สรุปตอน ตอนที่ 271 ปั้นนักร้องแถวหน้า – จากเรื่อง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet
ตอน ตอนที่ 271 ปั้นนักร้องแถวหน้า ของนิยายการเงินเรื่องดัง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 271 ปั้นนักร้องแถวหน้า
เมื่อเจ้าตัวออกมาตอบเอง สายตาและความสนใจทั้งหมดต่อเรื่องนี้จึงถูกดึงดูดมา คอมเมนต์ซึ่งมีการเคลื่อนไหวอยู่แต่เดิมก็ระเบิดออกเป็นวงกว้างในช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาที
‘เหลวไหลน่ะ คุณเป็นพ่อไก่ชัดๆ!’
เมื่อเทียบกับตัวตนในฐานะนักศึกษาซึ่งถูกเปิดเผยในวันนี้ เบาะแสว่าเซี่ยนอวี๋เป็นผู้ชายนั้นถูก ‘อิ่งจือ’ เปิดเผยมานานแล้ว
‘เดี๋ยวแก ฉันก็เรียนสาขาการประพันธ์เพลง วิทยาลัยศิลปะฉินโจว เพิ่งจบปีนี้ นึกไม่ถึงว่าเซี่ยนอวี๋จะเป็นรุ่นน้องฉัน แถมอายุน่าจะน้อยกว่าฉันด้วย! ฉันกำลังวิ่งหางานแทบตาย ตัดภาพมาที่เซี่ยนอวี๋ สู้กับพ่อเพลงสามร้อยครั้งแล้วมั้ง ฉันทำให้สถานศึกษาขายหน้าา!’
‘ผมบอกได้เลยว่าท่านเทพเซี่ยนอวี๋เป็นอัจฉริยะด้านการประพันธ์เพลงที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์! เทียบเคียงเทพลู่ได้เลย!’
‘อาจารย์เซี่ยนอวี๋ก็ถ่อมตัวเกิ๊น!’
‘ดูท่าแล้วต่อให้คุณจะได้เป็นพ่อเพลงจริงๆ คนก็ยังเรียกคุณว่าพ่อเพลงตัวน้อยอยู่ดี ไม่มีใครเด็กไปกว่าคุณแล้ว…’
‘อื้ม นี่กำลังบอกเป็นนัยว่าอาจารย์เซี่ยนอวี๋ตัวกระจิ๋วเดียว?’
‘คุณเป็นปลาอยู่แท้ๆ ทำไมต้องแกล้งปลอมเป็นแม่ไก่ด้วย’
‘ในยุคที่คำว่าอัจฉริยะถูกใช้เกลื่อนกลาดไปหมด นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอกับอัจฉริยะตัวจริงเสียงจริง!’
‘อาจารย์เซี่ยนอวี๋ในจินตนาการของผมคือคุณลุงอายุประมาณสามสิบสี่สิบ ปรากฏว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย…แถมยัง ฝีมือดีมาก?’
‘ว้าว คำพูดของเซี่ยนอวี๋ฟังดูฉลาดมาก!’
‘ประโยคนี้มีชั้นเชิงมาก!’
‘…’
เนื่องจากประโยคนี้ของหลินเยวียนเป็นประโยคคลาสสิก จึงมีชาวเน็ตจำนวนมากนำมาเลียนแบบ
ตัวอย่างเช่น ชาวเน็ตซึ่งใช้ชื่อว่า [จวินvเฉิน]
‘ถ้าหากผมมีแฟนสาวคนหนึ่งแล้วคิดว่ารสชาติไม่เลว ผมจำเป็นต้องไปรู้จักกับแฟนหนุ่มของเธอหรือเปล่าครับ’
หรือยกตัวอย่างเช่น ชาวเน็ตซึ่งใช้ชื่อว่า [ป้าป้า’]
‘ถ้าหากฉันกดรับซองแดงได้ซองหนึ่ง แล้วคิดว่าจำนวนเงินไม่เลวเลย ฉันจำเป็นต้องไปรู้จักคนแจกซองแดงหรือเปล่าคะ’
การหยอกล้อเล่นนี้ดำเนินต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
แต่การสนทนาบนปู้ลั่วก็เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น
หลังจากทางการของวิทยาลัยศิลปะฉินโจวแถลงการณ์ สถานที่ซึ่งครึกครึ้นที่สุดหาใช่บนปู้ลั่วแต่อย่างใด แต่กลับเป็นเว็บบอร์ดของวิทยาลัยศิลปะฉินโจว!
‘ที่แท้เซี่ยนอวี๋ก็เป็นเพื่อนร่วมสถาบันกับเรา!’
‘พ่อเพลงตัวน้อยที่เราอวยกันมาตั้งนาน ที่แท้ก็อยู่ใกล้ตัวหรอกเหรอเนี่ย!’
‘รีบไปดูเร็วว่าสาขาการประพันธ์เพลงมีใครโดดเด่นบ้าง เซี่ยนอวี๋ต้องแฝงตัวอยู่ในนั้นแน่!’
‘แย่แล้ว ตอนนี้ฉันมองใครก็รู้สึกว่าเหมือนเซี่ยนอวี๋ไปหมด!’
‘พวกนายสังเกตหรือเปล่า ว่าตอนนี้ทั้งวิทยาลัยมีแต่คนคุยกันว่าใครคือเซี่ยนอวี๋!’
‘เพิ่งจะมีคนไปถามที่หนึ่งของปีสองสาขาการประพันธ์เพลงว่าใช่เซี่ยนอวี๋หรือเปล่า ปรากฏว่าน้องคนนั้นดีอกดีใจจนกระโดดขึ้นไปบนเก้าอี้ เกือบตกลงมาหัวร้างข้างแตก…’
‘ถูกคนคิดว่าเป็นเซี่ยนอวี๋ ก็เลยชอบอกชอบใจว่างั้น’
‘…’
เป็นเช่นนั้นจริง
หลังจากที่ทางวิทยาลัยประกาศออกไป นักศึกษาไม่น้อยวิ่งวุ่นตามหาเซี่ยนอวี๋กันจ้าละหวั่น ประหนึ่งว่าจะรู้ว่าใครคือเซี่ยนอวี๋ทันทีที่เห็นหน้า
ขณะกินข้าวในโรงอาหาร มีนักศึกษาบางคนคอยสอดส่องสายตา ด้วยความสงสัยว่าเซี่ยนอวี๋กำลังกินอาหารอยู่ในโรงอาหารหรือไม่
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ
ปลาในโรงอาหารของวิทยาลัย ก็ขายดิบขายดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะสาขาการประพันธ์เพลงมีข่าวลือว่า กินปลาจะช่วยเพิ่มพรสวรรค์และความสามารถของนักประพันธ์เพลง?
น่าเสียดายที่ผู้คนเหล่านี้หาเซี่ยนอวี๋ไม่เจอ
รั้ววิทยาลัยออกจะใหญ่โต ใครจะไปรู้ว่าเซี่ยนอวี๋ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้น ปลาตัวนี้ไม่ได้ย่างกรายเข้าวิทยาลัยด้วยซ้ำไป
หลินเยวียนในยามนี้ กำลังถ่ายทำภาพยนตร์อยู่ที่กองถ่าย
……
ขณะที่อาจารย์เซี่ยนอวี๋กำลังเป็นกระแสร้อนแรง กิจวัตรประจำวันในกองถ่ายของหลินเยวียนก็ยังคงดำเนินไปเฉกเช่นที่ผ่านมา และนั่นก็หนีไม่พ้นการเฝ้าสังเกตการณ์การถ่ายทำ ทุกสัปดาห์จะหาเวลาสอนการประพันธ์เพลงให้เฟิงซั่วซึ่งมาร่ำเรียนถึงที่
ในตอนนั้น
ภาพยนตร์เรื่องนักปรับเสียงเปียโนก็ถ่ายทำมาได้เกือบสามเดือน และใกล้จะปิดกล้องแล้ว
ไม่ใช่ว่าจงใจเร่งให้ทันปีใหม่ แต่ภาพยนตร์ประเภทนี้เงินทุนไม่สูง สเกลไม่ใหญ่ และใช้เวลาถ่ายทำไม่นาน
ถ้าราบรื่นละก็ กระบวนการถ่ายทำทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในเวลาสามเดือนย่อมไม่ใช่ปัญหา
ขลุกอยู่ในกองถ่ายเช่นนี้อยู่หลายวัน หลินเยวียนก็รู้สึกว่ากองถ่ายไม่ได้ต้องการตนสักเท่าไหร่ จึงแวะไปที่บริษัทสักหน่อย
“ตัวแทนหลิน…”
“ตัวแทนหลิน…”
ชั้นเก้าแผนกประพันธ์เพลง
เมื่อเห็นหลินเยวียน พนักงานในสังกัดก็เอ่ยทักทายอย่างเซ็งแซ่ แววตาแฝงความชื่นชม ท่าทีคล้ายกับว่าจะเปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้
ปรากฏการณ์นี้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่หลินเยวียนคว่ำพ่อเพลงสองคนในเดือนธันวาคม
แผนกประพันธ์เพลงของสตาร์ไลท์ แบ่งเป็นหลายชั้น ทุกๆ ชั้นจะมีตัวแทน ซึ่งเป็นพ่อเพลงในวงการ มีเพียงหลินเยวียนซึ่งเป็นตัวแทนชั้นเก้าที่ไม่ใช่พ่อเพลง
กรณีนี้ค่อนข้างพิเศษ
กอปรกับที่หลินเยวียนเป็นตัวแทนที่อายุน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นนักประพันธ์เพลงซึ่งทำงานที่ชั้นเก้าจึงมักจะรู้สึกประดักประเดิดอยู่บ้าง
นักประพันธ์เพลงในชั้นอื่นๆ บางครั้งบางคราวก็จะแสดงความคิดเห็นที่ไม่เข้าหูนัก จนทำให้นักประพันธ์เพลงชั้นเก้ารู้สึกไม่สบอารมณ์และหดหู่ใจ
ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
หลังจากที่หลินเยวียนคว่ำพ่อเพลงสองคนได้ ต่อให้ตัวแทนของชั้นอื่นๆ จะอยู่ระดับพ่อเพลง ก็ไม่มีใครกล้าพูดพล่อยเกี่ยวกับชั้นเก้าอีก
ก็เป็นตัวแทนระดับพ่อเพลงไม่ใช่หรือไง
ไร้ซึ่งความลังเล หลินเยวียนเขียนชื่อซุนเย่าหั่วลงไปทันที
เมื่อยืนยันตัวเลือกนักร้องชายแล้ว หลินเยวียนจึงมองไปยังชื่อของจ้าวอิ๋งเก้อ และลังเลอยู่เล็กน้อย
เขียนชื่อไปได้ครึ่งเดียว มือก็ชะงักค้าง
“จ้าวอิ๋งเก้อนับเป็นนักร้องเบอร์เล็กหรือเปล่าครับ”
เขาเงยหน้าขึ้นมองอู๋หย่ง
ในสัญญาของหลินเยวียน หากร่วมงานกับนักร้องเบอร์เล็ก ส่วนแบ่งของเขาจะยิ่งมาก และสามารถกำหนดส่วนแบ่งเองได้
“ไม่ใช่ครับ!”
อู๋หย่งไม่รู้ความคิดของหลินเยวียน จึงพยายามยกสถานะของจ้าวอิ๋งเก้อให้สูงเข้าไว้ “ชื่อสีแดงไม่ใช่นักร้องเบอร์เล็กกันแล้วล่ะครับ จ้าวอิ๋งเก้อเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นดีที่บริษัทตั้งความหวังให้กลายเป็นนักร้องแถวหน้ามากที่สุด เป็นเป้าหมายที่ทุกชั้นแย่งชิงกัน อีกอย่างตัวแทนหลินก็เคยร่วมงานกับจ้าวอิ๋งเก้อ เพลงเดบิวต์ของเธอ ติดไฟง่ายระเบิดง่าย ตัวแทนหลินก็เป็นคนเขียน…”
“เข้าใจแล้วครับ”
หลินเยวียนเอ่ยตอบ ขีดฆ่าชื่อจ้าวอิ๋งเก้อ
อู๋หย่งปลื้มปริ่มยกใหญ่ ตำแหน่งที่เขาอยู่นั้นมองไม่เห็นตัวเลือกของหลินเยวียน เขาเพียงคาดเดาว่าตนพูดเช่นนี้ ตัวแทนหลินจะต้องให้ความสำคัญกับจ้าวอิ๋งเก้อมากขึ้นอย่างแน่นอน!
หลินเยวียนไม่ได้พูดอะไร เขากำลังใช้ความคิด
ถ้าไม่เลือกจ้าวอิ๋งเก้อ นักร้องหญิงจะเลือกใครดีล่ะ
หลินเยวียนอยากเลือกนักร้องหญิงที่ตนค่อนข้างคุ้นเคย ขณะเดียวกันก็มีความสามารถระดับมืออาชีพที่ไม่เลว
ในตอนนั้นเอง
หลินเยวียนก็เหลือบไปเห็นคำว่า ‘เจียงขุย’ ในรายชื่อสีเหลือง
เจียงขุยถูกทำสัญลักษณ์เป็นสีเหลือง
เพลงลูกโป่งที่เจียงขุยร้องนั้นดีทีเดียว
ที่สำคัญไปกว่านั้น เจียงขุยรับมือกับเพลงปลายักษ์ได้
และที่สำคัญที่สุดก็คือ…
ใช่แล้ว สรุปว่าครั้งนี้เขาไม่ลังเลเลย
หลินเยวียนเขียนชื่อเจียงขุยลงไปทันที
“เลือกได้แล้วครับ”
เขาเอ่ยบอก
อู๋หย่งผุดรอยยิ้มคาดหวัง “ตัวแทนหลินเลือกใครบ้างครับ ผมจะได้ไปคุยให้”
หลินเยวียนตอบ “ซุนเย่าหั่ว เจียงขุย”
อู๋หย่ง “…”
รอยยิ้มของเขาชะงักค้างไปทันที
…………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...