Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 321

ตอนที่ 321 เลี้ยงน้องหมา

สามวันให้หลัง จางซิ่วหมิงก็ตกลงรับเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูอย่างเป็นทางการ

หลังจากกำหนดตัวเอกชายเรียบร้อย หลินเยวียนจึงไปหาเหล่าโจวเพื่อบอกอีกฝ่ายว่าตนจะถ่ายทำเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญู

“มีบทเรื่องใหม่แล้ว?”

เหล่าโจวตกใจกับความเร็วในการผลิตผลงานของของหลินเยวียน

ก่อนหน้านี้ไม่นานหลินเยวียนเพิ่งเขียนเรื่องชีวิตอัศจรรย์ของพาย

ปรากฏว่าขณะที่เรื่องนี้กำลังเตรียมการ หลินเยวียนมีบทเรื่องใหม่ออกมาแล้ว

เขาอ่านบทจากหลินเยวียนแล้ว

เนื้อหาในบทนั้นสั้นเหลือเกิน พูดถึงเรื่องราวของคนหนึ่งคนและสุนัขอีกหนึ่งตัว

ความสามารถในการจินตนาการจากตัวอักษรของเหล่าโจวนั้นไม่สูงนัก เมื่ออ่านบทจบแล้ว เขารู้สึกเพียงแค่ซาบซึ้ง แต่กลับไม่ได้ร้องไห้จนน้ำหูน้ำตาไหล

“ดีมาก ถ่ายทำได้”

พิจารณาอยู่สักพัก เหล่าโจวก็กล่าวว่า “เดี๋ยวบริษัทจะคำนวณให้นาย”

ถึงยังไงก็เป็นบทที่เชิญจางซิ่วหมิงมาได้เชียวนะ

จางซิ่วหมิงเป็นนักแสดงระดับราชาภาพยนตร์ของสตาร์ไลท์ นับว่าเป็นนักแสดงชั้นนำในหมู่ศิลปิน

ศิลปินระดับนี้มีคุณสมบัติมากพอที่จะเจรจากับบริษัทแล้ว

ถ้าหากตัวจางซิ่วหมิงไม่เต็มใจ ก็เป็นเรื่องยากที่บริษัทจะเรียกให้จางซิ่วหมิงมาถ่ายภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่ง

ทว่าจางซิ่วหมิงยินดีแสดงเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญู ย่อมบอกได้ชัดว่าเขาชื่นชอบบทภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ

เหล่าโจวมีแหล่งข้อมูลกว้างขวาง ย่อมรู้เรื่องที่นักเขียนบทชื่อดังในวงการอย่างหลงหยางเชิญจางซิ่วหมิงมาถ่ายทำภาพยนตร์

เดิมทีเรื่องนี้สามารถดำเนินการได้อย่างลุล่วง แต่เมื่อมีเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญู เดาว่าจางซิ่วหมิงคงเปลี่ยนใจแล้ว

“คนที่เลี้ยงหมาน่าจะชอบเรื่องแบบนี้มาก”

เหล่าโจวเอ่ยแสดงความเห็น “ฉันไม่เคยเลี้ยงหมา ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกพวกนี้ แต่จางซิ่วหมิงเหมือนจะเลี้ยงหมา แถมบทเรื่องนี้เขียนได้ซึ้งมาก ผู้กำกับกับโปรดิวเซอร์ครั้งนี้เป็นทีมเดิม?”

“ครับ”

หลินเยวียนตอบ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำไม่ยาก อี้เฉิงกงสามารถทำได้

ตอนนี้มีนักแสดงหมายเลขหนึ่งแล้ว

หลังจากนี้ก็เป็นสุนัขหมายเลขหนึ่ง

ทุกวันนี้ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำกับสุนัขนั้นมีไม่มาก

ถ้าหากหลินเยวียนให้ทีมงานหาสุนัขที่เหมาะสม ทีมงานจะไปที่ศูนย์ฝึกสัตว์เลี้ยงเพื่อการถ่ายทำอย่างแน่นอน

ขณะเข้าร่วมการถ่ายทำอย่างเป็นทางการ เจ้าของหรือผู้ฝึกสุนัขจะแนะนำสุนัขอยู่ข้างๆ

โดยทั่วไปแล้วสุนัขประเภทนี้จะมีราคาแพงกว่า และในขณะเดียวกันก็มีนิสัยที่ค่อนข้างเชื่อง จึงทำให้ถ่ายทำได้ค่อนข้างง่าย

แต่หลินเยวียนมียาน้ำนักแสดง ไม่กลัวว่าสุนัขจะไม่มีทักษะการแสดง เพราะฉะนั้นเขาจึงเลือกจากมาตรฐานของตนเอง

วิธีการหาสุนัขนั้นแสนเรียบง่าย นั่นก็คือไปยังศูนย์สัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่แต่ละแห่งของเมืองซู

ภาพยนตร์ต้นฉบับใช่สุนัขพันธุ์อาคิตะ

หลินเยวียนไม่ได้ยึดติดกับเรื่องนี้ เขารู้สึกว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์อะไรก็ได้ทั้งนั้น ความซาบซึ้งของภาพยนตร์นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์สุนัข

ปรากฏว่าคัดเลือกอยู่หลายวัน หลินเยวียนก็ได้พบกับน้องหมาน่ารักหลายตัว ทว่ายังไม่รู้สึกถูกใจสักที

หลินเยวียนคิดว่าความรู้สึกเช่นนี้สำคัญมากทีเดียว เพราะฉะนั้นเขาจึงตามหาอยู่หลายวัน ทั้งยังถามผู้คนโดยรอบว่ามีใครมีน้องหมาน่ารักๆ บ้าง

ด้วยคำถามนี้เอง หลายคนจึงคิดว่าหลินเยวียนอยากเลี้ยงสุนัข

ซุนเย่าหั่วจึงจัดทำพาวเวอร์พอยต์ของสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ มาให้หลินเยวียนเลือก

หลินเยวียนชอบสายพันธุ์ไหน เขาล้วนจัดการให้ได้หมด

สุดท้ายแล้วหลินเยวียนก็ไม่ได้เลือกสุนัขจากในพาวเวอร์พอยต์ของซุนเย่าหั่ว

เพราะหลังจากที่หลินเหยาน้องสาวรู้ว่าหลินเยวียนกำลังตามหาน้องหมา เธอก็แอบแนะนำสุนัขจรจัดซึ่งอยู่ใกล้ๆ วิลล่าให้กับเขา…

“อยู่ที่สวนดอกไม้ด้านหน้า หนูเห็นมันอยู่ตรงนั้นบ่อยๆ ชื่อว่าหนานจี๋[1] เป็นชื่อที่หนูตั้งให้เอง เพราะหนูเจอมันช่วงหน้าหนาว อยู่ทางทิศใต้ของเขตนี้แหละ ตอนนั้นหนาวมาก หนูก็เลยกลับบ้านไปหยิบเสื้อมาให้มัน”

หลินเหยาอธิบายไปพลางเดินนำหลินเยวียนไปยังด้านข้านของสวนดอกไม้อย่างชำนิชำนาญ

เห็นได้ชัดว่า เธอมาเล่นกับสุนัขตัวนี้บ่อยมาก

สองนาทีผ่านไป หลินเยวียนก็ได้เจอกับเจ้า ‘หนานจี๋’ ที่น้องสาวพูดถึง

มันเป็นสุนัขซึ่งหน้าตาคล้ายกับสุนัขพันธุ์เยอรมันเชปเพิร์ด ทว่ารายละเอียดเรื่องสายพันธุ์นั้นไม่อาจบอกได้ แต่อย่างไรก็เป็นสุนัขขนาดใหญ่

ขาหน้าของมันกำลังตะกุยพื้น ส่วนขาหลังกลับลากอยู่บนพื้น ราวกับเป็นอัมพาตอย่างไรอย่างนั้น

“หนานจี๋!”

สีหน้าของหลินเหยาพลันเปลี่ยนไป “ขาเป็นอะไรน่ะ”

หนานจี๋ร้องอิ๋งๆ คล้ายกับรู้จักหลินเหยา

หลินเยวียนส่ายหน้า

หมาตัวนี้รูปลักษณ์ไม่เลวเลย แต่ขาหลังมีปัญหา สงสัยว่าจะเป็นอัมพาต ทำให้นำไปเข้าร่วมการถ่ายทำไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน