Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 489

สรุปบท ตอนที่ 489 ฆ่าได้ฆ่า: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 489 ฆ่าได้ฆ่า – ตอนที่ต้องอ่านของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนนี้ของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเงินทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 489 ฆ่าได้ฆ่า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 489 ฆ่าได้ฆ่า

ใช่

หลินเยวียนก็ดูรายการแล้วเช่นกัน และจากความเข้าใจที่หลินเยวียนมีต่อนักร้องที่เขาร่วมงานด้วย เขารู้ตัวตนของนักร้องเกือบทันทีที่ฟังเสียงของอีกฝ่าย

ซุนเย่าหั่ว!

รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วเปลี่ยนเสียงของตนจริงๆ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มากพอที่จะกลบเกลื่อนตัวตนของเขา แต่หลินเยวียนร่วมงานกับซุนเย่าหั่วมามาก สามารถเดาออกย่อมเป็นเรื่องปกติ

ส่วนเฉินจื้ออวี่และคนอื่นๆ…

อันที่จริงหลินเยวียนคาดเดาได้เพียงคร่าวๆ ไม่สามารถยืนยันได้ เพราะฉะนั้นเมื่อได้อ่านความเห็นของชาวเน็ตที่ชื่อไดโนเสาร์น้อยชอบกินปลา เขาจึงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

แต่เมื่ออีกฝ่ายชี้ให้เห็นว่านางเงือกคือเจียงขุย หลินเยวียนกลับเห็นด้วยอย่างยิ่ง

ก่อนหน้านี้เขาก็สงสัยเช่นกัน

เพราะฉะนั้นอาจเป็นเพราะความบังเอิญ นักร้องที่ตนรู้จักหลายคนเข้าร่วมรายการราชาหน้ากากนักร้อง!

แต่ว่า…

เรื่องแย่งชิงความโปรดปรานที่บรรดาชาวเน็ตพูดถึง หลินเยวียนไม่ได้รู้สึกอะไร ชาวเน็ตชอบเล่นมุกกันเป็นปกติ

เรื่องนี้หลินเยวียนเองก็รู้ดี

เมื่อเขาประกาศเกี่ยวกับนิยายชุดรหัสคดีโฮล์มส์ ยังถูกชาวเน็ตด่าทอว่าเป็น ‘ผู้ชายเฮงซวย’

หลินเยวียนเป็นผู้ชายเฮงซวยหรือ?

แน่นอนว่าไม่ใช่ หนานจี๋ต่างหากที่เป็นผู้ชายเฮงซวย

ระยะนี้หลินเยวียนสังเกตเห็นว่าหนานจี๋มักจะออกไปเดินเล่นในหมู่บ้านเป็นประจำ และเล่นกับสุนัขอีกหลายตัว

เขาถึงขั้นสงสัยว่าหนานจี๋ไปเข้าร่วมศึกชิงนางกับสุนัขตัวอื่น…

เพราะมีวันหนึ่ง เขาเห็นเต็มสองตาว่าหนานจี๋ไปนอนทับอยู่บนสุนัขอีกตัวหนึ่ง

เสี่ยวหวงข้างบ้านซึ่งเป็นสุนัขจรจัดในหมู่บ้านอีกตัวหนึ่ง

ชื่อนี้เหยาเหยาเป็นคนตั้งให้

ในเวลานั้นเสี่ยวหวงกำลังคาบกระดูกวิ่งมาอย่างเริงร่า ปรากฏว่าเมื่อเห็นหนานจี๋นอนทับบนตัวสุนัขอีกตัวนั้น ก็ชะงักไปทันที

สุดท้ายไม่เป็นอันได้กินกระดูกหรอก เพราะเสี่ยวหวงหันหลังติดเกียร์หมาวิ่งไปทันทีด้วย ท่าทางดูเศร้ามากซะด้วย

แต่นี่คือเรื่องส่วนตัวของหนานจี๋ หลินเยวียนไม่ก้าวก่าย

เขาส่ายหน้า ไม่ใส่ใจกับเรื่องของโลกออนไลน์และรายการอีกต่อไป แต่ถือโอกาสที่แสงแดดกำลังดี กดเปิดคอมพิวเตอร์

เขาต้องเขียนนิยายชุดรหัสคดีโฮล์มส์แล้ว!

สำหรับลำดับของเรื่องราวในนิยายชุดรหัสคดีโฮล์มส์ เมื่อคืนหลินเยวียนขบคิดอยู่นาน

สุดท้าย หลินเยวียนจึงตัดสินใจใช้ ‘ปริศนาคดีสีเลือด[1]’ เป็นเล่มแรก

นิยายเล่มนี้เน้นไปที่ ‘เรื่องพื้นฐาน[2]’ ของโฮล์มส์ด้วย!

สิ่งที่เรียกว่าเรื่องพื้นฐาน คือหลักการพื้นฐานในการไขคดีของโฮล์มส์

เป็นความรู้สึกลี้ลับพอสมควร

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะสมเหตุสมผลขึ้นมาหลังจากคำอธิบายของโฮล์มส์เอง

เมื่อมีเนื้อหาในส่วนนี้ ภาพของยอดนักสืบเชอร์ล็อก โฮล์มส์จึงค่อยๆ ปรากฏขึ้น

สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงคือ…

อันที่จริงโฮล์มส์ไม่คิดว่าตนเองเป็นนักสืบ เขาชอบแนะนำตัวว่าเป็น ‘ที่ปรึกษานักสืบ’

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ

เมื่อบรรดานักสืบประสบปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ พวกเขาก็จะมาเชิญโฮล์มส์

คล้ายกับว่าเรื่องนี้จะยิ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของโฮล์มส์ เมื่อนักสืบคนอื่นไขคดีไม่ออก ถึงมาหาโฮล์มส์ นั่นไม่ได้หมายความว่านักสืบคนอื่นคิดว่าโฮล์มส์เก่งกว่าพวกเขาหรอกหรือ?

การออกแบบเรื่องราวเช่นนี้อ่านแล้วฟินสุดๆ

แต่ถึงแม้โฮล์มส์จะเรียกตนเองว่าที่ปรึกษานักสืบ แต่คดีส่วนมากซึ่งบรรยายในนิยายนั้น โฮล์มส์ล้วนเป็นผู้ไขคดีด้วยตัวเองในฐานะนักสืบ

นอกจากนั้น

ผู้ช่วยของโฮล์มส์ ซึ่งก็คือหมอวัตสัน ได้รู้จักกับโฮล์มส์และกลายเป็นคู่หูกันในปริศนาคดีสีเลือด

เมื่อคิดเช่นนี้

หลินเยวียนจึงเริ่มเคาะคีย์บอร์ด

……

และในขณะที่หลินเยวียนเริ่มมุ่งความสนใจไปยังนิยายชุดรหัสคดีโฮล์มส์

บนโลกออนไลน์

การตีแผ่ความลับครั้งใหญ่เกี่ยวกับตัวตนของนักร้องตระกูลปลาโดยไดโนเสาร์น้อยชอบกินปลาก็ขยายอิทธิพลมากขึ้น

มีคนเห็นด้วยกับสมมุติฐานของไดโนเสาร์น้อยชอบกินปลามากขึ้นเรื่อยๆ!

ขณะเดียวกัน ทุกคนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมากกับ ‘ศึกชิงความโปรดปรานในวังหลังของเซี่ยนอวี๋’ ทุกคนกล่าวว่า ‘ศึกชิงความโปรดปรานในวังหลังของเซี่ยนอวี๋’ คืออีกหนึ่งฉากสำคัญในรายการ ต่อจากหลานหลิงอ๋องปากตะไกร!

ถึงขั้นที่มีชาวเน็ตนับไม่ถ้วนออกมาเรียกร้อง

ให้เซี่ยนอวี๋รีบมาเป็นคณะกรรมการตัดสินในรายการโดยเร็ว!

ปลาของคุณอยู่ที่นี่เต็มไปหมด!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันสัปดาห์ที่สามของทีมที่สอง!

ปลาตะพัดทองถึงกับประกาศกร้าวต่อหน้านักร้องคนอื่นๆ และผู้ชมนับไม่ถ้วนว่า

“หวังว่าจะมีโอกาสได้แข่งกับปลายักษ์สักครั้ง”

ปลายักษ์โต้กลับอย่างไม่ลังเล “คุณเป็นปลา ยังไม่มีวิวัฒนาการ แต่ผมเป็นคน เป็นเงือกเลยนะ”

ชาวเน็ตกู่ร้องด้วยความดีใจ!

ศึกชิงความโปรดปรานระหว่างหมู่ปลาไม่ใช่เรื่องลับอีกต่อไป ถึงขั้นที่ยกมาวางกันกลางเวทีแล้ว!

ฆ่าได้ฆ่า!

ดึงผมได้ดึง!

ขณะนั้น ทั้งคอมเมนต์ต่างพากันส่งเสียงกู่ร้อง

ศึกชิงความโปรดปรานในวังหลังของเซี่ยนอวี๋ กลายเป็นจุดสนใจของรายการ ต่อจากหลานหลิงอ๋องปากตะไกร!

หลายคนถึงกับอุทานว่า

ที่แท้เซี่ยนอวี๋ก็คือผู้ที่มีส่วนช่วยในการผลักดันเรตติงรายการมากที่สุด!

เหตุผลนั้นง่ายมาก!

หลานหลิงอ๋องเกี่ยวข้องกับเซี่ยนอวี๋!

ปลาทั้งหลายล้วนเกี่ยวข้องกับเซี่ยนอวี๋!

ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้มาเข้าร่วมรายการ แต่ทุกหนทุกแห่งของรายการนี้กลับเต็มไปด้วยร่องรอยของเซี่ยนอวี๋!

‘เดี๋ยวนะ’

ท่ามกลางความโกลาหล จู่ๆ ก็มีคนเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง ‘คิดๆ ดูก็น่ากลัวเหมือนกันนะ นักร้องที่เซี่ยนอวี๋สนใจมีแต่ฝีมือโหดๆ ทั้งนั้น!’

เอ๊ะ?

จริงด้วย!

จนถึงตอนนี้ปลาทั้งห้าตัวยังไม่ตกรอบ ซึ่งทำให้เห็นว่าปลาเหล่านี้ฝีมือแข็งแกร่งเพียงใด และยังทำให้เห็นทางอ้อมว่าสายตาของเซี่ยนอวี๋ในการคัดเลือกนักร้องที่จะมาร่วมงานด้วยนั้นเฉียบแหลมแค่ไหน

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แค่คิดก็สะพรึงแล้ว!

…………………………………………………….

[1] ปริศนาคดีสีเลือด (A Study in Scarlet) ผู้เขียนเซอร์ อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ เป็นคดีเปิดตัวนักสืบเชอร์ล็อก โฮล์มส์ โดยในฉบับภาษาไทยมีการแปลชื่อหนังสือเล่มนี้ออกมาแตกต่างกันหลายเวอร์ชัน ในที่นี้จะเลือกใช้ชื่อ ‘ปริศนาคดีสีเลือด’ แปลโดยวรางคณา ศิริวานนท์ ซึ่งให้ความหมายใกล้เคียงกับชื่อจากฉบับภาษาจีนมากที่สุด

[2] เรื่องพื้นฐาน มาจากคำพูดติดปากของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ “Elementary, my dear Watson” หมายถึง “เรื่องพื้นฐานนะ วัตสันเอ๋ย” บ่งบอกว่าโฮล์มส์ขึ้นชื่อว่าเป็นนักสืบซึ่งสันทัดด้านการอนุมานและใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ทว่าวลีนี้ล้วนมาจากภาพยนตร์และซีรีส์ฉบับดัดแปลง ไม่ได้ปรากฏในผลงานต้นฉบับโดยเซอร์ อาเธอร์ โคนัน ดอยล์

[3] พลิกป้าย มาจากธรรมเนียมสมัยโบราณ เมื่อจักรพรรดิถูกใจและต้องการเข้าร่วมห้องกับพระสนมคนใด จะพลิกป้ายหน้าห้องพระสนมคนนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน