Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 26

สรุปบท ตอนที่ 26 ขาใหญ่คนใหม่: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 26 ขาใหญ่คนใหม่ – ตอนที่ต้องอ่านของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนนี้ของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเงินทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 26 ขาใหญ่คนใหม่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 26 ขาใหญ่คนใหม่

มีคนดีใจก็ต้องมีคนทุกข์ใจ

ขณะที่เหล่าโจวกำลังยินดีปรีดาอยู่นั้น จ้าวเจวี๋ยกลับวิตกกังวล เธออยู่ในห้องทำงานโดยลำพัง เดินไปมาอย่างไม่เป็นสุข

สัปดาห์ที่แล้ว

เธอส่งเพลง ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’ ให้จ้าวอิ๋งเก้อ

เดิมทีคิดว่าทันทีที่ส่งเพลงไป คนแซ่จ้าวเหมือนกันอย่างจ้าวอิ๋งเก้อจะเซ็นสัญญากับสตาร์ไลท์เดี๋ยวนั้น

ทว่าผ่านไปสัปดาห์หนึ่งแล้ว ทางฝั่งจ้าวอิ๋งเก้อก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร

นั่นทำให้จ้าวเจวี๋ยยิ่งกังวล

ไม่เป็นแบบนั้นหรอกมั้ง ถึงจะไม่ใช่มืออาชีพในวงการ จ้าวเจวี๋ยก็ฟังออกว่า ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’ เป็นเพลงที่ดีเพลงหนึ่ง

ตอนที่เธอฟังครั้งแรก โสตประสาทก็ถูกพันธนาการไว้จนแน่น หลังจากนั้นก็ฟังอีกหลายครั้ง อารมณ์ของเพลงนี้ยิ่งสลักลึกในความทรงจำ

ฉะนั้นจ้าวเจวี๋ยจึงคิดว่า…

ด้วยคุณภาพของเพลงนี้ ก็น่าจะเพียงพอให้จ้าวอิ๋งเก้อประทับใจได้!

กระนั้นแล้ว การที่ทางจ้าวอิ๋งเก้อยังไม่ตอบกลับมาสักที พานให้จ้าวเจวี๋ยเริ่มพิจารณาถึงผลได้ผลเสียแล้ว

หรือว่า จ้าวอิ๋งเก้อจะเซ็นสัญญากับบริษัทอื่นไปแล้ว?

ขณะที่กำลังกังวลอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของจ้าวเจวี๋ยก็ดังขึ้น เป็นสายของจ้าวอิ๋งเก้อที่เธอกำลังนึกถึงโทรมาพอดี

โทรมาปฏิเสธฉันเหรอ

จ้าวเจวี๋ยขมวดคิ้ว กดรับโทรศัพท์

ปลายสายโทรศัพท์ เสียงของจ้าวอิ๋งเก้อดังขึ้น น้ำเสียงแน่วแน่ “ฉันตกลงเซ็นสัญญากับสตาร์ไลท์ ขอโทษด้วยค่ะที่ทำให้คุณรอนาน”

จ้าวเจวี๋ยชะงักไป

ไม่ได้ปฏิเสธหรอกเหรอ

ไม่นานเธอก็ตั้งสติได้ รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง เห็นทีในการประชันของสามบริษัทใหญ่ เป็นสตาร์ไลท์ที่คว้าชัยชนะไปอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรค่ะ”

น้ำเสียงของเธอผ่อนคลายลง “ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนถึงจะตัดสินใจ พวกเรารอได้ แล้วคุณคิดว่าจะเซ็นสัญญาเมื่อไหร่ดี”

“ฉันว่างตลอดค่ะ”

จ้าวอิ๋งเก้อเอ่ยอย่างจริงจัง “ว่ากันตามสัญญาฉบับนั้นที่คุณเสนอมา แต่ว่าเพลง ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’ จะต้องเป็นเพลงแรกของฉันที่ปล่อยออกไป หวังว่าบริษัทจะช่วยฉันโปรโมตอย่างเต็มที่”

“เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว”

จ้าวเจวี๋ยยิ้มเอ่ย “พวกเราเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์ ถ้าคุณว่างก็เข้าบริษัทมาเซ็นสัญญาได้ช่วงบ่ายค่ะ”

จ้าวเจวี๋ยไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

จ้าวอิ๋งเก้อตอบตกลงทันที ขบคิดชั่วครูก่อนจะเสริมว่า “เพลง ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’ ฉันฟังครั้งแรกก็ชอบเลย เพลงนี้เหมาะกับฉันมาก…”

“ได้!”

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เพลงจริงๆ ด้วย ฉันก็ว่า เพลงคุณภาพสูงของหลินเยวียนอย่าง ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’ จะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไงกัน!

“งั้นคุณก็เตรียมตัวออกเดินทางเถอะ”

ในตอนนั้นจ้าวเจวี๋ยก็อารมณ์ดีขึ้นมา ความกระฉับกระเฉงเฉียบขาดกลับมาอีกครั้ง “ฉันจะให้คนไปรับคุณข้างล่าง สัญญาจะร่างเสร็จก่อนที่คุณจะมาถึง

ปลายสายตอบ “ไม่มีปัญหา”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ จ้าวเจวี๋ยก็เบาใจลงในที่สุด

เธอนั่งลงบนเก้าอี้ หมายจะพักผ่อนสักหน่อย ผลคือยังไม่ทันนั่งจนเก้าอี้อุ่น ด้านนอกก็มีคนเคาะประตู

“เข้ามา”

“พี่จ้าว”

คนที่เข้ามาก็คือผู้จัดการชายในสังกัดของจ้าวเจวี๋ย

แต่ในยามนี้สีหน้าของผู้จัดการคนนี้แลดูตื่นเต้น “ทางฉีโจวโทรมา บอกว่าจะเชิญเจียงขุยไปร้องเพลงโปรโมตหนังเรื่อง ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’!”

“เจียงขุย?”

จ้าวเจวี๋ยชะงักไป

ผู้จัดการคนนี้อธิบายว่า “เป็นเด็กใหม่ในความดูแลของผมครับ ก่อนหน้านี้เธอถูกอาจารย์เซี่ยนอวี๋เลือกมาให้ร้อง

ซาวด์แทร็กที่เซี่ยนอวี๋แต่งขึ้นมาให้หนังเรื่อง ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ ของฉีโจวโดยเฉพาะ วันนี้เพลงนี้ปล่อยออกไปออนไลน์ เสียงตอบรับในอินเทอร์เน็ตไม่เลวเลย ทางฉีโจวเลยให้เธอไปช้วยร้องเพลงโปรโมตหนังในฐานะนักร้อง”

หลินเยวียนอีกแล้ว!

กับข้ามขั้นฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่ แล้วโด่งดังได้ด้วยวิธีนี้เชียว

อีกทั้ง

เรื่องดีทั้งสองเรื่องนี้ล้วนเป็นเพราะหลินเยวียน!

เด็กคนนี้ เป็นดาวนำโชคของเธอจริงๆ!

“ให้แผนกประชาสัมพันธ์จัดการเดี๋ยวนี้เลย”

มีเด็กใหม่ดังแล้ว บริษัทก็ต้องดันสักตั้ง ถ้าโอกาสแบบนี้ยังคว้าไว้ไม่ได้ สตาร์ไลท์คงไม่ได้เป็นหนึ่งในสามบริษัทใหญ่ของบลูสตาร์แล้ว

ทำเป็นอ้างว่า ‘ขอคำแนะนำ’ ไปอย่างนั้นแหละ

ที่ผู้จัดการคนตรงหน้านี้มาหาตน จุดประสงค์ที่แท้จริงก็คงจะอยากให้เจียงขุยได้รับการสนับสนุนในด้านนี้จากบริษัท แต่ว่าจ้าวเจวี๋ยก็จะไม่พูดออกไป ทุกคนล้วนแต่ทำเพื่อศิลปินของตัวเองทั้ง ทำเช่นนี้ก็พอเข้าใจได้

“เข้าใจแล้ว”

เมื่อเป้าหมายบรรลุผล รอยยิ้มของผู้จัดการก็สดใสขึ้นมา “ขอบคุณครับพี่จ้าว!”

“อีกอย่าง…”

จ้าวเจวี๋ยพูด “เจียงขุยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับตารางงานของฉีโจวก่อน ‘ปลายักษ์’ เป็นผลงานที่ฉีโจวจ่ายเงินสั่งทำ พวกเราต้องบริการถึงที่สุด ไม่งั้นอาจมีผลกระทบถึงชื่อเสียงของบริษัท ฉันยังว่าต่อไปจะมีออเดอร์จากทางฉีโจวมาอีก”

“ไม่มีปัญหาครับ!”

ผู้จัดการรับปากเป็นมั่นเหมาะ

ทันใดนั้นจ้าวเจวี๋ยพูดขึ้นมาอย่างรำคาญใจ “ที่จริงตอนนี้ฉันเริ่มเสียดายที่ปล่อยหลินเยวียนไปแล้ว! ให้เขาอยู่ที่แผนกศิลปินก็ได้ แผนกเราออกจะใหญ่จะดูแลเขาไม่ได้เชียวเหรอ ไม่เห็นต้องให้เจ้าแก่โจวรุ่ยหมิงนั่นเอาเปรียบเขาเลย!”

ผู้จัดการ “…”

เรื่องระหว่างหัวหน้า เขาไม่ควรแทรกแซง

แต่จ้าวเจวี๋ยก็แดกดันเพียงประโยคสองประโยค ถ้าเธอเก็บนักแต่งเพลงที่มีศักยภาพสูงมากขนาดนี้ไว้ที่แผนกศิลปินไม่ยอมปล่อยไป น่ากลัวว่าเหล่าโจวคงรีบไปฟ้องบอสแน่นอน

“เซี่ยนอวี๋…”

ผู้จัดการคนนี้หัวใจกระตุกวูบ ลอบขบคิด

คนนี้ดูเหมือนจะเป็นขาใหญ่คนใหม่ในแผนกประพันธ์เพลงสินะ…เริ่มจากทำให้ซุนเย่าหั่วไต่ขึ้นหัวตารางในชาร์ตเพลงใหม่…จากนั้นก็ทำให้เจียงขุยซึ่งอยู่ในสังกัดของตนโด่งดัง…เข้ามาทำงานได้แค่สองเดือนเอง…ก็ปั้นเด็กใหม่ให้ดังได้สองคนแล้ว…

…………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน