Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 344

ตอนที่ 344 มีลับลมคมใน

พูดจากใจจริง หลินเยวียนไม่ได้สนใจความขัดแย้งระหว่างพื้นที่ แต่เรื่องนี้มักจะไม่ได้เป็นไปตามความต้องการของหลินเยวียน

จินมู่ยังมีทัศนะเช่นนี้ นับประสาอะไรกับชาวฉู่ซึ่งเดิมทีก็ภาคภูมิใจในอุตสาหกรรมการ์ตูนและอนิเมชันของตนเองอยู่แล้ว

วันรุ่งขึ้น

ข่าวว่าอิ่งจือจะปล่อยผลงานเรื่องใหม่ในเดือนสิงหาคม ก็ปรากฏบนกระดานประกาศของเว็บไซต์ ดึงดูดความสนใจของผู้อ่านและแฟนคลับได้ไม่น้อย

‘ผลงานใหม่ของอิ่งจือ? จิตวิญญาณสือจี่เพิ่งจบ ก็เปิดเรื่องใหม่แล้ว?’

‘เร็วไปอีกก ดูท่าแล้วครั้งนี้ก็ยังเป็นผลงานออริจินัลของเขาเหมือนเดิม’

‘อิ่งจือไม่มีทางยอมเป็นนักวาดบริสุทธิ์แน่ๆ อีกอย่างผลงานของเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ก็พิสูจน์ความสามารถด้านการสร้างสรรค์ผลงานต้นฉบับของเขาแล้ว’

‘ถึงฉันจะไม่สนใจจิตวิญญาณสือจี่ แต่ขอให้ผลงานชิ้นใหม่ของอาจารย์อิ่งจือปังด้วยเถอะ เพราะฉันเป็นแฟนคลับของฉู่ขวง!’

‘ผมติดตามอิ่งจือเพราะเซี่ยนอวี๋ ตอนแรกรู้สึกสงสัย ก็เลยมาติดตาม ปรากฏว่าชอบนักวาดคนนี้ขึ้นมาเพราะเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ แต่ทุกคนชอบแซวว่าอิ่งจือเป็นเงาจืดจาง หวังว่าอิ่งจือจะลบล้างคำปรามาสนี้ได้’

‘ฮ่าๆๆๆๆ เหมือนว่าจะมีหลายคนที่ติดตามอิ่งจือเพราะฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋’

‘เรียกได้ว่าเป็นเงาจืดจางสุดๆ’

‘…’

ต่อให้แฟนคลับตัวยงบางส่วนพยายามเน้นย้ำถึงสถานะของอิ่งจือในวงการการ์ตูน แต่ป้ายกำกับในฐานะ ‘เงาจืดจาง’ บนตัวของอิ่งจือก็ไม่ใช่สิ่งที่จะแกะออกไปง่ายๆ

ผ่านไปหลายวัน ปู้ลั่วการ์ตูนก็ปล่อยบทสัมภาษณ์ของเจ้าตัวออกมา

ก่อนที่นักวาดการ์ตูนชื่อดังจะปล่อยผลงานชิ้นใหม่ออกมา ทางเว็บไซต์จะจัดให้มีการสัมภาษณ์

แต่การสัมภาษณ์นี้ไม่เกี่ยวข้องกับอิ่งจือ

การสัมภาษณ์ของอิ่งจือยังไม่เริ่มต้นขึ้น

ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเซวี่ยไห่และชิวเตาอวี๋

เซวี่ยไห่กับชิวเตาอวี๋ก็คือนักวาดการ์ตูนชื่อดังทั้งสองที่จะปล่อยผลงานเรื่องใหม่ในเดือนสิงหาคม

พวกเขาเป็นคนฉู่ และจะปล่อยผลงานชิ้นใหม่บนปู้ลั่วในเดือนสิงหาคม ดังนั้นจึงตอบรับการสัมภาษณ์ของเว็บไซต์พร้อมกัน เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องให้กับผลงานใหม่

หลินเยวียนเคยผ่านการสัมภาษณ์ในลักษณะเดียวกันก่อนจะเผยแพร่เรื่องจิตวิญญาณสือจี่

เดิมทีเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรมาก

แต่คำพูดของทั้งสองในการสัมภาษณ์ กลับทำให้หลัวเวยรู้สึกหดหู่ใจ

ตัวอย่างเช่นคำพูดนี้ของชิวเตาอวี๋

‘นึกไม่ถึงว่าอาจารย์เซวี่ยไห่จะปล่อยผลงานใหม่ในเดือนสิงหาเหมือนกัน ถ้ารู้แต่แรก บางทีผมอาจเปลี่ยนวัน’

หรือคำพูดของเซวี่ยไห่

‘หัวหน้าชิวฝีมือเยี่ยมยอด เดือนสิงหาคมปล่อยผลงานพร้อมกับหัวหน้าชิวก็ได้ จะได้ไม่เหงามาก’

เมื่อฟังดูแล้ว ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรมาก เป็นเพียงการชื่นชมกันเองของคนในวงการเดียวกัน

แต่ปัญหาคือ แล้วอิ่งจือล่ะ?

เดือนสิงหาคมเป็นสังเวียนประลองของเทพทั้งสาม ปรากฏว่าพวกคุณสองคนชมกันปะเหลาะ เห็นว่าอิ่งจือเป็นเงาหรืออย่างไร

หรือว่าอิ่งจือไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่แข่งของพวกเขา

เห็นได้ชัดว่าทั้งสองจงใจไม่เอ่ยถึงอิ่งจือ

ทั้งสองถึงขั้นหัวเราะเหอะๆ ประกาศก้อง ‘เดือนสิงหาคมจะเป็นดาร์บีแมตช์ของพวกเราชาวฉู่’

สิ่งที่เรียกว่าดาร์บีแมตช์ โดยทั่วไปแล้วหมายถึงการแข่งขันระหว่างทีมซึ่งมาจากพื้นที่เดียวกัน

นี่คือเหตุผลที่ทำให้หลัวเวยรู้สึกหดหู่

อิ่งจือถูกมองข้าม!

และประโยคสุดท้ายของบทสัมภาษณ์ ก็ยิ่งทำให้หลัวเวยกลอกตา

เริ่มต้นด้วยคำถามสุดท้ายจากพิธีกร พิธีกรเองก็รู้สึกว่าทั้งสองน่าจะเอ่ยถึงอิ่งจือสักหน่อย จึงพยายามเปิดประเด็น

‘อาจารย์อิ่งจือซึ่งจะปล่อยผลงานในช่วงเดียวกับทั้งสองท่านเป็นอย่างไรบ้างคะ’

‘อิ่งจือ?’

ชิวเตาอวี๋มองไปที่เงาของตน ‘มองไม่ชัดเลยครับ’

เซวี่ยไห่ก็ยิงมุก ‘อิ่งจือเป็นเงาจืดจางไม่ใช่เหรอครับ’

คนที่พอจะรู้เรื่องนี้อยู่บ้างย่อมเข้าใจ ว่าอิ่งจือถูกหลายคนหยอกล้อว่าเป็น ‘เงาจืดจาง’

ชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่ใช้เรื่องนี้เพื่อสื่อถึงอิ่งจือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน