Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 304

สรุปบท ตอนที่ 304 ลายเซ็นของฉู่ขวง: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอน ตอนที่ 304 ลายเซ็นของฉู่ขวง จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 304 ลายเซ็นของฉู่ขวง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 304 ลายเซ็นของฉู่ขวง

“ต่างโลกกัน แต่เจอเรื่องคล้ายกัน”

หลังจากที่หลินเยวียนสังเกตเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างสะท้อนใจ

บนโลก เรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ในฐานะที่เป็นผลงานสร้างชื่อของคุณย่า ก็ถูกขนานนามว่าเป็นผลงานซึ่งเป็นที่ถกเถียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์

อาจเป็นเพราะชื่อเสียงของตนโด่งดังกว่าคุณย่าในช่วงที่เขียนเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ เสียงของการถกเถียงจึงมีไม่มาก แต่ก็ใช่ว่าจะหลีกหนีจากสถานการณ์ทำนองนี้ได้เสียทั้งหมด

โชคดีที่คุณภาพของเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์เป็นที่ยอมรับ และวิธีเล่าเรื่องในนิยายแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้นั้นก็ปรับใช้ได้เป็นอย่างดี

ถึงอย่างไรเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ก็เป็นผลงานต้นแบบของงานเขียนรูปแบบเดียวกัน ถูกทำตามมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดที่ก้าวข้ามได้

ต้องเข้าใจว่า ในการจัดอันดับหนึ่งร้อยนิยายสืบสวนสอบสวนคลาสสิกโดยสมาคมนักเขียนนิยายลึกลับแห่งสหรัฐอเมริกา[1] ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์จัดอยู่ในอันดับที่ 12

นอกจากนั้น

สมาคมนักเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนแห่งแดนปลาดิบ ในการจัดอันดับ ‘BEST 100’ จากการโหวตโดยชมรมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ติดอยู่ในอันดับที่ 5!

ในการจัดอันดับนี้ อันดับที่หนึ่งก็คือผลงานของคุณย่าเช่นกัน นิยายเรื่องที่โดดเด่นกว่านี้ มีชื่อว่า ‘จนศพสุดท้าย’

ตอนที่หลินเยวียนสั่งผลิตผลงานก่อนหน้านี้ เขานึกละโมบอยากสุ่มให้ได้นิยายเรื่องนี้จนแทบน้ำลายไหล

“หัวหน้า”

จินมู่เข้ามาเพื่อรายงานสถิติของเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ในตอนนี้

นี่เป็นวันที่ห้าหลังจากเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ปล่อยออกไป ยอดขายของนิยายได้สะสมไปถึงราว 5.6 ล้านเล่มแล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากยอดขายตั้งแต่เมื่อวานนี้ ก็ปรากฏว่ามีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับจุดเด่นของเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ เมื่อใดที่ถูกสปอยล์ตอนจบไปแล้ว อรรถรสในการอ่านนิยายเรื่องนี้จะลดลงในทันที

แต่ในยุคสมัยแห่งอินเทอร์เน็ตนี้ สปอยล์มีอยู่ทุกแห่งหน การแสดงความคิดเห็นเป็นเสรีภาพ เราจึงไม่สามารถคาดหวังให้ทุกคนเก็บความลับได้เสมอไป

“ยอดขายไม่เลวเลยครับ ไม่รู้ว่าในเดือนนี้จะทะลุสิบล้านเล่มได้ไหม…”

หลินเยวียนลอบยกยิ้มในใจ นี่เป็นข้อดีของการที่ผู้อ่านเพิ่มขึ้น ทุกคนมาผนวกรวมกันเร็ว!

“ยังบอกไม่ได้”

จินมู่เอ่ย “ทางคลังหนังสือซิลเวอร์บลูติดต่อผมมา หวังว่าคุณจะเซ็นหนังสือ…”

เซ็นหนังสือ

นี่เป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นยอดขาย

หลินเยวียนไม่สะดวกออกหน้า กำลังจะปฏิเสธ จินมู่ก็เอ่ยตัดบทขึ้นมาเสียก่อน “ไม่จำเป็นต้องออกหน้าครับ เราเซ็นแค่ห้าสิบเล่ม ทำเป็นการส่วนตัว หลังจากนั้นก็ให้คลังหนังสือซิลเวอร์บลูสุ่มส่งไปยังร้านหนังสือแต่ละแห่ง รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ด้วย”

“ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอครับ”

หลินเยวียนประหลาดใจ ตอบรับในทันที หนำซ้ำยังออกตัวบอกว่า “หรือเราเซ็นสักหนึ่งร้อยเล่มดีไหมครับ?”

“มากไปก็ไม่ดีครับ”

จินมู่กล่าวกลั้วหัวเราะ “ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการเซ็นหนังสือครั้งแรกของหัวหน้า ของหายากย่อมมีมูลค่าสูง ห้าสิบเล่มก็พอแล้วครับ ถือว่าเป็นกลยุทธ์โปรโมตสินค้า”

“ก็ได้ครับ”

หลินเยวียนพยักหน้า

เขาพูดแล้วย่อมลงมือทำ ในวันนั้นจึงรับหนังสือห้าสิบเล่มที่คลังหนังสือซิลเวอร์บลูส่งมา กำลังจะเซ็นชื่อของตนเองลงไป

“เซ็นว่าฉู่ขวงนะครับ”

จินมู่เห็นหลินเยวียนกำลังจะจรดปากกา จึงรีบร้อนเอ่ยเตือน

“โชคดีที่อาจินเตือนผมก่อน”

หลินเยวียนเกือบเซ็นชื่อจริงลงไปแล้ว

จินมู่เอ่ยเตือนอีก “เมื่อคำนึงถึงตัวตนอื่นๆ หลังจากนี้อาจเจอเรื่องเดียวกัน ผมขอแนะนำให้คุณปรับลายมือเล็กน้อย”

“ลายมือ?”

หลินเยวียนชะงักไป จากนั้นก็ตระหนักได้ในทันที

เขาจึงขบคิดเล็กน้อย ก่อนจะตวัดลายมืออย่างฉวัดเฉวียนว่า ‘ฉู่ขวง’

ขวงเฉ่า[2]

ถ้าหลังจากนี้มีคนให้เซี่ยนอวี๋เซ็น หลินเยวียนก็จะเขียนด้วยตัวข่ายซู[3]

ส่วนอิ่งจือ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน

“ลายมือของหัวหน้านี่ช่าง…”

จินมู่มองตัวหนังสือฉวัดเฉวียนซึ่งเขียนว่า ‘ฉู่ขวง’ พลางยกมือคลึงขมับ

ตัวอักษรของหัวหน้า อย่าเรียกว่าขวงเฉ่าเลย เรียกว่าไก่เขี่ยน่าจะเหมาะกว่า

ใช่แล้ว หลินเยวียนไม่ใช่คนลายมือสวย

ดูท่าหัวหน้าก็ไม่ใช่คนที่เก่งไปซะทุกอย่าง เขาก็มีเรื่องที่ไม่ถนัดเหมือนกัน จินมู่คิดเช่นนี้ในใจ

ถ้าไม่ได้กลัวว่าจะเป็นการหลอกลวงผู้อ่าน จินมู่แทบอยากเข้าไปช่วยเซ็นแทนหลินเยวียนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

หนังสือห้าสิบเล่มเซ็นห้าสิบครั้ง เท่ากับหนึ่งร้อยคำ ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงเลย

หลังจากส่งหนังสือซึ่งเซ็นเสร็จเรียบร้อยกลับไปยังคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ไม่นานทางนั้นก็รีบประกาศข่าวสู่โลกภายนอก

หนังสือเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์พร้อมลายเซ็น วางจำหน่ายแบบสุ่ม!

แผนกระตุ้นยอดขายนี้ออกจะช้าไปสักหน่อย อันที่จริงควรนำเสนอไปตั้งแต่ที่นิยายปล่อยออกมาแรกๆ ทว่ากระแสของนิยายตอนที่เพิ่งวางจำหน่ายนั้นสูงสู้ตอนนี้ไม่ได้…

ถึงอย่างไรคลังหนังสือซิลเวอร์บลูก็มองเรื่องนี้เป็นเพียงกิจกรรมสนุกๆ

ปรากฏว่า คลังหนังสือซิลเวอร์บลูประเมินความต้องการของแฟนคลับต่อหนังสือพร้อมลายเซ็นฉู่ขวงต่ำเกินไปอย่างเห็นได้ชัด

ในวันที่ข่าวนี้ประกาศออกไป

สาขาใหญ่ของศูนย์หนังสือสือกวงในเมืองหยาง

ลูกค้าบางคนถึงขั้นขับรถตู้มายังร้านหนังสือ กว้านซื้อเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์รวดเดียวหนึ่งพันเล่ม จนพนักงานในร้านต้องมาช่วยกันยกสินค้า

มีผู้คนซึ่งผ่านไปมาลอบสังเกตการณ์อย่างอดไม่ได้

ในขณะนั้นมีนักข่าวผ่านมา และเห็นภาพเหตุการณ์อันน่าตกใจนี้เข้าพอดี

นักข่าวจึงเข้าไปสัมภาษณ์ และสอบถามด้วยความประหลาดใจในทันที

“ทำไมถึงซื้อเยอะขนาดนี้ล่ะคะ คุณเองก็เปิดร้านหนังสือ แล้วสินค้าหมดเหรอคะ”

“เปล่าครับ”

‘เงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนรวยเลยสินะ เหมาหนังสือจนแทบหมดร้าน เพียงเพื่อหนังสือพร้อมลายเซ็นแค่เล่มเดียว’

‘ลายเซ็นราคา 5000 หยวน แพงกว่าลายเซ็นดาราอีกนะเนี่ย!’

‘ที่บ้านผมมีลายเซ็นนักร้องแถวหน้า ขายสองพันยังไม่มีคนซื้อเลย…’

‘ฉันได้ยินว่าเสื้อพร้อมลายเซ็นนักบาสระดับซูเปอร์สตาร์ขายได้แปดพัน แต่นั่นเป็นลายเซ็นของนักบาสระดับซูเปอร์สตาร์ทั้งทีมไง ฉู่ขวงมีแค่คนเดียว’

‘อาจเป็นเพราะฉู่ขวงไม่เคยขายหนังสือพร้อมลายเซ็นมาก่อน ก็เลยหายาก’

‘ผมตัดสินใจซื้อฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์มาหนึ่งเล่ม เนื้อหาเหมือนกัน คนอื่นจ่าย 5000 หยวน ผมจ่ายแค่ 15 หยวน ผมได้เงินตั้ง 4885 หยวน!’

‘ฉันอยากเรียกคุณว่าอัจฉริยะด้านคณิตศาตร์ซะจริงๆ ซื้อมาหนึ่งร้อยเล่ม บ้านรวยขึ้นมาทันที!’

‘ฮ่าๆๆๆ วิชาคณิตศาตร์คืนครูไปแล้วใช่มั้ยเนี่ย ลองแกล้งๆ เอาเครื่องคิดเลขขึ้นมากดก็ได้นะ ที่จริงคุณได้ 4985 หยวนต่างหากล่ะ’

‘…’

ชาวเน็ตถกเถียงกันอย่างคึกคัก หลังจากเกิดกระแสรอบแล้วรอบเล่า คำว่า ‘ผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้’ ก็เริ่มหยั่งรากลึกในจิตใจของผู้คน

‘เลิกพูดว่าการสืบคดีของเรื่องนี้เชื่อถือไม่ได้สักที เขาเรียกว่าเทคนิคผู้เหล้าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้!’

‘ขี้เมาไปอีก เล่าเรื่องไม่ใช่เหล้าเรื่อง’

‘ผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ เป็นคำอธิบายที่ชัดเจนมาก’

‘ที่แท้ก็เรียกว่าผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ เพิ่งรู้นะเนี่ย!’

‘เทคนิคผู้เล่าเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถืออะไรง่ะ อ่านเรื่องนี้จบแล้วรู้สึกเหมือนโดนไล่ออกมาจากวงการนิยายสืบสวน หลังจากนี้ฉันจะไม่อ่านนิยายสืบสวนสอบสวนแล้ว เหมือนสมองโดนทุบ เจ้าแก่ฉู่ขวงไว้ใจไม่ได้เลย!’

‘…’

หลินเยวียนอ่านเสียงสะท้อนเหล่านี้จากนักอ่านด้วยความตกตะลึง

เขาเริ่มขบคิดเกี่ยวกับการค้าลายเซ็นอย่างจริงจัง

เอาเถอะ

ไม่ทันไรความคิดเหล่านี้ของหลินเยียนก็มลายหายไป หลินเยวียนเข้าใจหลักการที่เรียกว่าของหายากย่อมมีมูลค่าสูง

นอกจากนั้นสถานะทางการเงินในตอนนี้ของหลินเยวียนดีขึ้นมาแล้ว

ไม่เช่นนั้น หลินเยวียนคงไม่สนใจเรื่องของหายากย่อมมีมูลค่าสูงหรอก

ทว่าในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มีเรื่องหนึ่งที่ทำให้หลินเยวียนรู้สึกหดหู่

มีชาวเน็ตบางคนอวดลายเซ็นของฉู่ขวง เพราะลายมือขยุกขยุยของหลินเยวียน ทำให้เกิดคำเยาะเย้ยจากผู้คนมากมาย

บนพื้นที่แสดงความคิดเห็นของเขา คอมเมนต์อันดับหนึ่งก็คือ

‘เจ้าแก่ฉู่ขวง อย่าใช้แค่คีย์บอร์ดพิมพ์สิ ว่างๆ ก็ฝึกคัดลายมือหน่อย’

ลายมือของเขา ถูกคนเกลียดซะแล้วสิ!

……………………………………………………

[1] สมาคมนักเขียนนิยายลึกลับแห่งสหรัฐอเมริกา (Mystery Writers of America) เป็นองค์กรของนักเขียนนิยายลึกลับและอาชญากรรม ตั้งอยู่ในมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มอบรางวัลหลากหลายประเภทให้กับบุคลากรในอุตสาหกรรมนิยายสืบสวนสอบสวน เช่น รางวัลเอดการ์ อวอร์ด (Edgar Award) ซึ่งมอบให้แก่นักเขียนนิยายสืบสวนสอบสวน รางวัลเรเวน อวอร์ด (Raven Award) ซึ่งมอบให้แก่บุคคลซึ่งไม่ใช่นักเขียน แต่มีคุณูปการในวงการนิยายสืบสวนสอบสวน และรางวัลแกรนด์มาสเตอร์ อวอร์ด ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดเพื่อยกย่องความสามารถและความสำเร็จตลอดชีวิตของนักเขียน โดยอกาธา คริสตีก็ได้รับรางวัลนี้ในปี 1955

[2] ขวงเฉ่า คือรูปแบบการเขียนตัวอักษรประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นการเขียนแบบหวัดและตัวอักษรเชื่อมโยงกัน

[3] ข่ายซู คือรูปแบบการเขียนตัวอักษรตัวบรรจง ซึ่งใช้กันในปัจจุบัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน