Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 386

สรุปบท ตอนที่ 386 เตรียมรับความเจ็บปวด: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

อ่านสรุป ตอนที่ 386 เตรียมรับความเจ็บปวด จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 386 เตรียมรับความเจ็บปวด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 386 เตรียมรับความเจ็บปวด

ผู้ชมคิดว่าการขับไล่ที่ล้มเหลว จะเป็นโอกาสให้คุณนายอันยอมรับเสี่ยวปา ปมในใจของเธอค่อยๆ คลายออก แต่กลับนึกไม่ถึงว่าคุณนายอันจะทำใจไล่เสี่ยวปาได้ลงคอ หนำซ้ำยังคงกดดันศาสตราจารย์อัน คุณนายอันและศาสตราจารย์อันทะเลาะกันอย่างรุนแรง

“ฉันเหลือทนแล้ว! พรุ่งนี้คุณต้องเอาไปส่งคืน!”

“พรุ่งนี้?”

“ฉันฟังคุณพูดประโยคนี้มาเกินครึ่งเดือนแล้วนะ!”

“ผมขอโทษ”

หลังจากที่ศาสตราจารย์อันเงียบไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเบา

ในใจของเขาคล้ายกับกำลังตัดสินใจ

ในขณะนั้นกล้องจึงเปลี่ยนไปเป็นมุมมองของเสี่ยวปา

เสี่ยวปาคล้ายกับรับรู้ได้ถึงบางอย่าง มันมองผ่านช่องของแผ่นไม้ ท่ามกลางโลกสีดำขาวเทา เห็นศาสตราจารย์อันกล่าวคำขอโทษ หางของมันค่อยๆ หยุดกระดิกลงช้าๆ

“ไม่สิ!”

“อย่าไล่มันไป”

“น้องเป็นหมาของพวกคุณนะ”

“มันจำว่าพวกคุณเป็นเจ้านายไปแล้ว”

ผู้ชมหลายคนพึมพำ ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความวิงวอน

มีผู้ชมซึ่งอารมณ์ค่อนข้างอ่อนไหวน้ำตาคลอเบ้า จ้องมองเสี่ยวปาในภาพยนตร์ด้วยความเห็นอกเห็นใจ

“…”

หยางอันซึ่งก่อนหน้านี้ประกาศตัวว่าตนเป็นคนบ่อน้ำตาลึกเริ่มกัดริมฝีปาก จมูกเริ่มแสบขึ้นมา

เขาลอบมองเยี่ยหงอวี๋ซึ่งอยู่ด้านข้าง

เยี่ยหงอวี๋ยังคงรักษาท่าทีเฉกเช่นตั้งแต่เปิดเรื่อง ใบหน้าของเธอไม่ปรากฏสีหน้าที่ไม่จำเป็น เช่นเดียวกับที่เธอดูภาพยนตร์ทุกเรื่อง

สงบนิ่งและมีเหตุมีผล

หยางอันคล้ายกับถูกเตือนสติ จึงสูดจมูกเบาๆ ข่มกลั้นความรู้สึกอึดอัดไว้

บนหน้าจอขนาดยักษ์ใหญ่

ท้องฟ้า มืดลงอีกแล้ว

เช่นเดียวกับเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ศาสตราจารย์อันลุกขึ้นอย่างเงียบๆ หลังจากที่ภรรยาของเขาหลับไป และพาเสี่ยวปาเข้าไปยังห้องหนังสือ

เขาหยิบอาหารสุนัขกระป๋องและขนมสุนัขออกมาให้เสี่ยวปากิน

เมื่อก่อนเขาไม่ปล่อยให้เสี่ยวปากินขนมมากเกินไป เพราะเขาคิดว่าการปล่อยให้สุนัขเลือกอาหารไม่ใช่การบ่มเพาะนิสัยที่ดีนัก แต่วันนี้เขากลับหยิบอาหารกระป๋องทั้งหมดออกมา

“วันนี้แกอยากกินแค่ไหนก็กินเลย”

ศาสตราจารย์อันมองไปทางเสี่ยวปาด้วยรอยยิ้ม เพียงแต่รอยยิ้มค่อนข้างจะแข็งทื่อเล็กน้อย

ปกติแล้วเสี่ยวปาซึ่งมักจะตื่นเต้นมากเมื่อเจอขนมเหล่านี้ แต่วันนี้กลับจ้องมองศาสตราจารย์อันเขม็ง ฉายแววยืนหยัดและดื้อรั้นบางอย่าง

มันไม่กินอาหารกระป๋องแม้แต่คำเดียว

ราวกับว่าของเหล่านี้ไม่มีอยู่จริง

ดวงตาของศาสตราจารย์อันชื้นเล็กน้อย เขาอุ้มเสี่ยวปาขึ้นมา ลูบหลังของมันเบาๆ กระซิบว่า “เด็กดี เด็กดี…”

เสี่ยวปาไม่ส่งเสียงใด

ช่วงหลายคืนที่ผ่านมา ขณะที่ศาสตราจารย์อันอุ้มมันเข้ามาในห้องหนังสือ เขามักจะปลอบให้เสี่ยวปาไม่ส่งเสียง เพื่อไม่ให้มันส่งเสียงด้วยความตื่นเต้นจนคุณนายอันตื่น

ทว่าคืนนี้เสี่ยวปาแสนรู้เป็นพิเศษ มันไม่แม้แต่ส่งเสียงร้องหงิงๆ ด้วยความน้อยใจ เพียงแค่นอนอย่างเงียบเชียบในอ้อมแขนของศาสตราจารย์อัน

ในขณะนี้ไอรีนโนเวล

กล้องเคลื่อนไปเล็กน้อย

ด้านนอกห้องหนังสือ คุณนายอันสวมชุดนอน สายตาจ้องมองสามี ไม่รู้ว่ายืนอยู่ตรงนั้นนานเท่าไร ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปยังห้องนอน

บางทีค่ำคืนนี้ หลายคนอาจเหนื่อยล้าแสนสาหัส

วันรุ่งขึ้นเมื่อศาสตราจารย์อันตื่นนอน ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นสูงแล้ว

ภรรยาซึ่งอยู่ข้างกายหายไป

ทันใดนั้นศาสตราจารย์อันก็นึกขึ้นได้ว่าเจ้าตัวเล็กยังอยู่ในห้องหนังสือ เขาตบหน้าผากด้วยความหงุดหงิด และรีบไปยังห้องหนังสือในชุดนอนพร้อมกับผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง

แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อศาสตราจารย์อันมาถึงห้องหนังสือ ก็ต้องตกตะลึงเพราะภาพตรงหน้า

คุณนายอันกำลังลูบศีรษะเสี่ยวปา แววตาอ่อนโยนทอดมองไปยังเสี่ยวปาซึ่งกำลังกินอาหารที่เมื่อคืนมันไม่ยอมกิน

ยังไม่ทันได้เอื้อนเอ่ยวาจา โทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น

คุณนายอันลุกขึ้นไปรับสาย ปลายสายเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจดี “สวัสดีค่ะ ฉันได้ยินว่าพวกคุณกำลังตามหาเจ้าของให้น้องหมาตัวหนึ่งอยู่ ฉันยินดีรับเลี้ยงค่ะ ฉันชอบน้องหมามาก…”

“ต้องขอโทษด้วยค่ะ”

ในเมืองเล็กๆ ซึ่งแสงแดดยามอรุณรุ่งสาดส่อง ความสุขอันเงียบสงบและชวนคิดถึงซาบซ่านไปทุกอณู

ฉากถูกเปลี่ยนบ่อยครั้งขึ้น และกล้องถูกวางไว้ในระดับที่ต่ำ

สีดำ ขาว เทา

ภาพยนตร์พาทุกคนมองโลกรอบตัวผ่านสายตาของเสี่ยวปา

และด้วยความสนิทสนมของเสี่ยวปาและศาสตราจารย์อัน ความอบอุ่นก็พรั่งพรูเข้าสู่ก้นบึ้งในหัวใจของผู้ชม

เสี่ยวปากลายเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักในครอบครัวของศาสตราจารย์อัน ค่อยๆ เติบโตพร้อมกับความคุ้นเคยและความเข้าใจ

เมื่อใดก็ตามที่ศาสตราจารย์อันต้องโดยสารรถไฟไปยังมหาวิทยาลัย เสี่ยวปามักจะเดินตามหลังเสมอ เฝ้าดูศาสตราจารย์อันขึ้นรถไฟ และนั่งรอข้างสวนดอกไม้ตรงข้ามสถานีรถไฟตลอดทั้งวัน

แรกเริ่มเดิมที ศาสตราจารย์อันมักจะไล่มันกลับบ้าน

ต่อมาศาสตราจารย์อันพบว่าเสี่ยวปาแลดูประหนึ่งถูกเข้าสิง มันจะไม่ยอมไปไหนจนกว่าจะเห็นว่าเขาออกมาจากสถานีรถไฟอีกครั้ง ดังนั้นศาสตราจารย์อันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมจำนน และปล่อยให้มันรอ

นานวันเข้า แม้แต่คุณลุงร้านขายแพนเค้ก หรือคุณป้าแผงขายหนังสือพิมพ์ในสถานีรถไฟต่างก็รู้จักสุนัขที่มาส่งศาสตราจารย์ไปทำงาน และรอรับกลับบ้านทุกวันตัวนี้

เสี่ยวปาซื่อสัตย์มาก

มันเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน ถึงขนาดที่นำอาหารมาให้เสี่ยวปากิน และในทุกๆ ครั้ง เสี่ยวปาก็จะใช้วิธีของตนเพื่อแสดงความขอบคุณ

หยางอันชอบเสี่ยวปามากจริงๆ

บนหน้าจอ ยามที่เห็นหลุมสุนัขซึ่งเสี่ยวปาขุดใต้รั้วเพื่อส่งศาสตราจารย์ไปทำงาน มุมปากของหยางอันยกขึ้น ยามมองดูหางของเสี่ยวปาซึ่งกระดิกรัวด้วยความตื่นเต้นหลังจากที่ศาสตราจารย์เลิกงาน แววตาของหยางอันก็สั่นไหวเล็กน้อย…

คนและสุนัขไม่ห่างจากกัน

ในตอนนี้เรื่องราวดำเนินไปได้ครึ่งทางแล้ว และทุกคนยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ก็ไม่มีใครรู้สึกเบื่อกับปฏิสัมพันธ์และการเติบโตระหว่างคนกับสุนัขซึ่งดำเนินไปอย่างเนิบช้า นี่เป็นความรู้สึกที่แม้แต่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับบล็อกบัสเตอร์ซึ่งใช้สเปเชียลเอฟเฟ็กต์นั้นไม่สามารถให้ได้

เฉกเช่นหลังจากที่กินปลาและเนื้อเลิศรสจนเบื่อ จู่ๆ ก็สัมผัสได้ถึงมนตร์เสน่ห์ของการกินกับข้าวรสอ่อนบ้าง

มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่านี่คือกับดักแห่งความอบอุ่นที่ภาพยนตร์สร้างขึ้นมาอย่างแยบยล

และในจุดนี้ ผู้ที่มีสิทธิ์พูดมากที่สุดก็คืออี้เฉิงกงและบรรดาหัวหน้าระดับสูงจากสตาร์ไลท์ในแถวที่เก้า ซึ่งดูภาพยนตร์เรื่องนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว

‘เตรียมรับความเจ็บปวดได้เลย…’

เหล่าโจวลอบคิดในใจ พลางมองไปยังผู้ชมหญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ด้านหน้า

ผู้ชมหญิงคนนี้เป็นตัวแทนจากเครือโรงภาพยนตร์ขนาดกลางสักแห่ง เธอกำลังเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังลิ้มลองไอศกรีมรสหวานสดชื่นในฤดูร้อน ใบหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความสุขและความอบอุ่น…

สายตาของเหล่าโจวกวาดไปยังคนอื่นๆ

ทุกคนเคลิบเคลิ้มในความสุขจนคล้ายว่าจะหลงลืมตัวตนไป

………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน