ตอนที่ 421 ภาพประกอบอันสมบูรณ์แบบ
นับตั้งแต่ฉู่ขวงแท็กนักเขียนทั้งเก้าคน ชาวเน็ตก็ให้ความสนใจกับการอัปเดตบนปู้ลั่วของเขามากเป็นพิเศษ และเมื่อเห็นข้อความใหม่ของฉู่ขวง ทุกคนก็พลันแตกตื่นขึ้นมาทันที!
‘อห!’
‘ยังมีใครอีกไหมครับ?’
‘ตึงจัดเลย!’
‘เก้าคนยังไม่พอ?’
‘ธรรมดาที่ไหนนน!’
ไม่มีใครคาดคิดว่าหนึ่งต่อเก้าแล้วฉู่ขวงยังไม่พอใจ ถึงขั้นกล้าเอ่ยถ้อยคำท้าทายเช่นนี้ออกมาต่อหน้าผู้คนนับไม่ถ้วน และไม่เห็นนักเขียนชื่อดังทั้งเก้าคนอยู่ในสายตา!
‘ทนไม่ไหวแล้ว!’
‘ฉันอยากอัดเขาให้เละ!’
‘อยากสู้ก็สู้สิ!’
ชาวเยี่ยนยังคงถกเถียงประเด็นฉู่ขวงสู้แบบหนึ่งต่อเก้า พวกเขาก็ไฟสุมอกอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อเห็นว่าฉู่ขวงยังกล้าราดน้ำมันใส่กองไฟ แต่ละคนก็โมโหจนหน้าดำหน้าแดง คนเยี่ยนอย่างฉันโตมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยเห็นใครจองหองพองขนได้ขนาดนี้เลย!
หัวร้อนมาก!
หัวร้อนไปหมดเลยโว้ย!
เพียงแค่ข้อความง่ายๆ ก็จุดไฟโทสะของนักเขียนนิทานชาวเยี่ยนขึ้นมาพร้อมกัน แต่ไหนแต่ไรมามีแต่ชาวเยี่ยนที่ยั่วยุผู้อื่น มีที่ไหนคนที่กล้าท้าทายพวกเราชาวเยี่ยน?
คุณคือฉู่ขวง?
หรือคุณคือเยี่ยนขวงกันแน่?
อยากจะสู้สักหนึ่งต่อสิบหรือไง?
นักเขียนคนอื่นๆ จากมณฑลเยี่ยนไม่ได้ส่งคำท้าถึงฉู่ขวง แต่เลือกนักเขียนนิทานคนอื่นเป็นคู่ต่อสู้ยังพลอยโมโหไปด้วยอย่างอดไม่ได้ ถึงขั้นที่นึกอยากยกเลิกการประชันวรรณกรรมกับนักเขียนนิทานคนอื่น แล้วจัดการฉู่ขวงให้เรียบร้อยเสียก่อน!
เมื่อเผชิญหน้ากับการยั่วยุของฉู่ขวง!
ในยามนี้ชาวเยี่ยนจึงรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน!
ทว่าสุดท้ายแล้วเรื่องแบบนี้ก็ไม่เกิดขึ้น มีชาวเยี่ยนเอ่ยอย่างเหยียดหยาม ‘ถ้ามีคนมากขึ้นส่งคำท้าให้ฉู่ขวง ก็จะเข้าทางของฉู่ขวง ตอนนี้เขากำลังเรียกกระแส ด้วยความสามารถของเขา ถ้าไม่มีเหตุผลซ่อนเร้น เขาไม่มีทางท้าทายนักเขียนจำนวนมากเช่นนี้หรอก’ไอรีนโนเวล
ใช่แล้ว
เรียกกระแส
นี่คือข้อสรุปอย่างเป็นเอกฉันท์ของชาวเยี่ยนจำนวนมากต่อพฤติกรรมของฉู่ขวง เช่นเดียวกับจุดประสงค์ที่นักเขียนทั้งเก้าคนส่งคำท้าประชันวรรณกรรมถึงฉู่ขวง พวกเขาเองก็ทำไปเพื่อให้ผู้คนสนใจผลงานของตน ไม่ใช่เพราะพวกเขายอมรับในความสามารถของฉู่ขวง ‘ฉู่ขวงรู้ว่าตนเองเอาชนะไม่ไหว ฉะนั้นตอนนี้จึงยอมเสี่ยง ยิ่งคนส่งคำท้าถึงเขามากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ความสำคัญของเขาเด่นชัดมากขึ้น’
ชาวฉินคนนี้เจ้าเล่ห์เพทุบายจริงๆ!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งที่แท้จริง จะเจ้าเล่ห์เพทุบายอย่างไรก็ไร้ซึ่งที่ยืน ผลลัพธ์ซึ่งเป็นไปได้มากที่สุดในการทำสงครามเก้าด้านก็คือรบเก้าครั้งแพ้เก้าครั้ง เมื่อถึงตอนนั้นฉู่ขวงจะต้องชดใช้ในความหยิ่งยโสโอหังของตน!
ดังนั้นชาวเยี่ยนอึงอดกลั้นไว้!
ถึงแม้จะไม่ชอบใจ แต่ก็ยังข่มกลั้นไว้ นั่นทำให้ชาวเยี่ยนอึดอัดใจมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเคยอึดอัดมากเช่นนี้ซะที่ไหนกัน ชาวเยี่ยนเหล่านี้แทบทนไม่ไหวอยากให้การประชันวรรณกรรมเริ่มต้นขึ้นเดี๋ยวนี้ จะได้ระบายความคับข้องใจออกมาอย่างเต็มที่!
ทางด้านฉิน ฉี และฉู่
หลายคนค่อยๆ ตั้งสติได้ จากนั้นก็เกิดความคิดคล้ายคลึงกับชาวเยี่ยน กลัวว่าฉู่ขวงไม่ได้วิ่งเข้าหาชัยชนะ ชาวเยี่ยนต้องการกระแส ฉู่ขวงจึงโกยกระแสเข้าหาตัวเองซะเลย ยังไม่ต้องพิจารณาเรื่องแพ้ชนะ แค่ความกล้าหาญในการสู้แบบหนึ่งต่อเก้าก็เพียงพอแล้ว!
‘คนเยี่ยนโกรธจัดเลยทีนี้’
‘ครั้งนี้ฉู่ขวงโคตรปั่น’
‘ถึงเราจะรู้ว่าฉู่ขวงไม่มีทางสู้หนึ่งต่อเก้าได้ แม้แต่หนึ่งต่อสองยังยากเลย แต่ชาวเน็ตจากทั้งฉินฉีฉู่เห็นเขาตอบรับคำท้าประชันวรรณกรรมทั้งหมดแล้วสะใจมาก ประมาณว่าพวกคุณคิดจะเหยียบฉันขึ้นไปใช่ไหมล่ะ งั้นฉันก็ยืมมือพวกคุณสร้างกระแสลูกใหญ่ให้ตัวเองซะเลย’
‘เป็นวิธีที่ปราดเปรื่อง!’
‘นอกจากว่าฉู่ขวงไม่ชนะเลยสักสนาม ถ้าเขาชนะขึ้นมาสักหนึ่งสนาม ก็นับว่าครั้งนี้ไม่ขายหน้าสักเท่าไหร่ แต่กลับเป็นคนเยี่ยนพวกนั้นที่เอาชนะฉู่ขวงได้ก็ไม่มีอะไรให้ภาคภูมิใจมากนัก คนเขาแยกเก้าร่างเพื่อสู้กับพวกคุณ ถ้าพวกคุณไม่ชนะก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว’
ใช่แล้ว
นี่คือคำอธิบายเดียวว่าทำไมฉู่ขวงถึงโอหังได้ปานนี้ ทั้งในและนอกวงการนิทานของฉิน ฉี ฉู่ และเยี่ยน ไม่มีสักคนที่คิดว่าฉู่ขวงจะต่อสู้แบบหนึ่งต่อเก้าได้จริง สิ่งที่ทุกคนตกใจในตอนนี้มีเพียงการเลือกรูปแบบการต่อสู้หนึ่งต่อเก้าอันสะเทือนปฐพีของฉู่ขวงเท่านั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน