ตอนที่ 229 องค์รัชทายาทตัวจริงเสียงจริง
ถ้าหากบอกว่ายอดเข้าชมภายในห้าชั่วโมงของภาพยนตร์ออนไลน์สามารถก่อให้เกิดการระเบิดของกระแสความโด่งดังในสายตาของเพนกวินวิดีโอ เมาฉ่าง หรือแม้แต่พวกเสิ่นชิง เมื่อหน่วยเวลาในการคำนวณถูกลากยาวเป็นหนึ่งวัน ก็ยิ่งเกิดเป็น ‘การระเบิด’ ในสายตาของผู้คนทั่วไปเช่นกัน!
หลายวันหลังจากนั้น
เมื่อการแนะนำจากเว็บไซต์และกระแสความฮ็อตฮิตของภาพยนตร์บ่มเพาะมาจนถึงจุดหนึ่ง ยอดเข้าชมของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศก็ทะยานสูงขึ้นในลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับภาพจำและความเข้าใจซึ่งผู้คนเคยมีต่อภาพยนตร์ออนไลน์!
2.03 ล้าน…
3.5 ล้าน…
4.92 ล้าน…
6.25 ล้าน…
ยามที่เวลาล่วงเลยเข้าวันที่เจ็ด ซึ่งก็เป็นเวลาที่สัปดาห์แรกกำลังจะจบลง เมื่อรวมเพนกวินวิดีโอกับเมาฉ่างเข้าด้วยกันแล้ว ยอดเข้าชมเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศก็ทะลุสิบล้านครั้งอย่างเป็นทางการ!
‘ยังไม่ครบเจ็ดวัน’
‘ภาพยนตร์ออนไลน์’
‘ยอดวิวสิบล้าน’
คีย์เวิร์ดเหล่านี้เมื่อนำมาประกอบเข้าด้วยกัน นับว่าน่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว มากพอที่จะทำให้คนที่มีความรู้เกี่ยวกับแวดวงนี้ต้องตกตะลึงไป ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่เว็บไซต์วิดีโอของแดนมังกรที่มักจะวัดและคำนวณยอดเข้าชมด้วยหลักร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย
ที่นี่คือบลูสตาร์!
ยอดเข้าชมสิบล้านครั้งของบลูสตาร์ เป็นยอดเข้าชมสิบล้านครั้งที่แท้จริงโดยปราศจากการปั่นยอดแต่อย่างใด เป็นการเข้าชมหลักสิบล้านซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากการจ่ายเงินครั้งละห้าหยวน!
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ
หากยังไม่เอ่ยถึงภาษี ส่วนแบ่ง และค่าโฆษณา ภาพยนตร์ออนไลน์เรื่องนี้ลำพังแค่ยอดเข้าชมซึ่งผู้ชมกดเข้ามาดู ก็ทำรายได้ 50 ล้านหยวนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์เต็ม ไม่รู้ว่ามีแพลตฟอร์มสตรีมวิดีโออีกกี่แห่งที่เป็นต้องกัดฟันกรอดด้วยความอิจฉา ยามที่ต้องมองดูเมาฉ่างและเพนกวินวิดีโอกอบโกยรายได้…
อันที่จริง
เมื่อเรื่องประหลาดเช่นนี้ปรากฏขึ้นในวงการภาพยนตร์ออนไลน์ ผลกระทบของมันก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ตัวภาพยนตร์ออนไลน์อีกต่อไป เพราะยามที่การถกเถียงที่เรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์จากทั้งฉินและฉีก็ให้ความสนใจมาอย่างไม่หยุดหย่อน
และในตอนนั้น
เมื่อเทียบกับกระแสความร้อนแรงในวงการภาพยนตร์ออนไลน์ เหล่าโจวซึ่งอยู่ในห้องทำงานของสตาร์ไลท์ในช่วงที่ผ่านมากลับไม่ได้มีความสุขนัก เพราะยอดบ็อกซ์ออฟฟิศของเรื่องอัสนีบาต ภาพยนตร์เรื่องแรกที่บริษัทฝากความหวังไว้กลับไม่สู้ดีนัก จะบอกว่าห่วยแตกก็คงไม่ถึงขั้นนั้น ทว่าไม่ได้เป็นที่น่าพอใจ บางทีอาจเป็นเพราะเหตุผลนี้ เหล่าโจวจึงถูกเรียกไปยังห้องทำงานของประธานกรรมการ
เหล่าโจวเข้าไปในห้องประธานกรรมการด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็ทำใจดีสู้เสือ กล่าวว่า “ประธานกรรมการไม่ต้องกังวลใจไปครับ จากแนวโน้มของยอดบ็อกซ์ออฟฟิศของเราในตอนนี้ สุดท้ายแล้วเรื่องอัสนีบาตก็จะถอนทุนคืนได้ไม่ยากครับ”
ยอดบ็อกซ์ออฟฟิศถล่มทลายนับว่ายอดเยี่ยม
แต่ถ้าหากสามารถคืนทุนได้ เรื่องอัสนีบาตก็จะนับว่าผ่านเกณฑ์เช่นกัน ถึงอย่างไรการได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายจากภาพยนตร์โพรดักชันขนาดใหญ่เรื่องแรกของบริษัท โดยไม่ขาดทุน ก็นับว่าเป็นกำไรอย่างหนึ่ง เหล่าโจวปลอบใจตนเองเช่นนี้
“อืม”
หลี่ซ่งหวาคล้ายกับไม่ได้สนใจคำพูดของเหล่าโจว เพียงแต่พูดพึมพำว่า “วันนี้จู่ๆ ก็มีเพื่อนผมคนหนึ่งโทรศัพท์มาแสดงความยินดี บอกว่าหนังของบริษัทเราสร้างได้ดีมาก ผลตอบแทนจากที่ลงทุนไปรับรองว่าเกินสิบเท่า”
“เกินไปครับ!”
เหล่าโจวได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วน้อยๆ “ทำไมเพื่อนของประธานกรรมการพูดประชดอย่างนี้ล่ะครับ เรื่องอัสนีบาตถึงยังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราบุกวงการภาพยนตร์ ต่อไปตลาดนี้เราจะขยับขยายได้มากขึ้นในอนาคต”
“ใช่…”
ดวงตาของหลี่ซ่งหวาหรี่ลงแลดูอันตราย มองเหล่าโจวอย่างใจลอย “ตอนแรกผมก็คิดว่าเขาประชด ตอนหลังผมถึงรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง หนังเรื่องนี้ของเราได้รายได้เป็นสิบเท่าจากที่ลงทุนจริงๆ ต่อให้นำไปเทียบกับทั้งวงการก็ยังโดดเด่น!”
“หา?”
เหล่าโจวงุนงงเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าคำพูดของหลี่ซ่งหวาหมายถึงอะไร แต่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าบรรยากาศในห้องนี้เย็นเฉียบขึ้นมา นั่นหมายความว่าตอนนี้ประธานกรรมการกำลังอารมณ์เสียสุดขีด เหล่าโจวทำใจสุขุม ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ประธานกรรมการช่วยอธิบายหน่อยครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจ…”
“ไม่เข้าใจ?”
เปลือกตาของหลี่ซ่งหวากระตุกตุบๆ เสียงกดต่ำลง “คุณก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่หรือ หนังเรื่องที่คุณเป็นคนขายไปน่ะ ผมเพิ่งรู้ว่าคุณใจกว้างกว่าผมซะอีก ตามใจพ่อเพลงตัวน้อยของเราจนเกินขีดจำกัดไปแล้วคุณน่ะ!”
“หลินเยวียน”
หัวใจของเหล่าโจวกระตุกวาบ รีบร้อนเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “เรื่องหนังที่หลินเยวียนสร้าง คุณก็ตอบตกลงแล้ว รวมทั้งเรื่องที่ผมขายหนังเรื่องนั้นให้เขา ก็รายงานคุณไปแล้ว คุณก็โอเคแล้วไม่ใช่เหรอครับ อีกอย่าง หนังเรื่องนั้นทำเงินได้ไม่เท่าไหร่ ขายให้เขาไปก็ไม่เป็นไร ถ้าคำนวณให้ละเอียดยังขาดทุนด้วย…”
“ทำเงินได้ไม่เท่าไหร่? ถ้าคำนวณให้ละเอียดยังขาดทุนด้วย?”
หลี่ซ่งหวาคว้าเอกสารฉบับหนึ่งบนโต๊ะมาทันที ก่อนจะโยนให้เหล่าโจวอย่างไม่สบอารมณ์ “งั้นคุณก็ดูว่านี่อะไร คุณบอกผมสิว่าหนังของเขาทำเงินได้ไม่เท่าไหร่ แถมยังขาดทุน? งั้นเรื่องอัสนีบาตของคุณทำเงินได้เท่าไหร่”
เหล่าโจวชะงักไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน