้มแล้ว”
เรือนผมยาวของหญิงสาวที่พูดปล่อยระบ่า ใบหน้าเรียวเป็นธรรมชาติ สันจมูกเรียวตรง ดวงตาโตดำขลับ บวกกับรูปร่างสูงสะโอดสะองโดดเด่น ให้กลิ่นอายของสาวผมดำยาวในอนิเมะ ต่อให้อยู่ในสถาบันด้านศิลปะอย่างวิทยาลัยศิลปะฉินโจว รูปร่างหน้าตาของเธอก็จัดอยู่ในกลุ่มที่โดดเด่นอันดับต้นๆ
สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือ ใบหน้าซีกขวาของเธอมีแถบสีดำพาดอยู่
คนที่วาดภาพสเก็ตช์บ่อยๆ ก็น่าจะรู้ว่านี่เป็นร่องรอยบนใบหน้าซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากวาดภาพที่ใช้ความเข้มของเส้นสูง เช่นพวกเส้นผมเป็นต้น
เธอก็คือหลัวเวย ประธานชมรมจิตรกรรม
“หน้าเธอ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน