ตอนที่ 409 นิทาน
ขณะนี้เป็นวันที่ 8 ธันวาคม
ประเด็นถกเถียงบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับเพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ยังคงไม่จบลง
แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อทุกคนมุ่งความสนใจไปยังเนื้อเพลง กระแสของทำนองเพลงจึงค่อยๆ เบาบางลงตามไป
ประเด็นถกเถียงไปรวมกันอยู่ที่เนื้อเพลงแล้ว
นั่นก็คือกลอนสือทำนองวารีนั่นเอง
ในปัจจุบันบทกวีนี้พัฒนาไปจนถึงระดับที่หลายคนสามารถท่องได้แล้ว
ขณะเดียวกัน
ภาพยนตร์เรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูก็เข้าฉายมาประมาณสี่สัปดาห์
สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนก็คือ แนวโน้มบ็อกซ์ออฟฟิศของภาพยนตร์เรื่องนี้มั่นคงมาก ถึงระดับที่มั่นคงมาสี่สัปดาห์เต็มๆ!
นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยากเหลือเกิน
ภาพยนตร์ทั่วไป โดยพื้นฐานแล้วจะฮิตติดกระแสในช่วงสองสัปดาห์แรก ในสัปดาห์ที่สามของการเข้าฉายจะเริ่มมั่นคง
ในบางครั้งภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่ทรงพลังบางเรื่องเข้าฉายติดต่อกันได้ไม่เกินสามสัปดาห์
ในสัปดาห์ที่สี่ต้องเผชิญกับจุดจบอันหดหู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะฉะนั้น ภาพยนตร์ซึ่งยอดบ็อกซ์ออฟฟิศสามารถยืนหยัดต่อไปถึงสี่สัปดาห์นั้นหาได้ยากจริงๆ!
แน่นอน ต้องบอกว่าเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูยืนหยัดมาได้สี่สัปดาห์นับว่าแข็งแกร่งมากทีเดียว
กล่าวโดยละเอียดก็คือ ปากง สุนัขยอดกตัญญูยืนหยัดมาได้สามสัปดาห์ครึ่ง
เพราะเมื่อสัปดาห์ที่สี่ผ่านไปได้ครึ่งทาง ยอดบ็อกซ์ออฟฟิศของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เผชิญหน้ากับการลดฮวบลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จนกระทั่งตอนนี้
ภาพยนตร์ซึ่งใช้เงินทุนห้าสิบล้านหยวน ได้ขยายประสิทธิภาพของคำวิจารณ์ออกไปถึงระดับสูงสุด
และตอนนี้ก็ย่างเข้าสัปดาห์ที่ห้า ปากง สุนัขยอดกตัญญูจำต้องเผชิญกับชะตากรรมของรายได้ที่ลดลงมาก จนถูกเครือโรงภาพยนตร์หลายแห่งปลดออกจากตารางเข้าฉายอย่างต่อเนื่อง เฉกเช่นภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น เรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูทำรายได้ทะลุสองพันล้านหยวนไปแล้ว!
ผลลัพธ์นี้ไม่เพียงเหนือความคาดหมายของผู้คนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แต่ยังเหนือความคาดหมายของหลินเยวียนไปไกลมากอีกด้วย
เพียงดูแนวโน้มในช่วงสองสัปดาห์แรกที่ผ่านมา บ็อกซ์ออฟฟิศของหนังเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่หลักพันล้านต้นๆไอรีนโนเวล
แต่ใครจะไปคิดว่าสุดท้ายแล้วจะแตะถึงสองพันล้าน?
นี่คือความมหัศจรรย์ของตลาดภาพยนตร์
อัตราความครอบคลุมของเกณฑ์ในตลาดอยู่ที่ประมาณร้อยละแปดสิบของภาพยนตร์ และมีภาพยนตร์จำนวนไม่มากที่สามารถทะลวงกฎเกณฑ์เหล่านี้ไปได้
เรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูแหกกฎของตลาดไปเล็กน้อย
สำหรับเรื่องนี้ วงการภาพยนตร์จำเป็นต้องทอดถอนใจกับความโชคดีของสตาร์ไลท์ ที่มีฝีมือระดับปีศาจอย่างเซี่ยนอวี๋ประจำการอยู่
ส่วนทางสตาร์ไลท์ต่างตื้นตันกันถ้วนหน้า เต็มใจฝ่าฝืนธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัท เพื่อยกระดับสัญญาของเซี่ยนอวี๋จนเทียบเท่ากับระดับของพ่อเพลงโดยเฉพาะ ใครกล้าพูดบ้างว่าเซี่ยนอวี๋ไม่มีอิทธิพลด้านภาพยนตร์?
“สองเท่าของเรื่องนักปรับเสียงเปียโนพอดี”
เมื่อหลินเยวียนสรุปผลลัพธ์ที่บ้าน เขาก็รู้สึกพึงพอใจมาก
สมแล้วที่เป็นภาพยนตร์ซึ่งได้รับคำชื่นชมล้นหลาม
ความยืดหยุ่นของยอดบ็อกซ์ออฟฟิศนั้นกว้างมาก บางครั้งอาจต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่บางครั้งก็อาจสูงลิบ
กล่าวโดยสรุป ในการผลิตภาพยนตร์ ความสามารถในการดึงดูดรายได้นั้นสำคัญจนไม่จำเป็นต้องพูดถึง!
แต่จุดบกพร่องของภาพยนตร์ก็คือช่วงเตรียมงานและช่วงโพสต์โพรดักชันนั้นยาวนานเกินไป อีกทั้งความเสี่ยงสูง เปลืองแรงมากกว่าการปล่อยเพลง
มองจากมุมนี้ ความยากในการทำเงินจากการปล่อยเพลงนั้นต่ำกว่าการถ่ายทำภาพยนตร์มาก
“จะลำพองใจไม่ได้”
หลังจากอ่านตำราเกี่ยวกับภาพยนตร์มาตั้งมากมาย หลินเยวียนเข้าใจดีว่าตลาดภาพยนตร์นั้นควบคุมได้ยากที่สุด
ถึงแม้ตนจะประสบความสำเร็จติดต่อกันหลายครั้งด้วยวิธีลงทุนน้อยได้ผลมาก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าตนจะประสบความสำเร็จไปทุกครั้ง
นี่คือเหตุผลที่ในระหว่างเตรียมการถ่ายทำเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญู หลินเยวียนยืนกรานให้จางซิ่วหมิงเป็นนักแสดงนำ
ด้วยนิสัยของหลินเยวียนแล้ว มีนักแสดงที่ค่าตัวต่ำกว่าตั้งมากมายแต่ไม่ใช้ ทำไมต้องมาเลือกนักแสดงดังด้วยล่ะ
นักแสดงดังค่าตัวสูงมากนะ
ทว่าในบางครั้งก็ช่วยไม่ได้
ภาพยนตร์บางเรื่องจำเป็นต้องใช้นักแสดงชื่อดังเพื่อเรียกกระแสของภาพยนตร์
ข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้วว่าถึงแม้ค่าตัวของจางซิ่วหมิงจะสูง แต่ฝีมือด้านการแสดงและชื่อเสียงของจางซิ่วหมิงก็เป็นปัจจัยสำคัญในการการันตีรายรับของภาพยนตร์!
ถ้าหากหลินเยวียนไม่ใช้นักแสดงชื่อดังในภาพยนตร์ดราม่า เขาคงจะเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในตลาดภาพยนตร์อย่างแน่นอน
“ถ้านักแสดงนำไม่ใช่จางซิ่วหมิง แต่ใช้นักแสดงฝีมือดีแต่ไม่มีชื่อเสียง รายได้คงได้ไม่ถึงครึ่ง”
เมื่อหลินเยวียนตระหนักได้เช่นนี้ เขาจึงไม่คิดจะแบกรับความเสี่ยงและพึ่งพาโชคชะตา
ในขณะนั้น
เสียงน้องสาวเคาะประตูก็ดังมา “กินข้าวได้แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน