Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 463

สรุปบท ตอนที่ 463 ลม ฝน และหิมะ: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

สรุปตอน ตอนที่ 463 ลม ฝน และหิมะ – จากเรื่อง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet

ตอน ตอนที่ 463 ลม ฝน และหิมะ ของนิยายการเงินเรื่องดัง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 463 ลม ฝน และหิมะ

“เหมือนนัดกันมา”

เมื่อกลับถึงห้องรับรอง หน้ากากหุ่นยนต์มองไปยังหลานหลิงอ๋องซึ่งนั่นอยู่หน้าเปียโน ก่อนจะระเบิดหัวเราะอย่างตลกขบขัน

ทำไมมีแต่คนเล่นเปียโน!

ในห้องถัดไป

หมูน้อยฉีฉีปรับอารมณ์ให้คงที่แล้ว

เธอยิ้ม “ที่จริงนี่เป็นเรื่องปกติ ในการแข่งขันมักมีการร้องและเล่นดนตรีไปพร้อมกัน เปียโนและกีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่ผู้คนใช้มากที่สุดพอดี แต่หลังจากการแข่งขันในรอบนี้ คงไม่มีใครใช้เปียโนง่ายๆ แล้ว”

ฝีมือเปียโนของหุ่นยนต์นั้นแข็งแกร่งมาก!

เป็นเรื่องยากสำหรับนักร้องคนอื่นๆ ที่จะบรรเลงเปียโนให้แตะถึงระดับเดียวกับหุ่นยนต์ และผู้ชมจะเปรียบเทียบพวกเขากับหุ่นยนต์โดยอัตโนมัติ และข้อบกพร่องของพวกเขาจะถูกเปิดเผย

ขณะเดียวกัน

บนเวที

หลินเยวียนไม่ได้มองดูฝูงชนซึ่งนั่งอยู่ใต้เงามืดด้านล่างเวที

เขาซึ่งนั่งอยู่หน้าเปียโนจิตใจนิ่งสงบ

นิ้วมือเหยียดออก หลินเยวียนออกแรงกดลงบนเปียโนด้วยการไขว้มือ!

ไล่โน้ต!

แรงของนิ้วมือและข้อมือกดลงบนแป้นเปียโนพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นเสียงหนัก แต่กลับเร่งเร็ว ราวกับเสียงซึ่งไล่ตามมาด้านหลังสะท้อนเสียงก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง

หนักแน่น!

เปี่ยมพลัง!

หัวใจของผู้ชมทุกคนพลันเร่งรัวตามไปด้วย รู้สึกว่าเสียงเปียโนนี้คล้ายกับมีแรงดึงดูดที่ไม่อาจอธิบายได้

เปียโนนี้…

สายตาของคณะกรรมการประเมินไปหยุดยังหลานหลิงอ๋องพร้อมกัน สัมผัสได้ถึงความละเอียดอ่อนในนั้น

ในตำแหน่งกรรมการตัดสิน

สีหน้าของกรรมการตัดสินทั้งสี่ค่อยๆ จริงจังขึ้นมา

หลินเยวียนหลับตาลง สองมือเริ่มบรรเลงด้วยความเร็ว โดยที่สองมือยังคงไขว้กันอยู่!

อ็อกเทฟ!

นี่คือการโชว์สกิล!

โชว์สกิลล้วนๆ!

แม้ว่ากระบวนการนี้จะสั้นมาก แต่ต้องยอมรับว่า นี่เป็นการโชว์สกิลที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก ในเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่สัปดาห์ หลานหลิงอ๋องก็ดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั้งหมดไว้ได้!

“ฮู้ว…”

หลินเยวียนผ่อนลมหายใจ และเสียงนั้นก็ได้ดังขึ้นอย่างชัดเจนผ่านไมโครโฟน

เมื่อครู่เป็นเพียงการอุ่นเครื่อง เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม

ในเวทีแสดงเปียโน นี่เป็นการโชว์สกิลที่พบเห็นได้ทั่วไปในเวทีแสดงเปียโน เพียงแต่เป็นเรื่องยากที่นักเปียโนซึ่งไม่ใช่ระดับมืออาชีพจะทำให้ผลลัพธ์นี้ออกมาได้

หลังจากอุ่นเครื่องแล้ว เสียงเปียโนก็อ่อนลง ราวกับทุกอย่างเงียบลงหลังจากการเคลื่อนไหวอันรุนแรง

ประหนึ่งเสียงเปียโนอันทรงพลังเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

วงดนตรีเข้าประสมโรง

เสียงผู้หญิงดังขึ้น ราวกับสายสมแผ่วเบาพัดผ่านจิตวิญญาณ

“กาลครั้งหนึ่ง เธอและเขารักกัน ช่วงเวลาที่ความลังเลหมดไป คิดว่าเข้าใจ จึงทุ่มเทความรักให้ สองมือโอบกอดไม่ยอมปล่อยไป หัวใจดิ้นรนตามหาจุดหมาย…”

จากนั้นเสียงชายหนุ่มมีเสน่ห์ดังขึ้น ราวกับสายฝนพรำ

“รักของเธอ ลืมไม่ไหว ฉากสุดท้ายยังไม่เปลี่ยนไป ฉันไม่สามารถเหนี่ยวรั้งเธอได้ ต่างกันกับเขา เขามอบอนาคตที่เธอคาดหวังไว้ ไร้เดียงสาดั่งเด็กชาย…”

ผู้ชมตาเป็นประกาย

ต่อให้พวกเขาจะได้ฟังเสียงของหลานหลิงอ๋องร้องเพลงรูปแบบนี้มาแล้ว แต่พวกเขายังคงรู้สึกตื่นตาตื่นใจเมื่อได้ฟังเพลงใหม่ในรูปแบบเดิมอีก

หลินเยวียนกำลังโชว์สกิล!

“คำถามมีมากมาย เธอยังทนทุกข์อยู่หรือไร ดั่งน้ำสีครามใต้ตะวันฉาย ดั่งเติมสีสันจนมีความหมาย…”

เสียงผู้หญิง…เสียงผู้ชาย…เสียงผู้หญิง…เสียงผู้ชาย!

การเชื่อมต่อด้วยความถี่สูง!

เหมือนจะเป็นเพลงใหม่?

ที่ตำแหน่งกรรมการตัดสิน กรรมการตัดสินทั้งสี่ท่านคล้ายกับกำลังใคร่ครวญ จากนั้นขมวดคิ้วทันใด

ไม่ใช่เพราะเพลงใหม่มีปัญหา

ไม่ใช่เพราะเสียงของหลานหลิงอ๋องมีปัญหา

การเชื่อมต่อทั้งสองเสียงด้วยความถี่ที่สูงเช่นนี้รื่นหูเหลือเกิน

ทว่าหลังจากนี้คุณคงมาไม้เดิม ถึงอย่างไรก็มีแค่สองเสียง ไม่ได้มีเสียงที่สาม…

ทันใดนั้นหลินเยวียนโน้มตัวไปด้านหน้า เสียงเปียโนหนักหน่วงขึ้น ขณะเดียวกันเสียงเจือปนความแหบแห้งก็ดังขึ้น

“ยิ้มต่อไปอย่าปล่อยใจเธอให้โดนทำร้าย!”

เสียงแหบถือกำเนิดขึ้นแล้ว!

เสียงที่สาม!

สอดประสานกับสองเสียงแรกได้เป็นอย่างดี แทบให้ผลลัพธ์ของ ‘เพอร์เฟ็กต์ทรีโอ’

เหมาเสวี่ยวั่งอึ้งไป

หลิ่วซวี่ตกตะลึง

หลังจากหุ่นยนต์ขึ้นแสดง ถ้ามีนักร้องคนใดคิดจะเล่นเปียโนอีก คงต้องคิดหลายตลบหน่อย

แต่หลังจากหลานหลิงอ๋อง จะไม่มีนักร้องคนใดกล้าเล่นเปียโนบนเวทีราชาหน้ากากนักร้องอีก!

นอกเสียจากว่าอีกฝ่ายมีฝีมือเปียโนระดับมืออาชีพเช่นเดียวกับหลานหลิงอ๋อง!

ใช่แล้ว!

หลายคนฟังออก!

ความสามารถในการเล่นเปียโนของหลานหลิงอ๋องนั้นเหนือกว่าหุ่นยนต์!

ระหว่างที่ทำนองเปียโนบรรเลง เสียงของหลินเยวียนดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ยังคงเป็นเสียงแหบ ทว่างับคำหนักกว่าก่อนหน้านี้

“ตอนนี้ฉันภาวนา ให้สุขสมไม่ระทมใจ อย่างไรจะไม่ย้อนกลับไป”

เสียงเปียโนเบาลง

หลินเยวียนหลับตาลง ผ่อนลมหายใจแผ่วเบา

เสียงผู้หญิงประหนึ่งสายลม โชยมาไล้ใบหน้าอีกครั้ง

เสียงผู้ชายประหนึ่งสายฝน เริ่มดังขึ้น

เสียงแหบประหนึ่งหิมะ เป็นการปิดฉากทุกสรรพสิ่ง

เพลงนี้จบลงแล้ว

ในห้องส่งเงียบสงัด

ผู้ชมส่วนหนึ่งมีสีหน้าครุ่นคิด

ในทางตรงกันข้าม คณะกรรมการประเมินกลับมีสีหน้าตกตะลึง และฝั่งกรรมการตัดสิน ทั้งสี่คนต่างมีสีหน้าแตกต่างกัน

เสียงปรบมือดังขึ้น

หากฟังอย่างตั้งใจ จะสัมผัสได้ว่าเสียงปรบมือของคณะกรรมการประเมินทั้งห้าสิบคนนั้นดังที่สุด จนกลบเสียงของผู้ชมด้วยซ้ำ

เมื่อเสียงปรบมือเบาลง

พิธีกรก้าวขึ้นบนเวที เริ่มถามว่า “นี่คือเพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋เหมือนกันหรือครับ?”

“อื้ม เพลงเด็กชาย”

หลินเยวียนลุกขึ้นจากเปียโน ค้อมคำนับให้วงดนตรีและด้านล่างเวที เขารู้สึกว่าตนทำได้ไม่เลวเลย

“อาจารย์อู่…”

พิธีกรกำลังจะเอ่ยเรียกกรรมการตัดสิน

ปรากฏว่าเสียงของพิธีกรยังไม่ทันจบลง อู่หลงก็จ้องมองหลานหลิงอ๋องอย่างไม่ละสายตา และเริ่มพูดก่อน

“เวทีที่แล้ว คุณได้อันดับที่หนึ่ง แต่คะแนนโหวตของผมยกให้หงส์ขาวและหุ่นยนต์ทั้งหมด เวทีนี้ คุณคว้าอันดับหนึ่งไม่ไหว แต่คะแนนโหวตหนึ่งร้อยคะแนนผมให้คุณทั้งหมด”

……………………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน