ตอนที่ 226 ดูซ้ำ
ความตลกยังคงดำเนินต่อไป
เป็นเพราะ ‘กวีนิพนธ์ถังอิ๋น’ ฉบับนี้และความเคืองแค้นของหวาฮูหยิน ถังปั๋วหู่จำต้องปิดบังตัวตนและใช้ชีวิตในฐานะหวาอัน
เมื่อถังปั๋วหู่เคาะถ้วยเคาะชามร้องเพลงใส่ร้ายป้ายสีตนเอง คอมเมนต์กระสุนก็รัวเข้ามาอย่างแน่นขนัด
‘หมดสภาพแล้ว!’
‘ด่าตัวเองไปอีก!’
‘โอ้โฮ กะมาเอาฮาอย่างเดียวว่างั้น?’
‘ดูพวกหวาฮูหยินสิ ขยับคอยึกๆ ยักๆ อย่างฮา!’
‘ฟังแล้วเคลิ้มไปอีก!’
‘ใครจะรู้ว่าถังปั๋วหู่…ใช้ไม่ได้ เจ้าเล่ห์จริงๆ!’
‘เซี่ยนอวี๋สมแล้วที่เป็นนักประพันธ์เพลงระดับปรมาจารย์ เรื่องความตลกเอาไว้ก่อน เพลงของเรื่องนี้เพราะจริงอะไรจริง!’
‘หัวเราะจนปวดท้องแล้ว!’
‘…’
เคาะถ้วยชาม เคาะม้านั่ง เคาะเสา ถังปั๋วหู่สามารถนำทุกสรรพสิ่งมาแต่งเป็นเพลงได้ นับว่าเป็นคำประเมินโดยสรุปอย่างครบถ้วนของเขาเอง
ปราดเปรื่องทั้งการเขียนบทกวีและจิตรกรรม แถมยังเชี่ยวชาญด้านจังหวะดนตรี
ภาพยนตร์เรื่องอื่น ฉากประเภทนี้มักจะเป็นเพียงฉากฉากเดียว แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างกลับกลายเป็นดูน่าเชื่อถือไปหมด!
บทกลอนของถังปั๋วหู่
ทำนองเพลงของถังปั๋วหู่
ล้วนเป็นฝีมือระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย!
สมศักดิ์ศรีกับการเป็นสี่ปราชญ์แห่งเจียงหนาน!
ภาพยนตร์ยังคงดำเนินต่อเนื่องตามเส้นเรื่อง ตัวละครอื่นๆ ไม่ได้มีความสำคัญอะไร
เมื่อเรื่องราวเข้าสู่จุดพลิกผันอีกครั้ง จู้จือซานก็ปรากฏตัว
เขาปลอมตัวเป็นถังปั๋วหู่ สุดท้ายแล้วจึงถูกจับและนำตัวมายังจวนสกุลหวา ประจวบเหมาะกับที่หนิงอ๋องซึ่งวางแผนก่อกบฏมาหาเรื่องกับหวาไท่ซือ
ดังนั้น
เมื่อจู้จือซานซึ่งปลอมตัวเป็นถังปั๋วหู่พัฒนาสัมพันธ์หวานชื่นกับพี่สือหลิว และวาดภาพลูกไก่จิกเมล็ดข้าวอย่างมั่นอกมั่นใจต่อหน้าทุกคน ต่อให้เป็นคนที่เส้นลึกซะยิ่งกว่าลึก ก็ต้องระเบิดหัวเราะออกมา!
นี่เป็นฉากดังของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ
สามารถกลายเป็นฉากดังได้ ก็เพราะว่าบทสุดคลาสสิกช่วงนี้เอง
‘ภาพหงส์ฟ้าผงาดสุดยอดไปเลย!’
‘เสือตัวจริงจะออกโรงแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ’
‘พี่จู้จือซานไปหาพี่สือหลิวของพี่เร็ว’
‘อรุก พี่สือหลิว…’
‘แบบนี้ใครจะหยุดได้!’
‘พี่สือหลิวนัมเบอร์วัน!’
‘…’
เติ้งฉือก็เริ่มหัวเราะจนปวดท้องแล้ว
ถูกต้อง หัวเราะแล้ว
หนังเรื่องนี้มีมุกตลกโผล่มาแทบจะทุกวินาที ทำให้ผู้ชมหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
อะไรนะ
โรคซึมเศร้า?
อย่างน้อยในตอนนี้ เขาก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท เขายกมือกุมท้อง น้ำตาแทบไหลออกมาแล้ว
อันที่จริง
เมื่อเรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ ฉากดังก็ตามกันมาเรื่อยๆ
ในขณะนั้น
หนิงอ๋องส่งเจ้าหน้าที่ทางการมาท่องโคลงคู่บทแรก “หนึ่งหมู่บ้านสองครอบครัว พ่อลูกสามคนไม่รู้จักสี่ตำราห้าคัมภีร์หกคุณค่า ยังกล้าสอนลูกเจ็ดแปดเก้าคน อาจหาญเต็มสิบ!”
ทันทีที่โคลงคู่ออกมา อย่าว่าแต่หวาไท่ซือที่งง ผู้ชมก็งงไปเช่น!
โคลงคู่บาทนี้ยากมากอย่างไม่ต้องสงสัย
และภายใต้ความคาดหวังของผู้ชม ถังปั๋วหู่ตัวจริงก็ออกโรงแล้ว “สิบครอบครัว ยากจนไปเก้า หาเงินได้แปดตำลึงเจ็ดเฉียนหกเฟินห้าเหมาสี่หลี สามจิตสองใจไฉนโลเล หยาบคายเป็นที่หนึ่ง!”
“ผิด”
เจ้าหน้าที่ทางการแค่นหัวเราะเย็นเยียบ
เติ้งฉือขมวดคิ้ว
โคลงคู่บาทนี้ของถังปั๋วหู่น่าสนใจก็จริง แต่ไม่ประณีต ความจริงและจินตนาการไม่หลอมรวมเป็นหนึ่ง ทว่านี่เป็นภาพยนตร์ บางทีอาจไม่จำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง…
“ล้อเล่นหรอกน่า”
ถังปั๋วหู่เอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ “สิบอารามเก้าสมณะแปดคัมภีร์เจ็ดศีลหกครรลองห้ากฎเกณฑ์ ศิษย์พิเรนทร์สี่สามสองคน แม้หนึ่งวิธีกลับคิดไม่ออก ช่างน่าเสียดาย”
เติ้งฉือดวงตาเป็นประกาย!
กลอนวรรคนี้สัมผัสกันคล้องจองลงตัว!
ของดีไม่ได้มีเพียงเท่านี้?
คล้ายกับว่าต้องการทำให้พรสวรรค์อันโดดเด่นของถังปั๋วหู่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น โคลงคู่หลังจากนั้น ทุกๆ บาทล้วนสำแดงพลังอันสูงล้ำ
“ในภาพเขียนมังกรไม่กู่ร้อง พยัคฆ์ไม่คำราม บัณฑิตน้อยหัวเราะงอหงาย!”
“ในกระดานหมาก ราชรถไร้ล้อ อาชาศึกไร้บังเหียน ตะแบงเสียงเรียกแม่ทัพ ระวัง ระวัง!”
“นกเหยี่ยวนางแอ่นกระเต็น แดงเด่นโฉบเล่นประสานเสียง!”
“สายฝนสายลมบุปผาแมกไม้แรมปีสายัณห์อรุณรุ่ง!”
“คอ-อะ-คะ-นอ-อึ-งอ-นึง คะนึง คะนึงถึงบัลลังก์คะนึงถึงไพร่ฟ้าคะนึงถึงแผ่นดิน”
“ชอ-เออ-ยอ เชย ชอ-โอะ-มอ ชม เชยชมบุปผาเชยชมจันทราเชยชมชิวเซียง~”
“เจ้า…”
“ตลกนักหรือไง ขอ-ออ-บอ ขอบ คอ-อุ-ณอ คุณ ขอบคุณสวรรค์ขอบคุณองค์จักรพรรดิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน