ตอนที่ 301 สาวกฉู่ขวง
“ฆาตกรคือเขาเหรอเนี่ย!”
ในเวลาเดียวกัน ในออฟฟิศของหลินเยวียน จินมู่ซึ่งเพิ่งอ่านนิยายจบก็ร้องออกมาเสียงดัง!
ในตอนนั้นหลัวเวยเลิกงานแล้ว
หลินเยวียนกำลังจะกลับบ้าน ฝีเท้าก็ชะงักลงทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของจินมู่
เขาคิดว่าจินมู่มีอะไรจะพูด
ความจริงก็เป็นเช่นนั้น จินมู่มีเรื่องจะพูดจริงๆ คำพูดอัดแน่นเต็มอก ทว่าท้ายที่สุดเขาก็ทำให้เรียบง่ายขึ้นโดยเอ่ยถามเพียงใจความสำคัญ
“หัวหน้า นิยายสืบสวนสอบสวนเล่มนี้น่าทึ่งมากเลยครับ ฆาตกรคือเชปเพิร์ดซึ่งเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง เหลือเชื่อสุดๆ ไปเลยครับ! หัวหน้าคิดวิธีเขียนแบบนี้ได้ยังไง…”
“ผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้” หลินเยวียนตอบ
“อะไรนะครับ” จินมู่งุนงง
“กลอุบายในการบรรยายแบบที่เราเชื่อถือผู้เล่าเรื่องไม่ได้ เป็นเทคนิคที่ใช้ในเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์น่ะครับ”
จินมู่อ้าปากพะงาบ
ผ่านไปนานโข กว่าเขาจะพึมพำออกมา “ผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้…เราเชื่อถือผู้เล่าเรื่องไม่ได้ เป็นเพราะในเรื่องใช้เทคนิคนี้ ผู่อ่านเลยตกหลุมพรางได้ง่ายตั้งแต่เปิดเรื่องสินะครับ แต่นี่ก็ไม่ได้เป็นการเล่นคำหรือสำบัดสำนวนโดยตรง สมแล้วที่เป็นฉู่ขวง…”
มีนิยายสืบสวนสอบสวนซึ่งใช้กลอุบายผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ ใช้การเล่นกับคำโดยตรงเพียงอย่างเดียว
แต่ไม่ใช่กับเรื่องฆาตกรรม โรเจอร์ แอ็กครอยด์ ในฐานะนิยายซึ่งใช้เทคนิคผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้เรื่องแรกๆ ผลงานชิ้นนี้จึงใช้เพียงความเข้าใจผิดของผู้อ่าน ทว่าเงื่อนงำไม่ได้ถูกเก็บซ่อน เพราะฉะนั้นจึงมีนักอ่านบางส่วนเดาได้ก่อนว่าฆาตกรเป็นใคร
แน่นอน
ถ้าหากเป็นคนที่ไม่เคยสัมผัสกับเทคนิคผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้มาก่อน ลำพังไขคดีจากเงื่อนงำที่มีอยู่ในนิยาย ความเป็นไปได้ที่จะเดาตัวฆาตกรนั้นมีน้อยเหลือเกิน
นอกเสียจากว่าจะได้รับคำใบ้ซึ่งเน้นย้ำอย่างชัดเจนในทำนองว่า ‘คุณไม่มีทางเดาตัวฆาตกรในคดีนี้ได้’
“เข้าใจแล้วครับ”
หลังจากที่หลินเยวียนออกไป จินมู่ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น ติดต่อคลังหนังสือซิลเวอร์บลูไป เพื่อเจรจาเรื่องการตีพิมพ์นิยายเรื่องใหม่
และหลังจากการเจรจาระหว่างจินมู่กับคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ทางนั้นก็ได้ศึกษากลยุทธ์การโปรโมตเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ในคืนนั้นทันที
ไม่ต้องสงสัยเลย
ในฐานะหนึ่งในสามเสาหลักของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ผลงานแนวสืบสวนสอบสวนชิ้นใหม่จากนักเขียนระดับมหาเทพอย่างฉู่ขวงย่อมได้รับจัดสรรการโปรโมตระดับสูงสุด
นี่แหละที่เรียกว่ามีหน้ามีตา!
ในวันถัดมา การโปรโมตของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูก็ได้เปิดฉากขึ้น!
บนแบนเนอร์อันสวยงามด้านบนสุดของเว็บไซต์ทางการ มีข้อความโปรโมตซึ่งสอดคล้องกับสไตล์หนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวง ยังคงความเล่นใหญ่เฉกเช่นที่ผ่านมา เป็นคำโปรโมตหนังสือหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงโดยเฉพาะ
[ในนามของนิยายสืบสวนสอบสวน ขอประกาศสงครามครั้งใหม่กับผู้อ่าน หนังสือเรื่องใหม่ ‘ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์’ ฉู่ขวงบุกเบิกผลงานแนวใหม่อีกครั้ง!]
เมื่อกดแบนเนอร์เข้าไป เนื้อหาทุกบรรทัดล้วนลงท้ายด้วยเครื่องหมายอัศเจรีย์
‘นิยายสืบสวนสอบสวนเรื่องใหม่ของฉู่ขวงมาสะท้านวงการ!’
‘ตอนจบของนิยายจะทำให้คุณตะลึงจนตาค้าง!’
‘ล้มล้างทุกความเข้าใจต่อนิยายสืบสวนสอบสวนที่คุณเคยมี!’
‘บุกเบิกรูปแบบใหม่ของวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน!’
‘ฉู่ขวง: ถูกเลียนแบบได้ แต่ไม่มีวันถูกก้าวข้าม!’
ดูเอาก็แล้วกัน ทั้ง ‘บุกเบิก’ ‘สะท้าน’ ‘ตะลึง’ ‘ล้มล้าง’ ‘ถูกเลียนแบบได้ แต่ไม่มีวันถูกก้าวข้าม’ …
คำอธิบายเหล่านี้ ออกจะอวดเบ่งไปหน่อยไหม?
โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย ‘ถูกเลียนแบบได้ แต่ไม่มีวันถูกก้าวข้าม’ นี่เป็นการสะท้อนสถานะที่แท้จริงของฉู่ขวงในอุตสาหกรรมนิยาย
เพราะประเภทของนิยายที่เขาสรรสร้างและนำพามา ทำให้นักเขียนหลายคนมีข้าวกิน
เพราะฉะนั้น…
ต่อให้ใช้ภาษาที่ฟังดูเย่อหยิ่งไปสักหน่อย ต่อให้คำโฆษณาจะคุยโว หรือพบเห็นโฆษณาหลังสือเรื่องใหม่ทั่วทุกแห่งหน ผู้อ่านก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่เหมาะสม
ในทางกลับกัน
หลายคนคาดหวังกับหนังสือเล่มนี้ไว้สูงมาก
‘ฉู่ขวงจะเขียนนิยายสืบสวนสอบสวน? ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันซื้อแน่นอน’
‘ฉันไม่สนใจนิยายสืบสวนสอบสวน แต่ฉันสนใจฉู่ขวง พูดมากไม่ได้ หนังสือจะวางแผงแล้ว~’
‘ในฐานะคนฉู่ เพิ่งอ่านเรื่องบะหมี่หยางชุนหนึ่งชามจบ ต่อให้มาเพราะนิยายเรื่องนี้ ก็ควรอ่านนิยายเรื่องใหม่ของฉู่ขวง ยิ่งไปกว่านั้นผมเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบนิยายสืบสวนสอบสวน คนฉู่อย่างพวกผมชอบอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนที่สุด!’
‘นิยายสืบสวนสอบสวน? ไปไกลๆ เลย ฉันไม่อ่าน…อ้อ ฉู่ขวงเขียนเหรอ จะไปซื้ออ่านเดี๋ยวนี้แหละ’
‘ฮ่าๆๆ ที่จริงฉู่ขวงได้ทำลายขีดจำกัดของประเภทของหนังสือไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าเขาจะเขียนอะไร คนก็ซื้อทั้งนั้น’
‘ประเด็นสำคัญก็คือ ต่อให้เปลี่ยนแนวอยู่ตลอด แต่ความเก่งกาจของฉู่ขวงก็ยังเหมือนเดิม นิยายทุกแนวของเขาเขียนได้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ!’
‘ว้าว ประโยคนี้เล่นใหญ่ไปอีก ถูกเลียนแบบได้ แต่ไม่มีวันถูกก้าวข้าม เจ้าแก่ฉู่ขวงนี่น่าเกรงขามจริงๆ!’
‘…’
ผู้อ่านไม่รู้เลยว่า
ในอีกโลกหนึ่งซึ่งไกลออกไป คำวิจารณ์ที่วงการนิยายมีต่อคุณย่า ก็คือประโยคที่ว่า ‘ถูกเลียนแบบได้ แต่ไม่มีวันถูกก้าวข้าม’
เซอร์ อาเธอร์ โคนัน ดอยล์สรรสร้างเค้กซึ่งมีชื่อว่านิยายสืบสวนสอบสวน ให้ชีวิตแก่บุคคลอันดับหนึ่งในโลกของนิยายสืบสวนสอบสวนอย่างโฮล์มส์!
และผลงานของคุณย่าก็กลายเป็นผลงานขายดีทั่วโลก ทำให้ผู้อ่านได้ลิ้มลองรสชาติของเค้กก้อนนี้ ทั้งยังให้กำเนิดบุคคลอันดับสองของโลกนิยายสืบสวนสอบสวนขึ้นมา นั่นก็คือปัวโรต์!
ดังจะเห็นได้จากข้อเท็จจริงที่ว่าผลงานของนักเขียนในแวดวงวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนได้รับอิทธิพลมาจากผลงานของคุณย่า
อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ และอกาธา คริสตีเป็นผู้บุกเบิกโลกแห่งนิยายสืบสวนสอบสวนอย่างแท้จริง
ถ้าบอกว่าคนแรกเป็นราชา อีกคนหนึ่งย่อมต้องเป็นราชินี
อย่างไรก็ตาม ในวงการนิยาย กลับมีนักอ่านจำนวนมากซึ่งยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องนี้เสียทีเดียว
ฉู่ขวงชื่อเสียงโด่งดัง ทุกคนย่อมรู้ว่าคนคนนี้สันทัดการบุกเบิกประเภทใหม่ เรื่องนี้มีความจริงเป็นประจักษ์อยู่แล้ว
แต่เพราะผู้อ่านนิยายสืบสอบสวนต่างก็มีทัศนะต่อนิยายประเภทนี้ไปในทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะจินตนาการว่าจะสร้างสรรค์นิยายสืบสวนสอบสวนรูปแบบใหม่ได้อย่างไร
แม้แต่คาเธอร์ซึ่งเป็นปรมาจารย์แห่งวงการนิยายสืบสวนสอบสวนของที่นี่ ก็ยังไม่กล้าบอกว่าตนสร้างสรรค์ผลงานรูปแบบใหม่เลยล่ะมั้ง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน