Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 337

ตอนที่ 337 ทุกคนเข้าถึงได้

แรกเริ่มเดิมที ความสนใจของทุกคนล้วนไปอยู่ที่การเขียนตัวอักษร ตัวอักษรข่ายซูที่คมชัดให้ความรู้สึกเที่ยงตรงประณีตและสงบนิ่งอ่อนโยน ต่อให้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเขียนพู่กันก็สามารถเห็นถึงความประณีตของตัวอักษรเหล่านี้ได้

หมู่เมฆคล้อยและสายน้ำไหล

จรดพู่กันดุจเมฆหมอก

ช่วงนี้เป็นเพราะเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสฉบับลายเซ็น หลายคนต่างถกเถียงกันว่าสรุปแล้วฉู่ขวงมีฝีมือด้านการเขียนพู่กันหรือไม่ และในเวลาเช่นนี้ ฉู่ขวงก็โพสต์ภาพผลงานเขียนพู่กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาญฉลาดอย่างไม่ต้องสงสัย!

‘เขียนตัวอักษรได้สุดยอดมาก!’

‘ก่อนหน้านี้ใครบอกว่าฉู่ขวงเป็นคนธรรมดาที่ลายมือสวย ไม่ต้องถามว่าคนธรรมดาเขียนพู่กันได้ไหม ต่อให้เป็นคนที่ฝึกเขียนพู่กันมาตั้งแต่เด็กอย่างฉันยังเขียนได้ไม่สวยถึงระดับฉู่ขวงเลย แม้แต่อาจารย์ที่สอนฉันก็อาจเขียนได้ไม่สวยเท่าฉู่ขวงเลยล่ะมั้ง!’

‘เป็นข่ายซูที่สวยมาก!’

‘นึกไม่ถึงว่าฉู่ขวงจะเชี่ยวชาญการเขียนข่ายซูด้วย ยอดฝีมือด้านการเขียนข่ายซูทั่วไปจะเขียนด้วยเส้นที่น้ำหนักสม่ำเสมอ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง หลังจากที่เชี่ยวชาญจังหวะพื้นฐานแล้ว ต้องฝึกฝนเพิ่มเติมจึงจะเขียนตัวอักษรประเภทนี้ได้ แต่ยอดฝีมือด้านการเขียนข่ายซูนั้นสามารถรับมือกับการถูกตรวจสอบ ปรับเปลี่ยนจุดผิดพลาดให้กลายเป็นลูกเล่นที่สวยงามได้ การเขียนตัวอักษรของฉู่ขวงแตะถึงระดับยอดฝีมือแล้ว!’

‘ตัวอักษรนี้เท่มาก…’

‘ผมคิดไปคิดมา ฉู่ขวงเขียนตัวอักษรสวยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถึงขั้นเขียนนิยายข้ามประเภทได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ ผมก็ตกใจแทบแย่แล้ว นี่ยังมาบอกผมว่าที่จริงแล้วคุณเป็นยอดฝึมือด้านการเขียนตัวอักษรอีกเหรอ?’

‘มิน่าละถึงบอกว่าฉู่ขวงฝีมือระดับปีศาจ!’

‘ฝีมือระดับปีศาจอย่างเจ้าแก่ฉู่ขวงจะไม่ให้คนอื่นมีหนทางทำมาหากินเลยหรือไง ตัวอักษรข่ายซูประณีตและมีเสน่ห์ ไม่ใช่ความสามารถระดับมืออาชีพอย่างแน่นอน เป็นนักเขียนตัวอักษรซึ่งงานล่าช้าเพราะการเขียนนิยายต่างหาก’

‘…’

ผู้ที่พอมีความรู้ด้านนี้มีมากมาย

คนที่เคยร่ำเรียนการเขียนตัวอักษรมาบ้างล้วนมองออกว่าตัวอักษรของฉู่ขวงอยู่ระดับไหน ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นระดับการเขียนตัวอักษรซึ่งระบบประเมินว่าอยู่ในระดับมืออาชีพ และคนที่สามารถเลี้ยงชีพด้วยการเขียนตัวอักษรนั้น มีหรือจะเขียนพู่กันได้ย่ำแย่?

ถึงขั้นที่มีนักเขียนพู่กันมืออาชีพให้ความเห็น

อย่างไรเสียฉู่ขวงก็เป็นคนดัง ดังนั้นผู้มีชื่อเสียงในแวดวงการเขียนตัวอักษรและผู้มีอิทธิพลบนปู้ลั่ว ต่างก็แชร์บทกลอน ‘ห้วงคำนึงในคืนสงัด’ ของฉู่ขวง พร้อมทั้งแสดงความเห็นทันที

‘ตัวอักษรของฉู่ขวงเรียบร้อยมาก’

‘น่าจะเติบโตในวงการการเขียนตัวอักษรได้’

‘ถ้าออกมาเป็นคอลเล็กชัน ผมจะซื้อเก็บ’

‘ตัวอักษรข่ายซูแบบนี้ต้องใช้เวลาฝึกสิบกว่าปีเลยนะ’

อันที่จริงคำวิจารณ์ของทุกคนนับว่าเป็นภววิสัย ต่อให้บอกว่าน่ากลัวว่าฉู่ขวงจะผ่านการเคี่ยวกรำมานับสิบปี ก็คงไม่เกินจริง ถ้าหากหลินเยวียนไม่ได้รับรางวัลจากกล่องสมบัติของระบบ หากให้เขาฝึกฝนด้วยตัวเองจนแตะถึงระดับนี้ อาจต้องใช้ระยะเวลาเกินกว่าสิบปีจริงๆ

ในขณะเดียวกัน

คนกลุ่มที่เรียกตนเองว่าเป็นกลางและมีเหตุผลก็ตะลึงไป ก่อนหน้านี้พวกเขาพูดเสียงแข็ง ว่าฉู่ขวงเป็นเพียงคนธรรมดาที่ลายมือสวย บังเอิญว่าเชี่ยวชาญการเซ็นลายเซ็นเท่านั้น ถึงขั้นที่แม้แต่เซ็นชื่อก็ไม่ได้ดีเลิศอะไร ตัวอักษรข่ายซูครั้งนี้ออกมาเหมือนลากพวกเขาไปตบกลางสี่แยก!

คนธรรมดา?

ไม่ได้ดีเลิศอะไร?

แม้แต่นักเขียนตัวอักษรระดับมืออาชีพซึ่งเคยเป็นต้นแบบของสมุดคัดลายมือล้วนให้ความเห็นว่าลายมือของฉู่ขวงสามารถใช้สอนในชั้นเรียนได้ด้วยซ้ำไป พวกเขาไหนเลยจะยังปากแข็ง ยืนกรานว่าที่ฉู่ขวงเขียนตัวอักษรได้ดี อันที่จริงเป็นเพียงการยกยอปอปั้นที่เป็นผลมาจากความโด่งดังของเขา

และในตอนนี้เอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน