Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 282

ตอนที่ 282 หักมุมล้านตลบ (1)

“แมวของผมหายไป ผมสงสัยว่าเพื่อนบ้านฆ่าแมวผม…”

เยี่ยเซินหวาดกลัว!

ผู้กำกับคนนี้เริ่มคลำกระบอกปืนแล้ว!

เขาจะไม่รู้สึกแปลกใจเลย ถ้าอีกฝ่ายสังหารเขาก่อนที่เขาจะได้บอกความจริง!

เพราะฉะนั้น เขาจึงฝืนใจเปลี่ยนคำพูด

แต่นั่นก็ยังคงกระตุ้นความสงสัยของผู้กำกับคนนี้อยู่ดี

ผู้กำกับคนนี้คบชู้กับเจียงเยี่ยน ถึงกับไปที่บ้านของเยี่ยเซิน เพื่อทดสอบว่าสรุปแล้วเขาเป็นคนตาบอดจริงหรือไม่

ผู้กำกับคนนี้เริ่มจากการเล็งมีดไปทางเยี่ยเซิน แต่เยี่ยเซินไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัว

ปรากฏว่าปามีดออกไป เยี่ยเซินก็ไม่ขยับ

หลังจากนั้นเจียงเยี่ยนก็มาเป็นแขกที่บ้านของเยี่ยเซิน ฉวยโอกาสช่วงที่เยี่ยเซินหันไป สวมหน้ากากน่ากลัวบนใบหน้าของตน

เยี่ยเซินก็ยังไม่ตกใจกลัว

ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ เรียกได้ว่าตัวเอกตีบทแตกสุดๆ!

“ฉันล่ะยอมใจตัวเอกเลย…”

“เล่นละครแบบใช้ชีวิตเป็นเดิมพันเลยนะ!”

“ฉากที่เจียงเยี่ยนแต่งเป็นผี ขนาดฉันยังกลัวจนสะดุ้งเลย”

“ตัวเอกก็จิตใจแข็งแกร่งไปอีก!”

“…”

วังวนแห่งการทดสอบนี้ทำให้จิตใจของผู้ชมในชั่วขณะนั้นไม่อาจผ่อนคลายลงได้ แต่ถึงอย่างนั้น ในท้ายที่สุดแล้วตัวเอกก็ยังพลาดพลั้งอยู่ดี

นั่นก็เพราะเจียงเยี่ยนถึงกับใส่ยาพิษลงในกาแฟต่อหน้าต่อตาเยี่ยเซิน

ต่อให้เยี่ยเซินจะแสดงได้แยบยลเพียงใด เมื่อเห็นกาแฟที่เจียงเยี่ยนส่งให้ จะไม่ดื่มก็คงไม่ได้ใช่ไหมล่ะ

เขาทำได้เพียงแสร้งทำเป็นทำหก แต่น่าเสียดายที่ต่อให้ทำเช่นนั้นไปก็ไร้ประโยชน์

เพราะอันที่จริง ตั้งแต่ที่เจียงเยี่ยนเข้ามาก่อนหน้านี้ เธอได้วางยาพิษลงในขนมที่ให้เขากินไว้แต่แรกแล้ว

ยาพิษนี้ทำให้เยี่ยเซินตาบอด

ฉะนั้นเยี่ยเซินได้แปรเปลี่ยนจากคนตาบอดปลอมๆ กลายเป็นคนตาบอดจริงๆ แล้ว

ยังไม่เพียงเท่านั้น!

เจียงเยี่ยนคือตัวอย่างของสิ่งที่เรียกว่าสวยสังหาร!

เธอฉวยโอกาสที่เยี่ยเซินหมดสติ หลอกลวงซูเฟยแฟนสาวของเยี่ยเซิน

“ฉันเหงาเหลือเกิน เยี่ยเซินก็เลยนอนกับฉัน”

และในตอนนั้น ซูเฟยก็ได้รู้ความจริงจากเด็กคนหนึ่งซึ่งคอยเฝ้าสังเกตเยี่ยเซินมานาน ว่าเยี่ยเซินแสร้งทำเป็นตาบอดมาโดยตลอด…

ชีวิตอันปกติสุขของเยี่ยเซินเป็นอันพังทลายลงทันที!

เขากลายเป็นคนตาบอดจริงๆ ทั้งยังสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจจากแฟนสาว

ทว่าชายชู้ซึ่งเป็นตำรวจยังคงไม่ปล่อยคนตาบอดที่ ‘โดดเดี่ยวและไร้ทางสู้’ ไปง่ายๆ ซ้ำยังหมายกำจัดเขาให้สิ้นซาก

คนตาบอดจะไปหนีตำรวจพ้นได้อย่างไร

โชคดีที่เยี่ยเซินได้รับความช่วยเหลือจากคนขับแท็กซี่และภรรยา ถูกพาไปส่งโรงพยาบาล และได้พบหมอที่ช่วยเขาดูอาการของดวงตา

“เฮ้อ…”

เรื่องราวดำเนินมาถึงตอนนี้ ผู้ชมต่างก็พรูลมหายใจออกมา

นับตั้งแต่ที่ไปเห็นซูไท่ถูกสังหารเข้า ตัวเองก็ตกอยู่ท่ามกลางวิกฤตระหว่างความเป็นความตาย นั่นทำให้ผู้ชมรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา

ขณะที่รู้สึกตึงเครียด ทุกคนก็โกรธเคืองเช่นกัน!

“เจียงเยี่ยนโหดเหี้ยมจริงๆ!”

“ไอ้ชู้นี่ก็เลวจริงๆ!”

“เยี่ยเซินตัดสินใจไม่แจ้งความแล้ว สองคนนี้ก็ยังไม่ปล่อยเขาไปอีก…”

หลังจากนี้จะเป็นการตอบโต้หรือไม่

ทันทีที่ผู้ชมเกิดความรู้สึกตั้งหน้าตั้งตารอเช่นนี้ ก็ถูกจุดหักมุมไม่รู้กี่ตลบในภาพยนตร์ทำเอามึนงง!

เรื่องราวเริ่มทำร้ายตัวเอกอีกครั้ง!

สามีภรรยาคู่นี้และหมอในคลินิกเล็กๆ จะช่วยเยี่ยเซินซะที่ไหนกันล่ะ?

เห็นชัดๆ ว่าเจ้าสามคนนี้คิดจะเอาไตของเยี่ยเซินไปขาย!

และไม่ได้ขายแค่ข้างเดียว แต่จะขายทั้งสองข้าง!

กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ พวกเขาต้องการเอาชีวิตเยี่ยเซิน!

จางปินตะลึงงัน “แม่เจ้าโว้ย ตัวเอกชีวิตอนาถเกินไปแล้ว…”

ไต้รุ่ยไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าอย่างไรแล้ว

เขาเดาสารบบความคิดของผู้เขียนบทไม่ออกเลย!

หักมุมมาไม่รู้กี่ตลบ จนผู้ชมปวดเศียรเวียนเกล้า ทำได้เพียงติดตามเรื่องราวต่อไปโดยไม่รู้ตัว!

แน่นอน

ไม่ว่าเรื่องราวจะหักมุมอย่างไรอีก ภาพยนตร์ก็ดำเนินมาครึ่งเรื่อง ตัวเอกไม่มีทางตาย…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน