Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 25

ตอนที่ 25 ศักยภาพ

ฉีโจว

‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ ฉายจบได้ไม่นาน ทีมผู้ผลิตก็รีบเปิดคำวิจารณ์ในเว็บไซต์ภาพยนตร์ฉีโจว หนึ่งในนั้นยังรวมไปถึงเจิ้งลี่ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

‘ดูแล้วต่อมน้ำตาระเบิดเลย!’

‘ฉันบอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าวันนี้ลิสต์หนังเศร้าได้สมาชิกใหม่ตัวโหดเพิ่มแล้ว’

‘หวังว่าทางผู้ผลิตจะปล่อยภาพชัดๆ ของมังกรเผือกแปลงเป็นปลายักษ์บินอยู่กลางท้องฟ้าสักหน่อย ฉันอยากใช้เป็นภาพวอลเปเปอร์’

‘เพลงปิดท้ายสะเทือนใจสุดๆ’

‘ดูในเอนด์เครดิต เพลงปิดท้ายที่ชื่อว่าปลายักษ์เป็นซาวด์แทร็กที่ดีที่สุดในปีนี้เลย หนึ่งเดียวไม่มีสอง’

‘ดูจบแล้วรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เศร้ามาก จากนั้นก็ได้ยินเพื่อนพูดว่าหนังทั้งเรื่องคือเอ็มวีของเพลงปิดท้าย เท่านั้นละผมหัวเราะออกมาเลย’

‘หนังดีมาก แต่เนื้อเพลงของเพลงตอนจบปังสุด’

“…”

คะแนนเต็มสิบ ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ ได้ไป 8.5 คะแนน บรรดาทีมผู้ผลิตดีอกดีใจขึ้นมาทันที “หนังของเรามีแวว

ว่าจะดัง!”

นี่เป็นคะแนนที่สูงมาก!

สูงกว่าที่ทีมผู้ผลิตคาดการณ์ไว้ไกลโข

ถึงอย่างไร ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ ก็ไม่ใช่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ การโปรโมตและจัดโปรแกรมหนังจัดว่าอยู่ระดับ

กลาง ในผลงานประเภทนี้จะดังได้ต้องใช้คำวิจารณ์หนังไม่ใช่หรือ

ขณะที่กำลังตื่นเต้นดีใจ ทุกคนย่อมสังเกตเห็นคำวิจารณ์เกี่ยวกับเพลง ‘ปลายักษ์’

โปรดิวเซอร์ร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก “ถึงกับมีกลุ่มหนึ่งบอกว่าหนังเรื่องนี้ของเราเป็นเอ็มวีของเพลง ‘ปลายักษ์’”

“ฉันกลับคิดว่าคำพูดนี้มีเหตุผลอยู่นะ”

คนหนึ่งในทีมผู้ผลิตซึ่งอยู่ด้านข้างตอบด้วยสีหน้าแปลกพิกล

“ตอนนี้พวกคุณเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าทำไมเพลงประกอบถึงสำคัญ” เจิ้งลี่อารมณ์ดีไม่น้อย ไม่ได้รู้สึกว่าคำวิจารณ์

นี้ล่วงเกินตนแต่อย่างไร ฉะนั้นเธอจึงคิดว่าคนส่วนใหญ่สัพยอกหยอกล้ออยู่ก็แค่นั้น

หากมองจากอีกมุมหนึ่ง ก็คือผู้คนกำลังชมอยู่ว่าเพลงปิดเพลงนี้ของเธอเหมาะสมมาก

เธอเองก็ยอมรับว่าเพลง ‘ปลายักษ์’ ในตอนสุดท้ายนั้นเพิ่มคะแนนให้ภาพยนตร์เรื่องนี้

ไม่ว่าจะเป็นความหมาย เสียงร้อง หรือว่าเนื้อเพลงซึ่งสอดประสานกับเนื้อเรื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็ล้วนทำให้ผู้ชมเข้าถึงอารมณ์ของภาพยนตร์ได้ดีที่สุด

ก่อนหน้านี้

เจิ้งลี่ก็กุมขมับขบคิดอยู่ว่าจะใส่เพลงปิดในภาพยนตร์อย่างไรดี โทนของทั้งเรื่อง ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ ค่อนไป

ทางเจ็บปวด ขณะที่เรื่องราวกำลังจะจบลง ความรู้สึกเจ็บปวดเช่นนี้ก็สะสมไว้มากพอดู เธอจะต้องทำให้อารมณ์ของผู้ชมระเบิดออก

เห็นได้ชัดว่าท้ายที่สุดแล้ว ‘ปลายักษ์’ ก็กลายเป็นชนวนจุดระเบิดอารมณ์

ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเจิ้งลี่ก็ดังขึ้น เป็นสายจากทางผู้ลงทุน

“หนังทำได้ไม่เลวเลย!”

น้ำเสียงของฝั่งผู้ลงทุนฟังดูตื่นเต้นอยู่บ้าง “บริษัทตัดสินใจเพิ่มการโปรโมต ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ ฉันส่งคนไปติดต่อบริษัทโรงหนังแล้วว่าให้เพิ่มรอบฉาย อีกอย่างก็คือคุณต้องโทรไปหาทางฉินโจว บอกว่าเพลงปิดเพลงนั้น…”

เจิ้งลี่พูดว่า “ปลายักษ์”

ตัวแทนผู้ลงทุนเอ่ย “ใช่ๆๆ ‘ปลายักษ์’ นั่นแหละ คุณเชิญคนร้องเพลงนี้มาที่ฉีโจว ตอนโปรโมทก็ให้เขาร้องเพลงนี้

ผลลัพธ์ต้องดีแน่!”

“ได้ค่ะ”

เจิ้งลี่เปลี่ยนเรื่องทันที “ก่อนหน้านี้พวกคุณไม่คัดค้านที่ฉันจ่ายเงินห้าล้านซื้อเพลง ยังบอกอีกว่าเพลงประกอบ

ไม่สำคัญ ต้องทุ่มค่าใช้จ่ายไปที่งานภาพ เป็นฉันที่ขอร้องอยู่นานกว่าพวกคุณจะยอมให้ฉันจ่ายเงินห้าล้านสั่งทำเพลงนี้มา”

เจิ้งลี่มีมาตรฐานเรื่องเพลงประกอบภาพยนตร์สูงมาก

แรกเริ่มเดิมทีฝั่งผู้ลงทุนรู้สึกว่าการที่เจิ้งลี่จะใช้เงินห้าล้านทำเพลงที่เข้ากับเรื่อง ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ นั้นสิ้น

เปลืองเกินไป สุดท้ายกลายเป็นว่าแท้จริงแล้วเป็นเจิ้งลี่ที่ฉลาดใช้เงิน

“สุดท้ายแล้วก็ตกลงตามที่คุณพูดไม่ใช่หรือไง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน