สรุปเนื้อหา ตอนที่ 23 มังกรมัจฉาเริงระบำ – Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet
บท ตอนที่ 23 มังกรมัจฉาเริงระบำ ของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ในหมวดนิยายการเงิน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 23 มังกรมัจฉาเริงระบำ
ไม่มีใครรู้ว่าจ้าวเจวี๋ยใช้เวลาไปนานแค่ไหนว่าจะเข้าใจความหมายของคำพูดที่หลินเยวียนทิ้งไว้ก่อนออกไป ชั่วขณะนั้นทั้งน่าขันทั้งซาบซึ้งใจ
ที่น่าขันก็คือ…
หลินเยวียนฟังเข้าใจจริงๆ เหรอว่าเธอต้องการเพลงระดับไหนกันแน่
ซาบซึ้งใจก็ตรงที่…
หลินเยวียนไม่อยากเห็นเธอกระวนกระวายใจขนาดนี้ ฉะนั้นจึงอยากช่วยเธอสักตั้ง
คร่ำหวอดในวงการมานานหลายปี ทำให้จ้าวเจวี๋ยได้เห็นนิสัยใจคอของคนมามาก จึงรู้ว่าสิ่งใดที่ล้ำค่าอย่างแท้จริง
ไม่ว่าจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงหรือไม่ นักแต่งเพลงล้วนมองว่าเพลงของตนเองมีค่าปานลูกในไส้ กลัวว่าชิ้นงานของตนจะถูกคนอื่นมองไม่เห็นค่า
ไหนเลยจะมีคนยกผลงานระดับนี้ให้เป็นของขวัญตอบแทนสำหรับอาหารมื้อง่ายๆ
หลินเยวียนกล้าพูดแบบนี้ แต่จ้าวเจวี๋ยกลับไม่สามารถฟังออกมาเป็นอย่างนั้น
ในตอนนี้จะเป็นหรือไม่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงก็ไม่สำคัญแล้ว
ถึงเพลงนี้ของหลินเยวียนจะไม่ช่วยเธอแล้วอย่างไร?
ลำพังแค่น้ำใจของหลินเยวียน แค่เขาปกป้องเธอแบบนี้ ก็มีค่ามากพอให้เธอเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีแล้ว
รอยยิ้มพลันอบอุ่นขึ้นมา
จ้าวเจวี๋ยเปิดอีเมล สวมหูฟัง เพื่อฟังบทเพลงที่มีชื่อว่า ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’
“ฮ่าๆ”
บทเพลงเปิดด้วยเสียงสังเคราะห์คุ้นหู ทำให้จ้าวเจวี๋ยหัวเราะออกมา
ครั้งก่อนหลินเยวียนส่งเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ให้ ก็ใช้เสียงสังเคราะห์ที่มีเอกลักษณ์แบบนี้เหมือนกัน
เพลงยาวสามนาทียี่สิบวินาทีบรรเลงจบลงอย่างรวดเร็ว
ทว่าทันทีที่ฟังจบ สีหน้าของจ้าวเจวี๋ยก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เธอเปิดเพลงนี้อีกครั้งโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ยังคงเป็นสามนาทียี่สิบวินาทีดังเดิม แต่ในครั้งนี้ เวลาคล้ายกับว่าจะช้าลงกว่าเดิม
เมื่อฟังเพลงจบ จ้าวเจวี๋ยก็ลุกขึ้นยืน แทบอยากวิ่งตามหลินเยวียนที่วิ่งออกไป
แต่ฝีเท้าพลันชะงัก จู่ๆ เธอก็หยุดลง ก้มหน้ามองอาหารกลางวันที่หลินเยวียนกินไปได้ครึ่งเดียว พึมพำว่า “เธอเรียกมันว่าของขวัญขอบคุณสำหรับมื้ออาหารเหรอ…”
“นี่ เสี่ยวจ้าว คิดอะไรอยู่ ใจลอยเลย”
เหล่าโจวก็มาที่โรงอาหาร มองปราดเดียวก็เห็นจ้าวเจวี๋ยซึ่งสวมหูฟัง สีหน้าแลดูซับซ้อน
“อ๋า”
ทันใดนั้นเหล่าโจวก็นึกบางอย่างออก “ยังเครียดเรื่องจะเซ็นสัญญากับผู้ชนะรายการ ‘สะพรั่ง’ ยังไงอยู่ใช่มั้ย ไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอหาเพลงมาลองดู แผนกประพันธ์เพลงคนเก่งเต็มไปหมด ต้องมีวิธีบ้างแหละ”
“ฉันว่า ไม่ต้องแล้ว”
จ้าวเจวี๋ยเอียงคอถอดหูฟังออก
เหล่าโจวชะงักไป “ทำไมล่ะ”
จ้าวเจวี๋ยยิ้มบาง “ไว้เดี๋ยวนายก็รู้แล้ว”
จ้าวอิ๋งเก้อเอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรงจะสนใจ “เพลงของใครล่ะ”
โจวเสี่ยวลี่เหลือบมอง พูดว่า “คนแต่งเพลงของเซวี่ยนล่านอิ๋งกวงชื่อหยางส่าน คนแต่งเพลงของซาไห่ชื่อเจี่ยงอี๋
คนแต่งเพลงของสตาร์ไลท์ชื่อเซี่ยนอวี๋”
หยางส่าน?
เจี่ยงอี๋?
เซี่ยนอวี๋?
จ้าวอิ๋งเก้อเลิกคิ้ว ในห้วงสำนึกปรากฏข้อมูลของคนเหล่านี้ “หยางส่านกับเจี่ยงอี๋เป็นนักแต่งเพลงมือทองในวงการ ส่วนเซี่ยนอวี๋เป็นนักแต่งเพลงที่เพิ่งเปิดตัว เดือนที่แล้วเพลงชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์ที่ได้อันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงใหม่ก็เป็นเพลงแรกของเขา แต่ว่าเพลงนั้นไม่ถูกจริตฉันเท่าไหร่ นึกไม่ถึงว่าสตาร์ไลท์จะถึงกับเอาเด็กใหม่มาหลอกฉัน ก่อนหน้านี้ไม่ว่าคุณภาพของเพลงจะเป็นยังไง เพลงที่ส่งมาก็มาจากมือทองของแต่ละบริษัททั้งนั้น…”
“เด็กใหม่?”
โจวเสี่ยวลี่พูดด้วยความกังวล “ดูท่าสามบริษัทใหญ่นี้จะหมดความอดทนกับเธอแล้ว สตาร์ไลท์ส่งมาแม้แต่เพลงของเด็กใหม่ หรือว่าพวกเรารีบเลือกสักบริษัท ฟังเพลงพวกนี้ดูก่อน”
“ช่างมันเถอะ”
หลายวันมานี้จ้าวอิ๋งเก้อถูกความผิดหวังโจมตีอยู่ตลอด “รอรวบรวมเพลงได้มากกว่านี้แล้วค่อยฟังแล้วกัน คิดซะว่าเป็นการทดสอบรอบสุดท้าย พอถึงตอนนั้นไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ฉันก็จะเลือกเซ็นสัญญากับสักบริษัทในนั้น ประวิงเวลาไปก็ไม่ใช่เรื่อง”
“ก็ได้”
โจวเสี่ยวลี่ยิ้ม “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉันจะเลี้ยงหนังเธอเอง วันอังคารหน้ามีอนิเมชันชื่อ ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ จะเข้าฉาย เธอชอบดูอนิเมชันไม่ใช่เหรอ ซื้อตั๋วตอนนี้เลือกที่นั่งดีๆ ได้ด้วยนะ”
“เธอซื้อเลย”
จ้าวอิ๋งเก้อก็อยากดูหนังให้สมองโล่งอยู่เหมือนกัน ช่วงนี้ฟังแต่เพลงที่บริษัทส่งมาติดๆ กัน ฟังจนสมองแทบระเบิดอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้จริงๆ เธอก็ทำได้แค่เลือกเพลง ‘ขุนเขากับทะเล’ ของเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงแล้ว
……………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...