ตอนที่ 372 โปรดทำความเข้าใจ
ในห้องของเพนต์เฮาส์แห่งหนึ่งในแถบชานเมือง
กลางดึกช่วงเที่ยงคืน หวังเชียงยังคงคุยโทรศัพท์กับบริษัท
“ถ้าพฤศจิกาเซี่ยนอวี๋ไม่ปล่อยเพลง เราก็กำหนดแผนไว้เดือนพฤศจิกาเลย ยังไงตอนนี้ก็ยกเลิกฤดูกาลนักร้องหน้าใหม่ไปแล้ว เราไม่จำเป็นต้องหลีกทางให้หน้าใหม่ในเดือนพฤศจิกาแล้ว หน้าใหม่เองก็มีชาร์ตของพวกเขาเอง…”
ก่อนที่แต่ละทวีปจะผนวกรวมกัน เดือนพฤศจิกายนเป็นฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่ของฉินโจว
เดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะมีเพียงนักร้องหน้าใหม่ที่สามารถปล่อยเพลงได้ นักร้องที่เดบิวต์แล้วจะไม่ปล่อยเพลงในเดือนพฤศจิกายน
นี่เป็นระบบปกป้องศิลปินหน้าใหม่ที่ผู้คนกล่าวขานกันมากที่สุดในวงการเพลงฉินโจว
ภายหลังแต่ละทวีปผนวกรวม จำนวนนักร้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เดือนพฤศจิกายนไม่อาจคุ้มครองหน้าใหม่ได้อีกต่อไป เพราะฉะนั้นสมาคมวรรณศิลป์จึงออกข้อบังคับใหม่
ยกเลิกกฎฤดูกาลนักร้องหน้าใหม่!
นี่ไม่ใช่เพื่อบีบพื้นที่ในการมีตัวตนของหน้าใหม่ แต่เพื่อปกป้องนักร้องหน้าใหม่ หลังจากนี้นักร้องหน้าใหม่จะปล่อยเพลงเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ผลงานเพลงของพวกเขาจะไม่ต้องแข่งขันกับนักร้องที่เพิ่งเดบิวต์อีกต่อไป แต่มีการจัดอันดับสำหรับนักร้องหน้าใหม่โดยเฉพาะ
เมื่อกฎข้อนี้ออกมา ทุกคนดีใจกันยกใหญ่
นักร้องหน้าใหม่ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงเดือนพฤศจิกายนกว่าจะแสดงฝีมือได้ นักร้องที่เดบิวต์แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเสียสละชาร์ตเพลงในเดือนพฤศจิกายน
ถึงขั้นที่มีบริษัทเพลงที่คอยจับจ้องการจัดอันดับเพลงของนักร้องหน้าใหม่ เพื่อคอยดึงตัวต้นกล้าชั้นดีที่ปรากฏขึ้นมาโดยเฉพาะ
“ได้”
คนจากปลายสายบอก “งั้นรอดูการเคลื่อนไหวของเซี่ยนอวี๋ก่อนแล้วกัน ฉันเองก็จะสืบจากคนในสตาร์ไลท์ ทางคุณรอข่าวจากฉันก่อน”
“อื้ม วางละครับ”
หวังเชียงมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นเวลาเที่ยงคืนห้านาทีแล้ว
“รีบฟังเพลงเหรอ”
“อืม ดูว่าเราสามคนตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่ถอนตัวออกมา”
“ได้ ฉันเองก็จะฟังเหมือนกัน”
เมื่อวางสาย หวังเชียงก็มองไปยังคอมพิวเตอร์
เซี่ยนอวี๋ปล่อยเพลงในเดือนตุลาคม นักร้องแถวหน้าสามคนถอนตัวพร้อมกัน และหวังเชียงก็เป็นหนึ่งในนักร้องแถวหน้าที่ประกาศเปลี่ยนเวลาปล่อยผลงาน
ที่ดึกดื่นป่านนี้เขายังไม่นอนสักที ก็เพื่อรอเพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋ เพราะฉะนั้นหลังจากวางสาย เขาก็คว้าหูฟังขึ้นมาสวมทันที มองหาเพลง ‘กุหลาบขาว’ ซึ่งถูกปล่อยออกมา และได้ครอบครองแบนเนอร์โปรโมตที่ใหญ่ที่สุดบนแอปพลิเคชันฟังเพลง
เนื้อร้อง: เซี่ยนอวี๋
ทำนอง: เซี่ยนอวี๋
ขับร้อง: ซุนเย่าหั่ว
เมื่อเห็นชื่อของซุนเย่าหั่ว ความอิจฉาก็ปรากฏขึ้นในแววตาของหวังเชียง จากนั้นเขาจึงกดเล่นเพลง
ทำนองอินโทรที่คุ้นเคย
เหมือนกับเพลงกุหลาบแดงทุกกระเบียดนิ้วอย่างที่คิดจริงๆ
ถ้าไม่ดูชื่อเพลง ฟังเพียงท่อนอินโทร ทุกคนคงคิดว่านี่คือเพลงกุหลาบแดง
ทว่ายามที่เสียงร้องดังขึ้น ความคิดนี้ก็เป็นอันต้องพังทลายไป
“ขาวเหมือนฟันขาว ความมุ่งมั่นสูญเปล่า สุราหอมกรุ่นแห้งเหือดหาย ขาวเหมือนผีเสื้อ ดำดิ่งสู่โลกมืดมน ก้มมองป้ายวิญญาณ แต่ความรักนานวันแปรผันไป ฉากสุดท้ายโรยราไม่เหลือเยื่อใย กุหลาบและรอยยิ้มใคร ซ่อนคมดาบไว้ หลงคิดว่าปลอดภัย…”
หวังเชียงเลิกคิ้วเล็กน้อย
ถ้าใช้ภาษากลาง คำเหล่านี้จะไม่คล้องจองกัน ถึงขั้นที่ออกจะคลุมเครือด้วยซ้ำไป
แต่ซุนเย่าหั่วใช้ภาษาฉีในการขับร้อง และความรู้สึกจะออกมาในทันที
ยังคงเป็นท่วงทำนองที่ไพเราะ สัมผัสของแต่ละประโยคถูกขัดเกลาอย่างประณีต และลมหายใจในตอนท้ายมักจะปล่อยออกมาในตำแหน่งที่สบายที่สุด กอปรกับสำเนียงชัดถ้อยชัดคำของซุนเย่าหั่วนั้นมากพอให้หูเคลือบทองได้แล้ว
เสียงเพลงได้ทำลายกำแพงทางภาษาไปแล้ว
และเมื่อมาถึงท่อนเวิร์ส ต่อให้เป็นคนที่ไม่รู้ภาษาฉี ก็ยังเข้าใจว่าแท้จริงแล้วเพลงนี้ร้องว่าอย่างไร เมื่อหวนนึกถึงเพลงกุหลาบแดง ความรู้สึกเข้าถึงอารมณ์เพลงจึงลึกซึ้งขึ้นทันที
ทำนองเพลงไม่ได้หวือหวาแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน