ตอนที่ 450 เหน็บหนาว (2)
ใช่แล้ว
นักร้องชายซึ่งร้องเสียงผู้หญิง ในวงการเพลงมีหลายคนทำได้ ทว่านักร้องชายประเภทนี้มีเสียงซึ่งค่อนไปทางคีย์ผู้หญิงเป็นทุนเดิม
นักร้องหญิงก็เช่นเดียวกัน
แต่หลานหลิงอ๋องกลับต่างออกไป เขามีเสียงผู้ชายบริสุทธิ์ จนไม่มีใครจินตนาการได้ว่าเสียงนี้จะกลายเป็นเสียงผู้หญิงได้!
และเขาก็มีเสียงผู้หญิงบริสุทธิ์เช่นเดียวกัน!
เสียงผู้หญิงนี้บริสุทธิ์ถึงขั้นที่เมื่อเขาเปล่งเสียง ทุกคนย่อมคิดไปตามสัญชาตญาณว่าเป็นนักร้องหญิง!
ตรงกันข้าม!
ตรงกันข้ามสุดขั้ว!
หลิ่วซวี่หันไปยิ้ม “เพราะฉะนั้นฉันจึงไม่สามารถตัดสินเพศของหลานหลิงอ๋องได้เช่นกัน ปริศนานี้อาจต้องส่งต่อให้อาจารย์อู่หลง”
“อย่าถามผม”
อู่หลงส่ายหน้า “ผมก็เหมือนคุณ เดาไม่ออกเลยว่าเสียงชายหญิงเมื่อกี้ เสียงไหนคือเสียงจริง น่าจะใช้เสียงจริงร้องใช่ไหมครับ”
“อื้ม”
หลินเยวียนยอมรับ
มีผู้ชมเริ่มสนทนากัน
ทำไมถึงรู้สึกว่าหลานหลิงอ๋องคนนี้เย็นชา ท่าทางไม่ค่อยกระตือรือร้นกับกรรมการตัดสินเลย
ไม่ยักเหมือนสองคนก่อนหน้า
ต่อให้เป็นหงส์ขาวผู้เย่อหยิ่ง ก็ยังมีท่าทีถ่อมตนเมื่ออยู่ต่อหน้ากรรมการตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิทั้งสี่ท่านในวงการ
อู่หลงไม่ได้ใส่ใจท่าทีสงวนวาจาของหลินเยวียน “ใช้เสียงจริง นั่นหมายความว่ามีหนึ่งในสองเสียงเป็นเสียงจริง มีสองเสียงก็โหดเกินไป นักร้องคนอื่นร้องเดี่ยว แต่คุณเหมือนมีสองคนอยู่บนเวที เล่นแบบคู่ผสมชายหญิง มาหนึ่งได้ถึงสองไปเลย!”
ผู้ชมหัวเราะครืน!
นั่นสินะ!
มาหนึ่งได้ถึงสองไปเลย!
“ยังไม่ต้องพูดถึงปัญหานี้ ผมคิดว่าคุณเป็นผู้ชาย จากรูปลักษณ์ของหลานหลิงอ๋อง เว้นแต่ว่าจะมีหลักฐานยืนยันจากตัวตนจริง” อู่หลงกล่าว “ที่จริงสิ่งที่ทำให้ผมช็อกมากที่สุด กลับไม่ใช่เสียงสองเสียงของคุณ แต่เป็นเสียงร้องประโยคสุดท้าย…”
หลิ่วซวี่และเหมาเสวี่ยวั่งพยักหน้าพร้อมกัน ราวกับรู้ว่าอู่หลงกำลังจะพูดอะไร
“ประโยคสุดท้ายควรเป็นชายหญิงร้องประสานกัน แต่คุณมีเพียงคนเดียว จะเสียงผู้ชายหรือเสียงผู้หญิง ผมกำลังคิดว่าถ้ามีการออกแบบท่อนร้องเสียงประสาน คุณจะจัดการอย่างไร ปรากฏว่าคุณแสดงเสียงประสานชายหญิงให้เราเห็น ราวกับว่ามีสองเสียงผสมผสานกันอย่างไรอย่างนั้น ทั้งบลูสตาร์คงจะมีแต่คุณที่ทำแบบได้ถึงระดับนี้!” อู่หลงกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง
ผู้ชมต่างมองไปด้านข้าง!
เป็นคำวิจารณ์ที่ระดับสูงมาก!
หลานหลิงอ๋องยังคงไม่พูดมาก
อันหงนึกสนุกขึ้นมา “มองออกว่าอาจารย์หลานหลิงอ๋องไม่ใช่นักร้องที่พูดเก่ง นี่อาจเป็นเบาะแสหนึ่ง อาจารย์หยางจงหมิงครับ…”
อันหงมองไปทางหยางจงหมิง
ทุกคนมองไปทางหยางจงหมิง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักร้องซึ่งมีความพิเศษเช่นนี้ ทุกคนล้วนอยากรู้ว่าพ่อเพลงหยางจงหมิงจะมีความคิดเห็นว่าอย่างไร ปรากฏว่าหยางจงหมิงกลับจ้องมองไปทางหลินเยวียน พูดทีละคำ
“คุณมีสองเสียง”
หลินเยวียนได้ยินดังนั้น สีหน้าภายใต้หน้ากากก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
แต่เมื่อมีหน้ากากกั้นอยู่ ทุกคนจึงไม่เห็นสีหน้าของหลินเยวียน
เมื่อพูดจบหยางจงหมิงก็ส่ายหน้า
“แต่นั่นคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้”
ผู้ชมยิ้ม ปรมาจารย์ก็หยอกล้อเก่งเหมือนกันนะเนี่ย
หยางจงหมิงก็ยิ้มตาม “เล่นแล้วสนุกไหม?”
นี่เป็นครั้งแรกที่หยางจงหมิงเผยรอยยิ้มสบายๆ เช่นนี้
และก่อนหน้านี้ หยางจงหมิงให้ความรู้สึกน่าเกรงขามอย่างบอกไม่ถูก ต่อให้เขายิ้มออกมา แต่ก็ยังให้ความรู้สึกบอกไม่ถูกเช่นกัน
เช่นเดียวกับเฉินเต้าหมิงบนโลก เขาเกิดมาพร้อมกับกลิ่นอายความน่าเกรงขาม ซึ่งไม่สามารถซ่อนงำได้
“สนุก”
ใบหน้าของหลินเยวียนภายใต้หน้ากากปรากฏรอยยิ้ม
เขารู้ว่าหยางจงหมิงคาดเดาบางอย่างออก ถึงอย่างไรทั้งสองคนก็เคยพบกันมาก่อน แต่ก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น
อย่างที่คิด
ประโยคถัดมาของหยางจงหมิงคือ “คุณเหมือนกับคนคนหนึ่งที่ผมรู้จัก”
ผู้ชมประหลาดใจ
หยางจงหมิงหมายถึงใครกัน
กรรมการตัดสินคนอื่นๆ มองไปยังหยางจงหมิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “ใครหรือ”
หยางจงหมิงส่ายหน้า “บอกไม่ได้ ถ้าเกิดผมเดาถูกจริง พูดออกไปก็หมดสนุกสิ”
“เฮ้อ!”
ผู้ชมพลันรู้สึกจนปัญญาขึ้นมา ในใจคันยุบยิบด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หยางจงหมิงเป็นพ่อเพลง นักร้องที่เขารู้จักมีมากมาย เบาะแสนี้จะให้ทุกคนเริ่มเดาจากตรงไหนดีล่ะ
“พูดถึงเพลงดีกว่า นี่เป็นเพลงใหม่ ชื่อเพลงว่าอะไรหรือ”
“‘เหน็บหนาว[1]’ เหน็บในคำว่าเหน็บชา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน