Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 235

สรุปบท ตอนที่ 235 หนังเรื่องต่อไป: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอน ตอนที่ 235 หนังเรื่องต่อไป จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 235 หนังเรื่องต่อไป คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 235 หนังเรื่องต่อไป

เมื่อมีหลายตัวตน การรับมือก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้น บางทีการหาผู้จัดการสักคน ก็อาจช่วยหลินเยวียนแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้มาก…

เดี๋ยวจะลองเลือกคนดู

หลินเยวียนเปิดคอมพิวเตอร์ เสิร์ชหารายชื่อนักเขียนในวงการนิยายแฟนตาซีซึ่งได้รับการคัดเลือก

มีเทพสูงสุดสามตำแหน่ง

ได้แก่หนานจี๋ เฉินซิง และเอ้อร์เตาไจ่

สองท่านแรกเป็นนักเขียนนิยายแฟนตาซีชั้นครูของมณฑลฉิน เป็นนักเขียนซึ่งทำยอดขายถล่มทลาย ท่านที่สามเป็นนักเขียนนิยายแฟนตาซีชั้นนำของมณฑลฉี

ส่วนรางวัลมหาเทพนั้นมีสิบตำแหน่ง

ชื่อของฉู่ขวงจัดอยู่ในลำดับที่ห้า แต่รางวัลเจ้าเล่ห์นี้ดันเขียนหมายเหตุเพิ่มมาว่า

รายชื่อไม่เรียงอันดับ

ในรายชื่อมหาเทพนี้ หลินเยวียนยังเห็นชื่อของหมัวถง นักเขียนซึ่งปล่อยหนังสือในช่วงเดียวกับคนขุดสุสานของตน อีกฝ่ายอยู่ในลำดับที่สิบของรายชื่อตำแหน่งมหาเทพพอดิบพอดี…

จากนั้นเขาก็เปิดปู้ลั่ว

เป็นดังคาด หลินเยวียนเห็นว่าบนโลกออนไลน์ หลายคนกำลังพูดคุยกันถึงรายชื่อผู้ได้รับรางวัล

‘คือ? ไม่เรียงลำดับจริงเหรอ’

‘ยอดดีเลิศเด็ดขาด อันดับหนึ่งศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นทางการดิ้นรนเอาชีวิตรอดขนาดนี้’

‘สมาคมวรรณศิลป์: รายชื่อเรียงอันดับหรือไม่ พวกคุณพิจารณาเอาเอง’

‘อย่ากดดันทางการเลย รายชื่อนี้ที่จริงก็นับว่ายุติธรรมอยู่นะ ประเมินจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งยอดขายของนักเขียน อิทธิพลของนิยาย แล้วก็คุณภาพของนิยาย…’

‘ยุติธรรมจริงๆ แหละ’

‘จำนวนนักเขียนจากมณฑลฉินได้เปรียบชัดๆ เลย’

‘เทพสูงสุดรอบหน้าต้องมาจากหนึ่งในสิบมหาเทพสินะ’

‘…’

ล็อกอินเข้าบัญชีปู้ลั่วของฉู่ขวง หลินเยวียนก็พบว่าในพื้นที่แสดงความคิดเห็นเต็มไปด้วยข้อความแสดงความยินดีกับฉู่ขวงซึ่งคว้ารางวัลมหาเทพได้

‘คุณค่าที่คุณคู่ควร!’

‘ผมชอบเรื่องคนขุดสุสานโคตรๆ มหาเทพฉู่ขวงสู้ๆ!’

‘มหาเทพจะไปสู้เจ้าแก่ได้ไง ใช่มั้ย เจ้าแก่ฉู่ขวง’

‘ใช่แล้ว มหาเทพอะไรกัน คนที่เขียนให้ปี้เหยาตายจะต้องโดนเรียกว่าเจ้าแก่!’

‘ฉู่ขวง: ถึงจะแก่ แต่ก็เอาชนะใจผู้อ่านได้นะค้าบ’

‘ตลกอะ รอวันใดวันหนึ่งบ.ก.ยื้อฉู่ขวงไว้ไม่อยู่ แล้วเขาเกิดเขียนให้หยางเสวี่ยลี่ตายขึ้นมา พวกแกจะร้องไห้ไม่ออก!’

‘คงไม่หรอกมั้ง?’

‘ถ้าฉู่ขวงเขียนให้หยางเสวี่ยลี่ตาย ฉันจะตามไปทุบหลังเขา’

‘…’

หยางเสวี่ยลี่ก็คือเชอร์ลี่ หยาง

เป็นเพราะปรับเปลี่ยนภูมิหลังของยุคสมัย ตัวละครนี้จึงไม่ใช่ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนอีกต่อไป และไม่ได้ใช้ชื่อภาษาอังกฤษ

ดังนั้นในเรื่องคนขุดสุสาน ตัวละครนี้จึงใช้ชื่อว่าหยางเสวี่ยลี่

กล้าหาญใจกว้าง ละเอียดอ่อนเอาใจใส่ ตัวละครนี้จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้อ่าน และนับว่าได้รับการยอมรับให้เป็นตัวละครหญิงอันดับหนึ่งในเรื่องคนขุดสุสาน

อันที่จริง

หลายวันที่ผ่านมา เรื่องคนขุดสุสานเล่มที่สองตอนอุโมงค์ปริศนาแห่งเขามังกรวางขายไป เสียงตอบรับไม่ดีเท่าเล่มแรก

ทว่าช่วงนี้หลินเยวียนมัวแต่จดจ่ออยู่ที่ภาพยนตร์ จึงไม่ได้ใส่ใจนัก เพียงแต่ส่งต้นฉบับตามปกติ

บางทีอาจเป็นเพราะความรวดเร็วในการอัปเดตเล่มใหม่ของฉู่ขวงเกินกว่าคำว่าน่าสะพรึงกลัวด้วยซ้ำ ในพื้นที่แสดงความคิดเห็นจึงมีผู้อ่านที่เข้ามาเร่งให้เขาอัปเดตเล่มใหม่อยู่บางตาเหลือเกิน

สิ่งเดียวที่หลินเยวียนนึกไม่ถึงก็คือ…

อิ่งจือถึงกับเมนชันตน เพื่อแสดงความยินดีที่ได้รับรางวัลมหาเทพ

มหัศจรรย์ไหมล่ะ อิ่งจือมีชีวิตขึ้นมา? หลินเยวียนอึ้งไปสักพัก ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าหลัวเวยเป็นผู้ดูแลบัญชีผู้ใช้ของอิ่งจือ

หลัวเวยไม่รู้ว่าทั้งอิ่งจือ ฉู่ขวง และเซี่ยนอวี๋ล้วนเป็นนามแฝงของตน เพราะฉะนั้นเธอจึงใช้บัญชีผู้ใช้ของอิ่งจือเข้าไปแสดงความยินดีกับฉู่ขวง อันที่จริงเรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ที่มีปัญหาก็คือแฟนคลับ

‘ทางเซี่ยนอวี๋ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ทางอิ่งจือแสดงความยินดีแล้ว?’

‘เรื่องใหญ่อย่างรางวัลมหาเทพ อาจารย์เซี่ยนอวี๋ถึงกับเงียบกริบ ทะเลาะอะไรกับเจ้าแก่ฉู่ขวงหรือเปล่า’

‘อิ่งจือจะใช้โอกาสนี้ทำแต้มแล้ว!’

‘อิ่งจือคะแนนนำแล้วพี่ชาย!’

‘พวกเธอจุดประเด็นอีกแล้วเหรอ แต่ฉันชอบนะ’

‘อาจเป็นเพราะช่วงนี้ทุกคนเอาแต่พูดถึงฝีมือด้านวรรณกรรมของเซี่ยนอวี๋ มหาเทพฉู่ขวงของพวกเรารู้สึกเสียหน้าหรือเปล่า’

หลินเยวียนพยักหน้า

วันนี้เหล่าโจวคล้ายว่าจะมาแสดงความใส่ใจของบริษัทจริงๆ เมื่อดื่มน้ำชาเสร็จ และพูดคุยกันราวสิบนาที เหล่าโจวก็ขอตัวกลับไป

หลังจากเหล่าโจวออกไป

หลินเยวียนก็เริ่มขบคิด

ถึงแม้ในตอนนี้จะยังไม่รีบร้อนเตรียมโปรเจ็กต์ภาพยนตร์เรื่องใหม่ แต่ตนจัดการเรื่องบทไว้ล่วงหน้าก่อนได้

ส่วนประเภทของบท…

ตัวเลือกที่ดีที่สุด ก็คือจัดหนังตลกของโจวซิงฉือมาอีกสักเรื่อง

เพราะถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศได้วางรากฐานมั่นคงให้กับภาพยนตร์ชวนหัวไร้แก่นสารเป็นที่เรียบร้อย

แต่ไม่รู้ว่าระบบจะว่าอย่างไร

หลินเยวียนจึงเรียกระบบออกมา “ฉันสั่งผลิตหนังได้ไหม”

ระบบตอบ “ฟังก์ชันนี้ยังไม่เปิดใช้งานในตอนนี้ บทที่ระบบผลิตตอนนี้สุ่มธีมสุ่มหมวด”

หลินเยวียน “…”

เจ้าระบบนี่ไม่ได้ดั่งใจเอาซะเลย

มีที่ไหนกันสุ่มเลือกบท…

นี่มันแนวทางเดียวกับตอนสั่งทำนิยายเลยไม่ใช่หรือไง

จากนิสัยของระบบแล้ว เป็นไปได้มากที่หนังเรื่องต่อไปที่ ‘สุ่มเลือก’ ออกมานั้นจะเป็นคนละประเภทกับเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ ถึงขั้นที่อาจเกิดเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

แต่หลินเยวียนสังเกตเห็นคีย์เวิร์ดคำหนึ่งของระบบ

‘ในตอนนี้’

ฟังก์ชันนี้ยังไม่เปิดใช้งานในตอนนี้?

หรือจะกล่าวได้ว่า ในอนาคตตนจะสามารถสั่งผลิตภาพยนตร์ได้?

เอาเถอะ

หลินเยวียนเอ่ยว่า “งั้นสั่งทำบทใหม่เลยก็แล้วกัน”

ระบบ [กำลังผลิตบทภาพยนตร์…]

…………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน