Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 343

สรุปบท ตอนที่ 343 เปลี่ยนตัวตน: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 343 เปลี่ยนตัวตน – Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet

บท ตอนที่ 343 เปลี่ยนตัวตน ของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ในหมวดนิยายการเงิน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 343 เปลี่ยนตัวตน

หลัวเวยยิ้มเอ่ย “ใกล้หนึ่งปีแล้วนะคะ”

หลินเยวียนชะงัก “อะไรหนึ่งปีแล้วเหรอครับ”

หลัวเวยรอยยิ้มยังคงประดับบนใบหน้า “คุณลืมไปหรือเปล่าว่าก่อนหน้านี้พวกเราตกลงกันไว้ ฉันแพ้คุณในการแข่งขันภาพเขียนพู่กันโบราณ เลยรับปากว่าจะเป็นผู้ช่วยวาดการ์ตูนให้คุณสองปี แล้วตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบหนึ่งปีแล้ว ฉันเรียนจบแล้ว!”

“ยังเหลืออีกหนึ่งปี?”

หลินเยวียนฉุกคิดขึ้นได้ “ผมปีห้าแล้ว!”

ตอนนี้คือเดือนกรกฎาคม หลินเยวียนกำลังเข้าสู่ช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนของปีสี่ ถึงแม้จะยังไม่ได้ขึ้นปีห้าอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อเปิดเรียนในเดือนกันยายน เขาก็จะกลายเป็นนักศึกษาปีห้าอย่างเป็นทางการ เพียงแต่หลินเยวียนลาเรียนมากเหลือเกิน จนหลงลืมเรื่องนี้ไป

“หา?”

หลัวเวยกะพริบตาปริบๆ “คุณจำไม่ได้แม้แต่วันเรียน คงจำอีกข้อตกลงหนึ่งของพวกเราไม่ได้หรอก ตอนนั้นคุณบอกว่าถ้าฉันทำหน้าที่ผู้ช่วยวาดภาพได้ดี คุณจะสอนฉันวาดภาพพู่กันโบราณ ฉันคิดว่าฉันก็คงทำหน้าที่ได้ดีทีเดียวเลยใช่ไหมล่ะคะ?”

หลินเยวียน “…”

เขาลืมเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ

แต่หลัวเวยก็เอ่ยปากเตือนความจำหลินเยวียน ว่าเขาเคยพูดเรื่องนี้เอาไว้

และก่อนหน้านี้ที่หลินเยวียนรับปากว่าจะสอนหลัวเวยวาดภาพพู่กันโบราณ เหตุผลหลักก็เพราะเขารับภารกิจมาจากระบบ

นั่นก็คือภารกิจซึ่งมีเงื่อนไขว่าตนต้องทำให้ค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมแตะถึงสามแสนภายในหนึ่งปี!

รางวัลสำหรับภารกิจคือกล่องสมบัติซึ่งมีทักษะด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์!

และในตอนนี้ วันสิ้นสุดภารกิจก็ใกล้เข้ามาแล้ว!

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หลินเยวียนจึงบอกกับหลัวเวยว่า “หลังจากเรื่องสมุดมรณะปล่อยออกไป ผมจะหาเวลามาสอนคุณวาดภาพพู่กันโบราณนะครับ”

“ได้ค่ะ!”

หลัวเวยพยักหน้า

เธอชื่นชอบการวาดการ์ตูนก็จริง ทว่าความรักในการวาดภาพพู่กันโบราณยังคงอยู่เฉกเช่นก่อนหน้านี้

หลินเยวียนไม่ได้พูดคุยกับหลัวเวยต่อ แต่กลับนึกในใจว่า

‘ระบบ หลังจากนี้นายช่วยเตือนฉันเรื่องเวลาภารกิจหน่อยได้ไหม’

หลายภารกิจของระบบมีเวลาจำกัด

ภารกิจรับลูกศิษย์ครั้งก่อน ตนก็ทำเกินเวลาไปแล้ว

แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วระบบจะยอมอ่อนข้อให้ แต่หลินเยวียนคิดว่าระบบคงไม่ได้ใจดีแบบนี้ทุกครั้ง ถ้าเกิดพลาดวันที่ทำภารกิจสำเร็จเพราะเรื่องเวลา คงรู้สึกเสียดายน่าดู

ระบบใช้เสียงของเครื่องจักรกลตอบ “ได้”

หลินเยวียนเบ้ปาก บอกกับหลัวเวยซึ่งลุกขึ้นเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน “พรุ่งนี้เริ่มวาดเรื่องสมุดมรณะกันเถอะครับ”

หลัวเวยแปลกใจ “ทำไมเร็วจังคะ”

หลินเยวียนตอบ “เหตุผลโดยละเอียดไม่ต้องใส่ใจหรอกครับ เอาเป็นว่าเริ่มเร็วสักหน่อย คุณจะได้เรียนภาพเขียนพู่กันโบราณเร็วด้วย”

หลัวเวยสะพายกระเป๋าเป้ “คุณพูดแบบนี้ ฉันก็มีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาเลย!”

หลินเยวียนพยักหน้า “งั้นเริ่มพรุ่งนี้เลยนะครับ”

ภารกิจค่าความโด่งดังแตะถึงสามแสนภายในหนึ่งปี ยังเหลือเวลาอีกสองเดือนก็ครบกำหนดแล้ว

หลินเยวียนต้องรีบปล่อยเรื่องสมุดมรณะออกไปก่อนที่ภารกิจจะครบกำหนดเวลา

และในตอนนี้ค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมของหลินเยวียนอยู่ที่ 270,000

หรือกล่าวได้ว่า หลินเยวียนยังขาดค่าความโด่งดังอีก 30000 ก็ทำภารกิจสำเร็จ

และถ้าหากเรื่องสมุดมรณะเผยแพร่ได้สำเร็จ แค่ค่าความโด่งดังสองสามหมื่นจะไปยากอะไร

นี่เป็นเหตุผลที่หลินเยวียนรีบร้อนปล่อยเรื่องสมุดมรณะกะทันหัน

ภารกิจไม่ยาก แต่หากปล่อยให้หมดเวลารังแต่จะเสียเปล่า

ยิ่งไปกว่านี้ อัตราผลตอบแทนของภารกิจนี้สูงมาก เพราะมันคือทักษะด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์!

จากมาตรฐานของระบบแล้ว ระดับปรมาจารย์ในวงการก็คือระดับยอดพีระมิด

……

หลินเยวียนงุนงง “ดียังไงครับ”

จินมู่อธิบาย “เดือนสิงหาคมเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อน มีนักเรียนปิดเทอมเยอะ และคนอ่านการ์ตูนโดยมากก็เป็นนักเรียน ถ้าปล่อยการ์ตูนออกไปช่วงนี้ ก็จะได้รับความสนใจค่อนข้างมาก”

“อ้อ”

“เดือนสิงหาคมดี แต่นั่นก็หมายความว่าการแข่งขันในเดือนสิงหาคมจะดุเดือดขึ้น ผมเพิ่งหาข้อมูด นักวาดการ์ตูนบนปู้ลั่วที่ประกาศว่าจะปล่อยผลงานในเดือนสิงหาเก่งมากเลยนะครับ หนึ่งในนั้นมีระดับปรมาจารย์สองคน ทั้งคู่เป็นนักวาดการ์ตูนชื่อดังของมณฑลฉู่”

“อย่างนั้นเหรอครับ”

หลินเยวียนย่อมรู้ดีว่าการแข่งขันดุเดือดที่จินมู่พูดถึงหมายความว่าอะไร ปกติแล้วบนเว็บไซต์จะปล่อยโฆษณาการ์ตูนเรื่องใหม่ แต่ทรัพยากรในการโฆษณานั้นมีจำกัด โดยทั่วไปแล้วทรัพยากรระดับสูงสุดมักจะถูกจัดสรรไปให้นักวาดการ์ตูนที่มีชื่อเสียงมากที่สุด นั่นก็คือ…

ระบบแข่งขันช่วงชิงตำแหน่งการ์ตูนแนะนำ

ถ้าหากในช่วงเวลาเดียวกันไม่มีนักวาดการ์ตูนที่โด่งดังกว่าหลินเยวียน ทรัพยากรที่ดีที่สุดย่อมถูกจัดสรรมาให้กับหลินเยวียน แต่ถ้ามีนักวาดการ์ตูนอีกสองคนที่สถานะไม่ได้ด้อยกว่าหลินเยวียน เช่นนั้นก็ต้องใช้การแข่งขันระหว่างหลินเยวียนและอีกสองคนมาตัดสิน

ทรัพยากรที่ดีที่สุดย่อมมอบให้คนที่โด่งดังกว่า

ถึงอย่างไรเมื่อเทียบกับนักวาดการ์ตูนจากมณฑลฉู่อีกสองท่าน อิ่งจือก็ไม่ได้ตกเป็นรองเลย

“ครับ”

หลินเยวียนไม่ได้กังวลใจ

จินมู่ไม่เข้าใจถึงความนิ่งเฉยของหลินเยวียน เขายังคงหวั่นวิตกอยู่บ้าง

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็สันทัดด้านการปลอบใจ

‘หัวหน้าไม่ต้องกังวลไป ยังไงซะการ์ตูนของหัวหน้าก็ไม่มีทางถูกเมินง่ายๆ หรอกครับ จะว่าไปถ้าครั้งนี้พวกเราเอาชนะได้ ก็จะเป็นหน้าเป็นตาให้กับวงการการ์ตูนของฉินด้วย คนฉู่ข่มการ์ตูนของเรา คงได้ใจน่าดู’

หลินเยวียน ‘…’

ข้อพิพาทระหว่างพื้นที่ในลักษณะนี้ไม่ได้หายไปง่ายๆ เพียงเพราะการผนวกรวม ทุกคนมักจะเปรียบเทียบกันโดยไม่รู้ตัวเสมอ

จะว่าไปแล้ว

นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับชาวฉู่ เพียงแค่ครั้งนี้เขาเปลี่ยนตัวตนก็เท่านั้นเอง

………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน