ตอนที่ 463 ลม ฝน และหิมะ
“เหมือนนัดกันมา”
เมื่อกลับถึงห้องรับรอง หน้ากากหุ่นยนต์มองไปยังหลานหลิงอ๋องซึ่งนั่นอยู่หน้าเปียโน ก่อนจะระเบิดหัวเราะอย่างตลกขบขัน
ทำไมมีแต่คนเล่นเปียโน!
ในห้องถัดไป
หมูน้อยฉีฉีปรับอารมณ์ให้คงที่แล้ว
เธอยิ้ม “ที่จริงนี่เป็นเรื่องปกติ ในการแข่งขันมักมีการร้องและเล่นดนตรีไปพร้อมกัน เปียโนและกีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่ผู้คนใช้มากที่สุดพอดี แต่หลังจากการแข่งขันในรอบนี้ คงไม่มีใครใช้เปียโนง่ายๆ แล้ว”
ฝีมือเปียโนของหุ่นยนต์นั้นแข็งแกร่งมาก!
เป็นเรื่องยากสำหรับนักร้องคนอื่นๆ ที่จะบรรเลงเปียโนให้แตะถึงระดับเดียวกับหุ่นยนต์ และผู้ชมจะเปรียบเทียบพวกเขากับหุ่นยนต์โดยอัตโนมัติ และข้อบกพร่องของพวกเขาจะถูกเปิดเผย
ขณะเดียวกัน
บนเวที
หลินเยวียนไม่ได้มองดูฝูงชนซึ่งนั่งอยู่ใต้เงามืดด้านล่างเวที
เขาซึ่งนั่งอยู่หน้าเปียโนจิตใจนิ่งสงบ
นิ้วมือเหยียดออก หลินเยวียนออกแรงกดลงบนเปียโนด้วยการไขว้มือ!
ไล่โน้ต!
แรงของนิ้วมือและข้อมือกดลงบนแป้นเปียโนพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นเสียงหนัก แต่กลับเร่งเร็ว ราวกับเสียงซึ่งไล่ตามมาด้านหลังสะท้อนเสียงก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง
หนักแน่น!
เปี่ยมพลัง!
หัวใจของผู้ชมทุกคนพลันเร่งรัวตามไปด้วย รู้สึกว่าเสียงเปียโนนี้คล้ายกับมีแรงดึงดูดที่ไม่อาจอธิบายได้
เปียโนนี้…
สายตาของคณะกรรมการประเมินไปหยุดยังหลานหลิงอ๋องพร้อมกัน สัมผัสได้ถึงความละเอียดอ่อนในนั้น
ในตำแหน่งกรรมการตัดสิน
สีหน้าของกรรมการตัดสินทั้งสี่ค่อยๆ จริงจังขึ้นมา
หลินเยวียนหลับตาลง สองมือเริ่มบรรเลงด้วยความเร็ว โดยที่สองมือยังคงไขว้กันอยู่!
อ็อกเทฟ!
นี่คือการโชว์สกิล!
โชว์สกิลล้วนๆ!
แม้ว่ากระบวนการนี้จะสั้นมาก แต่ต้องยอมรับว่า นี่เป็นการโชว์สกิลที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก ในเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่สัปดาห์ หลานหลิงอ๋องก็ดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั้งหมดไว้ได้!
“ฮู้ว…”
หลินเยวียนผ่อนลมหายใจ และเสียงนั้นก็ได้ดังขึ้นอย่างชัดเจนผ่านไมโครโฟน
เมื่อครู่เป็นเพียงการอุ่นเครื่อง เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม
ในเวทีแสดงเปียโน นี่เป็นการโชว์สกิลที่พบเห็นได้ทั่วไปในเวทีแสดงเปียโน เพียงแต่เป็นเรื่องยากที่นักเปียโนซึ่งไม่ใช่ระดับมืออาชีพจะทำให้ผลลัพธ์นี้ออกมาได้
หลังจากอุ่นเครื่องแล้ว เสียงเปียโนก็อ่อนลง ราวกับทุกอย่างเงียบลงหลังจากการเคลื่อนไหวอันรุนแรง
ประหนึ่งเสียงเปียโนอันทรงพลังเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
วงดนตรีเข้าประสมโรง
เสียงผู้หญิงดังขึ้น ราวกับสายสมแผ่วเบาพัดผ่านจิตวิญญาณ
“กาลครั้งหนึ่ง เธอและเขารักกัน ช่วงเวลาที่ความลังเลหมดไป คิดว่าเข้าใจ จึงทุ่มเทความรักให้ สองมือโอบกอดไม่ยอมปล่อยไป หัวใจดิ้นรนตามหาจุดหมาย…”
จากนั้นเสียงชายหนุ่มมีเสน่ห์ดังขึ้น ราวกับสายฝนพรำ
“รักของเธอ ลืมไม่ไหว ฉากสุดท้ายยังไม่เปลี่ยนไป ฉันไม่สามารถเหนี่ยวรั้งเธอได้ ต่างกันกับเขา เขามอบอนาคตที่เธอคาดหวังไว้ ไร้เดียงสาดั่งเด็กชาย…”
ผู้ชมตาเป็นประกาย
ต่อให้พวกเขาจะได้ฟังเสียงของหลานหลิงอ๋องร้องเพลงรูปแบบนี้มาแล้ว แต่พวกเขายังคงรู้สึกตื่นตาตื่นใจเมื่อได้ฟังเพลงใหม่ในรูปแบบเดิมอีก
หลินเยวียนกำลังโชว์สกิล!
“คำถามมีมากมาย เธอยังทนทุกข์อยู่หรือไร ดั่งน้ำสีครามใต้ตะวันฉาย ดั่งเติมสีสันจนมีความหมาย…”
เสียงผู้หญิง…เสียงผู้ชาย…เสียงผู้หญิง…เสียงผู้ชาย!
การเชื่อมต่อด้วยความถี่สูง!
เหมือนจะเป็นเพลงใหม่?
ที่ตำแหน่งกรรมการตัดสิน กรรมการตัดสินทั้งสี่ท่านคล้ายกับกำลังใคร่ครวญ จากนั้นขมวดคิ้วทันใด
ไม่ใช่เพราะเพลงใหม่มีปัญหา
ไม่ใช่เพราะเสียงของหลานหลิงอ๋องมีปัญหา
การเชื่อมต่อทั้งสองเสียงด้วยความถี่ที่สูงเช่นนี้รื่นหูเหลือเกิน
ทว่าหลังจากนี้คุณคงมาไม้เดิม ถึงอย่างไรก็มีแค่สองเสียง ไม่ได้มีเสียงที่สาม…
ทันใดนั้นหลินเยวียนโน้มตัวไปด้านหน้า เสียงเปียโนหนักหน่วงขึ้น ขณะเดียวกันเสียงเจือปนความแหบแห้งก็ดังขึ้น
“ยิ้มต่อไปอย่าปล่อยใจเธอให้โดนทำร้าย!”
เสียงแหบถือกำเนิดขึ้นแล้ว!
เสียงที่สาม!
สอดประสานกับสองเสียงแรกได้เป็นอย่างดี แทบให้ผลลัพธ์ของ ‘เพอร์เฟ็กต์ทรีโอ’
เหมาเสวี่ยวั่งอึ้งไป
หลิ่วซวี่ตกตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน