Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 448

สรุปบท ตอนที่ 448 เอื้อนเอ่ยขึ้นมาพาคนแตกตื่น: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอน ตอนที่ 448 เอื้อนเอ่ยขึ้นมาพาคนแตกตื่น จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 448 เอื้อนเอ่ยขึ้นมาพาคนแตกตื่น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 448 เอื้อนเอ่ยขึ้นมาพาคนแตกตื่น

“ละทิ้งการยึดติดความโด่งดัง วางอคติเรื่องหน้าตา ทิ้งการรับรู้เกี่ยวกับอาชีพ และมาเริ่มต้นการประกวดร้องเพลงที่บริสุทธิ์ที่สุดแห่งยุคสมัย ในบรรดาแขกรับเชิญลึกลับที่ใช้หน้ากากปิดบังตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา ใครจะได้เป็นราชาหน้ากากนักร้องสมัยแรก!”

ม่านค่อยๆ เปิดออก

อันหงซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพิธีกรอันดับหนึ่งของฉินโจวขึ้นมาบนเวที แสงไฟส่องประกายมารวมกัน เบื้องหลังของอันหงเร้าอารมณ์ผู้ชม “สวัสดีครับ ผมอันหง พิธีกรรายการ และนี่คือรายการราชาหน้ากากนักร้องโดยสมาคมวรรณศิลป์ ในยุคสมัยแห่งการตัดสินคนจากใบหน้า เรามาเล่นเกมที่ไม่ดูหน้ากันครับ!”

นี่คือราชาหน้ากากนักร้อง!

เกมที่ไม่ต้องดูหน้า!

ไม่จำเป็นต้องพูดยกยอ ทั้งห้องส่งต่างส่งเสียงเฮลั่นขึ้นมา ท่ามกลางแสงของแท่งไฟและป้ายไฟฟลูออเรสเซนต์ ผู้ชมโลกภายนอกต่างจับตามองด้วยความคาดหวัง และวันนี้คือเวลาที่ทุกคนจะได้ปลดปล่อย!

หลังเวที

ในพื้นที่รอของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองโทรทัศน์บนผนังอย่างอดไม่ไหว หลินเยวียนเองก็เช่นกัน เพราะด้านหลังเวทีไม่นับว่าอยู่ไกลจากเวทีการแสดง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงเสียงจากทั้งในทีวีและจากด้านนอก

เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

อันหงยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร “ผมไม่รู้ว่านี่นับว่าเป็นสัญญาณการเริ่มต้นยุคสมัยใหม่แห่งดนตรีหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่านี่เป็นรายการดนตรีซึ่งจะถูกจารึกในฐานะหมุดหมายการพัฒนาประวัติศาสตร์ดนตรี หลังจากนี้เราจะขอแนะนำคณะกรรมการตัดสินทั้งสี่ท่าน ท่านแรกคือราชาเพลงจากฉินโจวเพียงท่านเดียวซึ่งได้รับมงกุฎราชาเพลงถึงสามครั้ง ได้รับสมญานามว่าราชาแห่งราชาเพลง เขาคือราชาแห่งราชาเพลงซึ่งมีสไตล์การขับร้องที่หลากหลาย ขณะเดียวกันก็ยังเป็นหนึ่งในสามบุรุษเสียงสูงซึ่งผ่านการยอมรับจากสมาคมวรรณศิลป์ อาจารย์เหมาเสวี่ยวั่ง”!

อึก

เหมาเสวี่ยวั่ง[1]เหรอ…

หลินเยวียนกลืนน้ำลาย รู้สึกว่าต่อมรับรสพร้อมทำงานขึ้นมาทันที

ทว่าถงถงซึ่งอยู่ด้านข้างกลับรู้สึกปลาบปลื้ม “ที่แท้ข่าวลือของทีมงานรายการก็เป็นความจริง อาจารย์เหมาเสวี่ยวั่งเป็นกรรมการตัดสินในตอนแรก เขาเป็นถึงนักร้องชายในตำนาน หนึ่งในสามบุรุษเสียงสูงของบลูสตาร์”!

บนเวที

เหมาเสวี่ยวั่งซึ่งปัจจุบันอายุ 40 ปีโบกมือให้กับผู้ชม ทำให้ผู้ชมด้านล่างเวทีตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม!

สมแล้วที่เป็นรายการดนตรีที่ยอดเยี่ยมที่สุด แค่คณะกรรมการตัดสินคนแรกก็เด็ดดวงถึงขนาดนี้!

ขาใหญ่แนวหน้าแห่งวงการดนตรี ซึ่งได้รับตำแหน่งราชาเพลงติดต่อกันถึงสามครั้งอย่างเหมาเสวี่ยวั่งเชียวนะ!

“ท่านที่สอง…”

อันหงแนะนำต่อไป

กรรมการตัดสินท่านที่สองคือสุภาพสตรีซึ่งมีชื่อว่าหลิ่วซวี่!

เธอสุดยอดยิ่งกว่าเหมาเสวี่ยวั่งเสียอีก ได้รับรางวัลราชินีเพลงถึงสี่ครั้ง ทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีเพลงพ็อปที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฉี เธอคือเจ้าของสถิติยอดดาวน์โหลดเพลงเดียวสูงที่สุดของฉีโจว ปัจจุบันเธออายุ 50 ปี

กรรมการตัดสินท่านที่สามมีชื่อว่าอู่หลง

อู่หลงได้รับการขนานนามว่าเทพแห่งเพลงประกอบ!

เพลงประกอบอนิเมชันยอดเยี่ยมทั้งหลายโดยมากแล้วมาจากปลายปากกาของอาจารย์อู่หลง!

แต่ดนตรีของอู่หลงจะมีแนวโน้มไปทางเชิงพาณิชย์ เพราะฉะนั้นเขาจึงยังไม่ได้เป็นพ่อเพลงสักที ทว่าสำหรับผู้คนทั่วไปแล้ว อู่หลงคือบุคลากรระดับพ่อเพลง

กรรมการตัดสินคนที่สี่…

ครั้งนี้คือพ่อเพลงตัวจริงเสียงจริง!

แต่เมื่อหลินเยวียนได้ยินชื่อนี้ ใบหน้าภายใต้หน้ากากของเขากลับฉายแววแปลกประหลาด

เพราะคนผู้นี้หลินเยวียนไม่เพียงเคยได้ยินชื่อ แต่ในมุมหนึ่ง อีกฝ่ายยังนับว่าเป็นอาจารย์ของหลินเยวียนด้วย

พ่อเพลงหยางจงหมิง!

ใบหน้าของถงถงแดงระเรื่อ ตื่นเต้นจนมือไม้อยู่ไม่สุข “สำหรับฉัน อาจารย์หยางจงหมิงคือหนึ่งในพ่อเพลงที่ไร้เทียมทานที่สุด เขาคือความภาคภูมิใจของชาวฉิน นึกไม่ถึงว่าเขาจะมาตั้งแต่ตอนแรก!”

ในห้องส่ง

ผู้ชมต่างตะโกนเรียกชื่อของหยางจงหมิงอย่างบ้าคลั่ง!

ยากที่จะจินตนาการว่าพ่อเพลงผู้อยู่เบื้องหลังจะมีบารมียิ่งใหญ่กว่าดารานักแสดงซึ่งอยู่หน้าเวที มีเพียงบลูสตาร์ที่สามารถมอบมาตรฐานในการดูแลเช่นนี้ให้แก่พ่อเพลงได้สินะ?

หลินเยวียนคิดเช่นนี้

และหลังจากความครึกครื้นสงบลง อันหลงก็เอ่ยแนะนำกฎของรายการอีกครั้ง

หลังจากผู้ชมเข้าใจแล้ว เขาจึงประกาศให้ผู้เข้าแข่งขันคนแรกขึ้นเวทีอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนเห็นท่าทางของผู้เข้าแข่งขันคนแรก ก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

เป็นชุดหุ่นยนต์!

นักร้องคนนี้แลดูถนัดการเล่นมุกตลก เดินแกว่งไปไกวมาบนเวที ดูท่าทางแล้วน่าจะมีทักษะด้านการเต้น

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่า กลับเป็นความสามารถในการร้องเพลง เพียงแค่อ้าปากก็ชนะใจทั้งห้องส่งได้ทันที!

“เก่งมาก!”

“เขาคือใครกัน”

บรรดานักร้องในห้องรับรองแต่ละห้องพูดคุยกับผู้ประสานงานรายการของตน มีเพียงห้องของหลานหลิงอ๋องซึ่งเงียบสนิท กลับเป็นถงถงซึ่งอดไม่ไหวเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “นักร้องท่านนี้น่าจะเป็นนักร้องแถวหน้า”

“ไม่ใช่”

หลินเยวียนเอ่ย

ถงถงชะงัก “คุณหมายถึงหน้ากากหุ่นยนต์เป็นนักร้องแถวสองเหรอคะ ฝีมือระดับนี้น่าจะพอเป็นนักร้องแถวหน้าได้อยู่นะคะ รู้สึกว่าร้องเพลงเก่งมาก นักร้องแถวสองส่วนมากความสามารถยังไม่ถึงขั้นนี้”

หลินเยวียนพูด “หมายถึง เขาคือราชาเพลง”

ถงถงกระแอมครั้งหนึ่ง พลางสนทนาอย่างกระอักกระอ่วน “ไม่ว่าจะเป็นราชาเพลงหรือนักร้องแถวหน้า ฟังจากเสียงแล้วยังไงก็เป็นผู้ชาย แต่นักร้องที่มีความสามารถในการเต้นมีหลายคน อาจารย์หลานหลินอ๋องเดาออกไหมคะว่าอีกฝ่ายเป็นใคร”

“เดาไม่ออก”

หลินเยวียนไม่ได้สนทนาต่อ

ถงถงมองไปยังตากล้อง บรรดาตากล้องตอบกลับด้วยสายตาเห็นใจ

ห้องรับรองอื่นต่างคาดเดาว่าภายใต้หน้ากากคือใครกันอย่างคึกคัก ห้องรับรองของหลานหลิงอ๋องกลับมีเพียงเสียงลมหนาวพัดหวิว

หน้ากากหุ่นยนต์ร้องจบแล้ว

คณะกรรมการตัดสินเริ่มแสดงความเห็น

ทว่าฉากที่ทำให้ผู้คนสะดุ้งโหยงก็คือ คณะกรรมการตัดสินคล้ายว่าจะไม่พึงพอใจ เหมาเสวี่ยวั่งกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ถ้าไม่ใช่เพราะวงดนตรี คุณคงร่วงตั้งแต่สามสี่ประโยคแรกแล้ว”

“เรียบเรียงเพลงใหม่”

หลิ่วซวี่ซึ่งอยู่ด้านข้างกล่าวอย่างยิ้มแย้ม “ไอเดียดีทีเดียว แต่ไม่สามารถกลบข้อบกพร่องในท่อนแรกได้ นอกจากนั้นเสียงที่สั่นในตอนท้ายเหมือนจะจงใจ น่าจะเป็นนักร้องแถวหน้าสินะคะ สิ่งที่นักร้องแถวหน้าชายอย่างพวกคุณยังสู้ราชาเพลงไม่ได้ ก็คือความเป็นธรรมชาติ”

“…”

กรรมการตัดสินคนที่สามเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบอยู่สักพัก “ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณคงเป็นนักร้องจากเยี่ยนโจว แต่นั่นก็ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ว่าคุณจงใจเรียนรู้วิธีการร้องแบบนี้ ผมจึงไม่ค่อยแน่ใจในความสามารถที่แท้จริงของคุณ”

“น่าสนใจ”

หยางจงหมิงเอนกายเล็กน้อย จ้องมองหน้ากากหุ่นยนต์ “คุณเล่นได้สนุกดี มีแค่ราชาเพลงเท่านั้นที่สามารถใช้ระดับการร้องของนักร้องแถวหน้าที่ตนเองไม่คุ้นเคย ทั้งยังจงใจเลียนสำเนียงการร้องของชาวเยี่ยน เพียงแต่การเลียนแบบยังไม่ค่อยแยบยล แต่ผมชื่นชมที่คุณท้าทายตัวเอง”

กรรมการตัดสินเข้มงวดมาก!

ผู้ชมทั้งห้องส่งส่งเสียงเชียร์!

ความตรงไปตรงมาคือสิ่งที่เราต้องการ!

เป็นขาใหญ่พูดอะไรไม่จำเป็นต้องสนใจความรู้สึกของผู้อื่นเลยสินะ แค่พูดความจริงก็พอ!

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กรรมการตัดสินในรายการเพลงส่วนใหญ่จะคิดเช่นนี้ ก็ไม่กล้าบอกออกไปตามตรง มีเพียงกรรมการซึ่งเป็นบุคลากรระดับแนวหน้าเท่านั้นถึงจะกล้าพูดอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ นี่คือหนึ่งในเสน่ห์ของรายการราชาหน้ากากนักร้อง!

ในห้องรับรองแต่ละแห่ง

ปฏิกิริยาของนักร้องแต่ละคนต่างกันออกไป

บ้างก็เงียบ

บ้างก็อุทานว่า “กล้าจริงๆ”

บ้างก็กลัวว่าตนจะต้านทานคำวิจารณ์ของกรรมการตัดสินไม่ไหว แม้แต่หยวนซีซึ่งไม่ได้อยู่ตรงนั้นยังถูกโจมตี!

อเนจอนาถ!

แต่ถึงกระนั้น คำวิจารณ์ซึ่งคณะกรรมการตัดสินมีต่อหยวนซีทำให้นักร้องในห้องรับรองหลายคนไม่กล้าแสดงความคิดเห็น

และในห้องรับรองของหลานหลิงอ๋อง

ถงถงตัวสั่นสะท้าน “อาจารย์หยางจงหมิงโหดกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะคะ…”

“อืม”

ถงถงคิดว่าหลานหลิงอ๋องเป็นคนเงียบเช่นนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เธอไม่อยากทำให้บรรยากาศในห้องนี้เย็นยะเยือกเกินไป

ทว่า สิ่งที่ทำให้ถงถงประหลาดใจก็คือ หลานหลินอ๋องคนนี้กลับพยักหน้าอย่างจริงจัง เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุขุม

“หยวนซีนับว่าอยู่ระดับกลางถึงอ่อนในบรรดาราชินีเพลงจริงๆ หงส์ขาวจัดอยู่ในกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดของราชินีเพลง ร้องได้ดีมาก เวอร์ชันนี้เทียบเคียงกับเจียงขุยได้เลย”

เงียบกริบ!

ถงถง “…”

ตากล้อง “…”

ทั้งห้องต่างตกตะลึง

เมื่อกี้หลานหลิงอ๋องพูดว่าอะไรนะ

เขากล้าพูดตามตรงว่าระดับของหยวนซีสู้หงส์ขาวไม่ได้?

แถมยังบอกว่าเพลงปลายักษ์ราชินีเพลงอย่างหงส์ขาวขับร้อง เทียบเคียงได้แค่ระดับเดียวกับนักร้องแถวหน้าอย่างเจียงขุย?

ตายแล้ว!

ปากคอเราะร้ายไม่เบา!

ต้องมีวาทศิลป์ระดับไหน ถึงล่วงเกินราชินีเพลงถึงสองคนได้พร้อมกันในประโยคเดียว

นี่สินะคือสิ่งที่เรียกว่า ยามปกติสงวนวาจา…

เอื้อนเอ่ยขึ้นมาพาคนแตกตื่น!?

…………………………………………………………..

[1] เหมาเสวี่ยวั่ง คืออาหารพื้นถิ่นมณฑลเสฉวน มีต้นกำเนิดจากเมืองฉงชิ่ง มีลักษณะเป็นต้มเลือดเป็ดใส่เครื่องในวัว มีรสเผ็ดชาของหมาล่า และชื่อเหมาเสวี่ยวั่ง (毛血旺) พ้องเสียงกับชื่อของอาจารย์เหมาเสวี่ยวั่ง (毛雪望)

———————————-

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน