Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 437

ตอนที่ 437 หลานหลิงอ๋อง

หลินเยวียนยังคงไม่สามารถเผชิญหน้ากับกล้องได้อย่างสนิทใจ แต่เขารู้ต้นสายปลายเหตุของปัญหาแล้ว ในเมื่อเป็นเพียงเงามืดในจิตใจ เช่นนั้นก็เอาชนะมันเสียเลย เมื่อถึงวินาทีถอดหน้ากากในรายการราชาหน้ากากนักร้อง เขาจะต้อนรับสายตาของผู้คนทั่วทั้งบลูสตาร์ในฐานะเซี่ยนอวี๋

อิ่งจือทำไม่ได้

ฉู่ขวงก็ทำไม่ได้

ทว่าตัวตนของเซี่ยนอวี๋ซึ่งเดิมทีก็มีอยู่ในสถานะกึ่งเปิดเผยอยู่แล้วกลับทำได้ เพราะสำหรับบริษัทและคนคุ้นเคยรอบตัวนั้น หลินเยวียนก็คือเซี่ยนอวี๋ เซี่ยนอวี๋ก็คือหลินเยวียน นับว่าเป็นคนจริงๆ ไม่ใช่เพียงนามแฝง

“นายโอเคไหม?”

“ไม่มีปัญหาแล้วครับ”

หลินเยวียนนั่งในที่นั่งคนขับพลางเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม

ซุนเย่าหั่วเห็นรอยยิ้มของหลินเยวียน จึงยิ้มตามไปด้วย รู้สึกว่ารุ่นน้องยิ้มสวยกว่าเมื่อวานนี้อีก หลังจากนั้นเขาจึงเหยียบคันเร่งขับรถพาหลินเยวียนไปส่งยังบริษัท

แผนกประพันธ์เพลงชั้นเก้า

หลินเยวียนเอ่ยเรียกกู้ตง “ทางรายการราชาหน้ากากนักร้องเชิญผมมาใช่ไหมครับ ตอบทางนั้นไปว่าผมตอบรับแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องช่วยผมทำหน้ากาก เดี๋ยวผมหาคนทำหน้ากากเอง”

“หน้ากาก?”

กู้ตงชะงัก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ตัวแทนหลินต้องเข้าใจอะไรผิดแน่เลยค่ะ นักร้องในรายการจะสวมหน้ากาก แต่กรรมการไม่ต้อง บริษัทคิดว่าคุณมีข้อห้ามเรื่องการเปิดเผยใบหน้า นึกไม่ถึงว่าคุณจะยอม…เอ๊ะ เหมือนว่าเสียงของตัวแทนหลินเปลี่ยนไป…”

“ยังไม่ต้องสนใจเสียงของผม ผมกำลังบอกว่า…”

หลินเยวียนพูดช้าๆ ชัดๆ ทีละคำ “ผมสามารถเข้าร่วมรายการราชาหน้ากากนักร้องในฐานะนักร้อง แต่จะไม่เข้าร่วมในฐานะกรรมการ”

กู้ตงสับสน

เธอคิดว่าตนฟังผิดไป “นักร้อง?”

หลินเยวียนพยักหน้า “คุณอาจไม่รู้ ที่จริงแล้วอาชีพเดิมของผมคือนักร้อง เพียงแต่ต่อมาด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมถึงเริ่มเขียนเพลงให้คนอื่น”

“จริงเหรอคะ”

กู้ตงตกใจ

เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของหลินเยวียน จ้าวเจวี๋ยจึงไม่ได้เปิดเผยข้อมูลว่าหลินเยวียนคือนักร้องที่ผันตัวมาเขียนเพลง

เรื่องนี้อาจมีเพียงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเท่านั้นที่รู้ แต่เนื่องจากสถานะของเซี่ยนอวี๋ในบริษัท จึงไม่มีใครเปิดเผยเรื่องนี้สู่ภายนอก

“งั้นไม่มีปัญหาค่ะ!”

กู้ตงยิ้มแย้ม “ฉันจะไปแจ้งบริษัท…”

หลินเยวียนเอ่ย “อย่าเพิ่งบอกบริษัทแล้วกันครับ คุณไปติดต่อกับทีมงานรายการในนามของผม รอเปิดหน้ากากแล้วบริษัทก็รู้เอง”

หลินเยวียนยังคงไม่ชอบเป็นที่สนใจ นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ในชั่วข้ามคืน

การเอาชนะเงามืดในใจเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างแน่นอน

แต่เขาจำเป็นต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลง

“ได้ค่ะ!”

กู้ตงพยักหน้า เธอคิดเพียงว่าหลินเยวียนกำลังเล่นสนุก “ได้ยินมาว่าไม่ใช่แค่คุณ คนดังหลายคนที่ไม่ได้มีอาชีพเป็นนักร้องก็สนใจรายการนี้ งั้นคุณอยากสวมหน้ากากอะไรคะ”

“เคยได้ยินชื่อหลานหลิงอ๋องไหมครับ”

กู้ตงชะงักไปอีกครั้ง “ฉันเรียนไม่ค่อยเก่ง…”

“นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ”

หลินเยวียนพูด “น่าจะไม่เคยมีใครได้ยินเรื่องราวของหลานหลิงอ๋องกับหน้ากาก”

ชื่อเดิมของหลานหลิงอ๋องคือเกาฉางกง เป็นหนึ่งในบุรุษรูปงามสมัยโบราณ เป็นเรื่องปกติที่คนที่กำเนิดและเติบโตบนบลูสตาร์อย่างกู้ตงจะไม่รู้จัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องราวของหลานหลิงอ๋องและหน้ากาก

แม้แต่ในประวัติศาสตร์บนโลกยังไม่มีบันทึกอย่างเป็นทางการว่าหลานหลิงอ๋องสวมหน้ากาก บอกเพียงว่าเขาสวมหมวกเกราะที่แน่นหนามากใบหนึ่ง

เรื่องนี้กลับถูกกล่าวถึงในผลงานเรื่อง ‘หลานหลิงอ๋อง’ ของนักเขียนทานากะ โยชิกิ

ใบหน้าของกู้ตงเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เล่าให้ฉันฟังได้ไหมคะ”

หลินเยวียนไม่ได้รังเกียจรังงอน “คุณคิดซะว่าผมแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาก็แล้วกัน หลานหลิงอ๋องเป็นแม่ทัพชำนาญการรบมาก แต่ดันมีใบหน้าที่งดงาม…”

“แม่ทัพสุดหล่อกระชากใจ?”

หัวใจสาวน้อยของกู้ตงเต้นรัว

หลินเยวียนเล่าต่อ “สำหรับแม่ทัพที่ต้องต่อสู้อย่างนองเลือดในสนามรบ ความหล่อเกินไปไม่ใช่เรื่องดี เขาถูกศัตรูเยาะเย้ยเพราะเรื่องนี้ บอกว่าแม่ทัพคนนี้มีใบหน้างดงามเปี่ยมเสน่ห์ ดังนั้นหลานหลิงอ๋องจึงทำหน้ากากที่น่ากลัวขึ้นมา ให้ดูคล้ายกับปีศาจจากขุมนรก”

“ว้าว”

กู้ตงบอก “เท่สุดๆ!”

หลินเยวียนไม่เข้าใจว่าเท่ตรงไหน เห็นชัดๆ ว่านี่คือความจนใจอย่างหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน