ตอนที่ 424 ฆ่าหมดไม่สนลูกใคร
กริ้งงง
จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเทียนจี้ไป๋ก็ดังขึ้น
เทียนจี้ไป๋ปรับสภาพอารมณ์ ก่อนจะกดรับสาย
เสียงจากปลายสายฟังดูตื่นเต้นเล็กน้อย “ฉันเพิ่งซื้อราชานิทานมา ผลงานเรื่องใหม่ครั้งนี้ของนายสนุกมาก คิดว่านายต้องได้เป็นหนึ่งในสามผลงานที่ดีที่สุดแน่นอน ยินดีด้วยที่มีผลงานชิ้นโบแดงเพิ่มขึ้นมาอีกชิ้น!”
“ขอบคุณ”
เทียนจี้ไป๋ยิ้มขื่นพลางเอ่ยขอบคุณ ในน้ำเสียงกลับปราศจากความยินดีเมื่อได้รับคำชม หนำซ้ำยังรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา
เขาเชื่อ
ว่าไม่ว่านักเขียนนิทานคนใดที่อ่านแดนนิทานจบ ก็ล้วนไม่อยากได้ยินคำชมเช่นนี้ คำชมประเภทนี้มีแต่จะทำให้นักเขียนผู้ทรงคุณวุฒิอย่างพวกเขารู้สึกละอายใจ
“ทำไมนายดูไม่ดีใจเลยล่ะ เป็นเพราะเรื่องที่ช่วงนี้ประชันวรรณกรรมกับฉู่ขวงหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆๆๆๆ…”
เสียงหัวเราะของเพื่อนแฝงไปด้วยการเย้าหยอก “ฉู่ขวงสู้แบบหนึ่งต่อเก้า อย่าว่าแต่เอาชนะนายเลย ต่อให้เป็นนักเขียนอีกแปดคน เขาก็ไม่มีทางเอาชนะได้ ผลลัพธ์ของหนึ่งต่อเก้ามีแค่คุกเข่าคิดต่อกันเก้าครั้ง!”
“อืม”
เทียนจี้ไป๋ครุ่นคิด เอ่ยว่า “คุกเข่าติดต่อกันเก้าครั้งจริงๆ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าใครจะคุกเข่า แต่ฉันขอคุกเข่าคนแรกเลย”
“หา?”
เพื่อนฟังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเทียนจี้ไป๋
เทียนจี้ไป๋กล่าว “นายไปซื้อแดนนิทานมาอ่านเถอะ ลูกนายชอบอ่านนิทานไม่ใช่เหรอ?”
“เดี๋ยวนะ นายคงไม่ได้หมายถึง…”
“แพ้แล้ว คนเขาชนะเก้าครั้งรวด”
เมื่อพูดประโยคนี้จบ เทียนจี้ไป๋ไม่รอให้เพื่อนพูดต่อ เขากดวางสายในทันที
ใช่แล้ว
เมื่ออ่านแดนนิทานจบ เทียนจี้ไป๋ก็รู้ว่าตนแพ้แล้ว นอกจากนั้นไม่ใช่คนคนเดียวที่แพ้ นักเขียนอีกแปดคนก็พ่ายแพ้เช่นเดียวกัน
ฉู่ขวงหนึ่งชนะเก้า!
จู่ๆ เทียนจี้ไป๋ก็เกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมาอย่างแปลกพิลึก “ฉันกำลังตั้งตารอดูปฏิกิริยาของคนอื่นๆ อยู่สินะ?”ไอรีนโนเวล
เนื่องจากร้านหนังสือส่งสินค้ามาให้ล่วงหน้า เทียนจี้ไป๋จึงเป็นคนแรกที่ได้รับหนังสือ และเป็นคนแรกที่อ่านหนังสือจบ
และขณะที่เทียนจี้ไป๋อ่านแดนนิทานจบ
นักเขียนคนอื่นๆ ซึ่งเข้าร่วมการประชันวรรณกรรมก็ได้รับผลงานชิ้นใหม่ของฉู่ขวงผ่านช่องทางที่แตกต่างกันไป
มณฑลฉิน
ฉีฉีซึ่งก่อนหน้านี้ปราชัยต่อฉู่ขวงมาแล้วครั้งหนึ่งกำลังเปิดหนังสือแดนนิทาน รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าอย่างอดไม่ได้ “ได้ยินว่าเรื่องราวของการแก้แค้นในนิทานมักประสบความสำเร็จเสมอ”
มณฑลฉี
จินซานซึ่งเคยพ่ายแพ้ต่อฉู่ขวงมาครั้งหนึ่งเช่นกัน ก็เดินทอดน่องออกจากร้านหนังสือ ในมือถือหนังสือแดนนิทานเล่มใหม่เอี่ยม “หวังว่าคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวัง”
มณฑลฉู่
นักเขียนนิทานอีกหลายคนก็ซื้อแดนนิทานติดมือมาเช่นเดียวกัน ถึงแม้นักเขียนจากมณฑลฉู่จะไม่มีใครท้าประชันวรรณกรรมกับฉู่ขวง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านักเขียนจากมณฑลฉู่จะไม่ติดตามการประชันวรรณกรรมในครั้งนี้
สี่มณฑลใหญ่ ฉิน ฉี ฉู่ และเยี่ยน…
นักเขียนชื่อดังจำนวนมากซื้อผลงานชิ้นใหม่ของฉู่ขวงซึ่งมีชื่อว่า ‘แดนนิทาน’
แน่นอนว่าชาวเน็ตอีกหลายคนก็เช่นกัน
เป็นดังเช่นที่เทียนจี้ไป๋คิด การต่อสู่แบบหนึ่งต่อเก้าของฉู่ขวงดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มหาศาล แทบถึงขั้นที่ทุกคนรับรู้เรื่องนี้กันถ้วนหน้า
เช่นเดียวกับเทียนจี้ไป๋
หลังจากที่ผู้คนเหล่านี้ได้รับหนังสือแดนนิทาน พวกเขาก็เริ่มต้นอ่านทันที หลังจากนั้นก็ดำดิ่งเข้าสู่โลกแห่งนิทานซึ่งฉู่ขวงรังสรรค์ขึ้น
หลังจากนั้นล่ะ?
หลายคนยังไม่ทันได้มี ‘หลังจากนั้น’ มีเพียงดวงตาแดงก่ำ ซึ่งกำลังจับจ้องไปยังแดนนิทาน พลางใคร่ครวญถึงความหมายของชื่อหนังสือเช่นเดียวกับเทียนจี้ไป๋
……
บังเอิญว่าวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี แม่ผู้ซึ่งอ่านเรื่องเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ให้หวาหวาและหงหงฟังก่อนนอน ก็ใช้เวลาช่วงพักผ่อนออกไปยังร้านหนังสือเพื่อซื้อหนังสือเล่มใหม่ของฉู่ขวงมาสองเล่ม
“คนละเล่ม”
เมื่อกลับถึงบ้าน แม่จึงแบ่งหนังสือแดนนิทานให้กับหวาหวาและหงหง “พวกลูกชอบเรื่องเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ไม่ใช่เหรอ คนเขียนหนังสือนิทานเล่มนี้เขียนเรื่องเจ้าหญิงสไนว์ไวท์”
“ผมอยากให้แม่อ่านให้ฟัง!” หวาหวาเอ่ยเสียงดัง
“แม่ไม่อยากอ่าน ลูกก็อ่านหนังสือได้นี่ หมิงหมิงข้างบ้านก็อ่านนิทานเองนะ“
วันนี้แม่อารมณ์ไม่ดีเล็กน้อย
นิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ยังไม่วางแผง ไม่ว่าอย่างไรแม่ก็คิดว่าคงฉู่ขวงง่วนอยู่กับการเขียนนิทานจนทำให้นิยายสืบสวนสอบสวนเล่มใหม่พลอยล่าช้า
“ก็ได้ฮะ…”
หวาหวาเอ่ยอย่างน้อยใจ
หงหงซึ่งเป็นพี่สาวกลับไม่ได้พูดให้มากความ เปิดหนังสือแดนนิทานในทันที
อันที่จริงเธอไม่ได้ชื่นชอบนิทานมากเป็นพิเศษ แต่เพราะเธอชื่นชอบเรื่องเจ้าหญิงสโนว์ไวท์มาก จึงยอมอ่านนิทานเล่มใหม่นี้
‘คิดซะว่าฉันได้ทำเพื่อไอดอลของฉันแล้ว’
แม่คิดเช่นนี้ พลางมองดูลูกสาวและลูกชายอ่านแดนนิทานอย่างเงียบเชียบ
ในฐานะแฟนคลับของฉู่ขวง แน่นอนว่าแม่รู้เรื่องการประชันวรรณกรรมระหว่างฉู่ขวงกับนักเขียนนิทานชื่อดังอีกเก้าคน การไปซื้อแดนนิทานสองเล่มจากร้านหนังสือนับว่าเป็นวิธีสนับสนุนไอดอลของเธอ
แม่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดเข้ากลุ่มแช็ตกลุ่มหนึ่ง
นี่คือกลุ่มแช็ตของแฟนคลับฉู่ขวง สมาชิกในกลุ่มทั้งหมด 846 คนล้วนเป็นแฟนคลับของฉู่ขวง ขณะนี้ในกลุ่มกำลังสนทนากัน
‘ผมซื้อแดนนิทานให้ลูกแล้วหนึ่งเล่ม’
‘บ้านฉันไม่มีเด็ก แต่ฉันเองก็ซื้อมาเล่มนึง เดี๋ยวจะกลับไปอ่าน ถึงยังไงก็เป็นหนังสือเล่มใหม่ของฉู่ขวง’
‘รู้สึกว่าครั้งนี้เจ้าแก่ฉู่ขวงจริงจังมาก อุตส่าห์ชะลอการปล่อยนิยายสืบสวนสอบสวนเพื่อเขียนแดนนิทาน’
‘เขาคงกดดันมาก ผลงานของนักเขียนทั้งเก้าคนยอดเยี่ยมมาก ตอนนี้ทุกคนบอกว่าเจ้าแก่ฉู่ขวงแพ้แหงๆ’
‘แพ้แล้วไง กล้าแข่งนิยายสืบสวนสอบสวนกับฉู่ขวงหรือเปล่า’
‘แข่งนิยายแฟนตาซีก็ได้ ฉู่ขวงเอาชนะได้ด้วยมือเดียว!’
‘…’
ช่างเป็นแฟนคลับที่หน้ามืดตามัวจริงๆ พูดจาไร้เดียงสา รู้สึกราวกับเด็กๆ กำลังงอแง แม่คิดอย่างจนใจ ก่อนจะพิมพ์ข้อความส่งไปหนึ่งบรรทัด
‘คุกเข่าเก้าครั้งรวดเป็นไง สำหรับฉันฉู่ขวงไร้พ่ายตลอดกาล!’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน