ตอนที่ 345 ทักษะด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์
“คุณไม่โกรธเหรอ”
หลัวเวยเอ่ยอย่างเดือดดาล ทั้งยังประหลาดใจกับความเยือกเย็นของหลินเยวียน คนคนนี้จิตใจมั่นคงเหลือเกิน
หลินเยวียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย “มีอะไรต้องโกรธเหรอครับ”
หลัวเวยคลึงขมับ ส่วนจินมู่ซึ่งยืนอยู่ด้านข้างกลับผุดยิ้มอย่างอดไม่ได้
จินมู่ทั้งเข้าใจความหดหู่ของหลัวเวย และเข้าใจความเยือกเย็นของหลินเยวียน
เหตุผลที่หลัวเวยหดหู่นั้นเรียบง่าย
ไม่มีอะไรมากไปกว่าการรู้สึกว่าอิ่งจือถูกผู้คนมองข้าม ส่วนชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่ก็ไม่ได้มีเจตนาดี
แต่เหตุผลที่หลินเยวียนยังคงเยือกเย็น กลับมาจากความแข็งแกร่งของเขาเอง!
ในสายตาของหลัวเวยซึ่งไม่เห็นความจริงทั้งหมด อิ่งจือก็คืออิ่งจือ
ทว่าสำหรับหลินเยวียน อิ่งจือสามารถเป็นได้ทั้งเซี่ยนอวี๋ และเป็นได้ทั้งฉู่ขวง
ระหว่างทั้งสามตัวตน มีเครื่องหมายเท่ากับคั่นอยู่
เอาที่ไหนมาบอกว่าอิ่งจือเป็นเงาจืดจาง
ใครหน้าไหนกล้าบอกว่าเซี่ยนอวี๋กับฉู่ขวงเป็นเงาจืดจางล่ะ
นี่คือเหตุผลที่หลินเยวียนไม่ได้ตอบโต้ชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่
มีเพียงคนที่ถูกแทงใจดำเท่านั้นที่จะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ถ้าคำพูดของอีกฝ่ายเป็นเรื่องไร้สาระ เจ้าตัวจะโกรธทำไม
ต้องเข้าใจว่า
ในวงการการ์ตูนแห่งนี้ หลินเยวียนได้กลายเป็นอริยบุคคลที่โดดเด่นมากมาตั้งนานแล้ว!
ชาวฉู่จำนวนมากยิ่งไม่รู้เลยว่า วงการดนตรีของพวกเขาเองก็ได้ถูก ‘อิ่งจือ’ คนนี้ล้างบางมาแล้ว
แต่หลินเยวียนไม่โกรธ ไม่ได้หมายความว่าแฟนคลับของอิ่งจือจะไม่โกรธ
ในปู้ลั่วการ์ตูน หลายคนรู้สึกไม่พอใจเช่นเดียวกับหลัวเวย!
พวกเขาเข้าไปตำหนิพฤติกรรมหัวใสไม่เข้าเรื่องของเซวี่ยไห่และชิวเตาอวี๋บนพื้นที่แสดงความคิดเห็นของบท สัมภาษณ์
ส่วนแฟนคลับเซวี่ยไห่และชิวเตาอวี๋ก็เฮละโลกันมาโต้กลับเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายปะทะฝีปากกันทันที
ถึงขั้นที่มีนักวาดการ์ตูนจากทั้งฉินและฉีบางส่วนก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เช่นกัน!
‘คนฉู่ก็อวดเบ่งเกินไป!’
‘เดือนสิงหามีนักวาดการ์ตูนตั้งหลายคนเตรียมปล่อยผลงานใหม่ แต่ชิวเตาอวี๋กับเซวี่ยไห่กลับมองว่าเป็นดาร์บีแมตช์ พฤติกรรมแบบนี้อันที่จริงไม่ใช่ไม่เห็นอิ่งจืออยู่ในสายตาหรอก เรียกว่าไม่เห็นนักวาดการ์ตูนของทั้งฉินกับฉีอยู่ในสายตาเลยสักคนต่างหาก!’
‘อยากให้มีสักคนมาสั่งสอนพวกเขาให้หลาบจำ’
‘พูดน่ะง่าย แต่ทำยาก ฝีมือการผลิตอนิเมชันและการ์ตูนของฉู่อยู่ในระดับแนวหน้าของบลูสตาร์มาโดยตลอด’
‘พูดได้แค่ว่า การ์ตูนเป็นสิ่งที่คนฉู่ถนัดจริงๆ’
‘อิ่งจือไม่ตอบ หมายความว่าทั้งไม่สนใจ แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงด้วยล่ะมั้ง’
‘ก่อนที่ฉู่จะเข้าผนวกรวม อิ่งจือนับว่าเป็นนักวาดการ์ตูนตัวท็อปเลยนะ แต่ไปรวมอยู่กับนักวาดการ์ตูนที่เก่งที่สุดของฉู่ อิ่งจือก็ไม่ได้โดดเด่นจนต้องพูดถึง’
‘…’
ทุกคนทำได้เพียงไม่สบอารมณ์ ก็เหมือนกับที่คนฉู่ทำได้เพียงไม่สบอารมณ์เมื่อคนฉินเป็นที่หนึ่งด้านดนตรีของบลูสตาร์
สู้ไม่ได้ก็สู้ไม่ได้สิ จะทำยังไงได้
นักวาดการ์ตูนจากฉินและฉีที่มีผลงานดีพอจะแข่งกับฉู่ได้ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่น้อยเหลือเกิน
อย่างน้อยเมื่อเจอกับชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่ อิ่งจือก็ไม่มีทางชนะ
ฉะนั้น แม้ว่าในพื้นที่แสดงความคิดเห็นในบทสัมภาษณ์ของชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่ ต่างฝ่ายต่างถกเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่ในใจของทุกคนล้วนกระจ่างดีว่านักวาดการ์ตูนจากทางฉู่มีคุณสมบัติมากพอให้ลำพองใจ
ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ข่าวลือของทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้
เดือนสิงหาคมยังไม่ทันมาถึง แต่บรรยากาศบนปู้ลั่วกลับอบอวลไปด้วยกลิ่นของดินปืน มีเค้าลางว่าพายุฝนห่าใหญ่กำลังจะมาถึง
……
ในออฟฟิศของหลินเยวียน
หลัวเวยคล้ายกับว่าจะเปลี่ยนความโศกเศร้าและความโกรธแค้นเป็นพลัง ก้มหน้าก้มตาวาดการ์ตูนเรื่องสมุดมรณะ ทำงานจริงจังกว่ายามปกติมากขึ้นหลายส่วน
ส่วนหลินเยวียนยังคงวาดต้นฉบับไปอย่างสบายใจเฉกเช่นที่ผ่านมา
และในวันที่ 15 สิงหาคม จู่ๆ หลินเยวียนก็ได้รับแจ้งว่า อนิเมชันเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ผลิตเสร็จแล้ว กำลังจะออกอากาศตอนที่หนึ่งอย่างเป็นทางการในเวลาหกโมงเย็นของวันนี้
“ผลิตเร็วขนาดนี้เชียว?”
หลินเยวียนรู้สึกประหลาดใจ
จินมู่กล่าวอย่างยิ้มแย้ม “เพราะบริษัทนี้เลือกใช้รูปแบบผลิตไปออกอากาศไปน่ะครับ จิตวิญญาณสือจี่ตอนอากาศตอนแรกวันนี้ เพราะภาคแรกของอนิเมชันเรื่องนี้ทำเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่งครับ ส่วนที่เหลือกำลังดำเนินการ”
“แบบนี้เองเหรอครับ”
หลินเยวียนจำได้ว่าเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสไม่ได้ออกอากาศด้วยรูปแบบนี้
จินมู่คล้ายกับจะมองออกว่าหลินเยวียนไม่ค่อยเข้าใจ จึงอธิบาย “วิธีการผลิตนี้ได้มาจากฉู่น่ะครับ ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ชาวฉู่มีประสบการณ์สูงมาก พวกเขาผลิตอนิเมชันไปได้ครึ่งเรื่องก็ทุ่มกับการอากาศแล้ว ทั้งยังผลิตอนิเมชันเสร็จโดยรับประกันช่วงโพสต์โพรดักชันด้วยนะครับ”
ถูกต้องแล้ว เป็นบริษัทของชาวฉู่ที่ซื้อลิขสิทธิ์การผลิตเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ไป
จินมู่บอก “ผมดูแล้ว คงคุณภาพของงานต้นฉบับไว้ดีมาก”
ในฐานะผู้เขียนเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ หลินเยวียนสามารถไปยังบริษัทผู้ผลิต และขอดูตอนที่หนึ่งล่วงหน้าได้ แต่หลินเยวียนไม่ไป ดังนั้นจินมู่ซึ่งเป็นผู้จัดการจึงไปดูผลงานที่เสร็จสมบูรณ์รอบหนึ่ง
“ตอนนี้ห้าโมงครึ่ง หัวหน้าจะดูไหมครับ” จินมู่มองนาฬิกาข้อมือ
เวลาหกโมงตรง จิตวิญญาณสือจี่จะออกอากาศ
“ได้ครับ”
หลินเยวียนนั่งอยู่บนโซฟา
ออฟฟิศของเขามีคอมพิวเตอร์ สามารถดูได้
ไม่นาน ก็เป็นเวลาหกโมงเย็น หลินเยวียนได้รับชมจิตวิญญาณสือจี่อย่างเป็นทางการ
พล็อตเรื่องไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก
การ์ตูนวาดไว้อย่างไร อนิเมชันก็นำเสนอออกมาอย่างนั้น
เพียงแต่สตอรีบอร์ดบางส่วน รวมไปถึงภาพและวิธีการเปลี่ยนฉากได้รับการดัดแปลงอย่างมีศิลปะโดยผู้กำกับ ทำให้ผู้ชมดูแล้วรู้สึกสบายตามากขึ้น
และบวกกับฝีมือของนักพากย์ ภาพรวมของอนิเมชันจึงยอดเยี่ยมกว่าการ์ตูนมาก!
จุดนี้ต้องเอ่ยถึงสักหน่อย
ว่าการพากย์เสียงของบลูสตาร์เหนือชั้นมาก ไม่เหมือนกับแดนมังกรในโลกเดิม ที่การพากย์เสียงนั้นขาดๆ เกินๆ และหากมองจากฝีมือในการผลิต มาตรฐานของบลูสตาร์นั้นสูงกว่าแดนปลาดิบเสียอีก!
หลินเยวียนยังเปิดดูคอมเมนต์กระสุน
คอมเมนต์กระสุนของอนิเมชันเรื่องนี้น่าสนใจมาก
‘อ่า อนิเมชันเรื่องนี้ ฉันกำลังดูหนังผู้ใหญ่อยู่หรือเปล่านะ’
‘แม่ครับ ฟังผมอธิบายก่อน!’
‘ถ้าบอกว่าผู้หญิงคนนี้กำลังกินข้าว คุณจะเชื่อไหม’
‘ฮ่าๆๆๆๆๆๆ จิตวิญญาณยาปลุกความปรารถนาสมชื่อจริงๆ!’
‘ทำได้ดีมาก ขอมอบรางวัลให้!’
‘การ์ตูนเดี๋ยวนี้วาบหวิวขนาดนี้เลยเหรอ ผมชอบ’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน