Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 496

ตอนที่ 496 หอมหวนชวนกิน

แน่นอนว่าช่วงเวลาของชีวิตไม่ได้แบ่งเป็นช่วงเช้าและช่วงบ่าย

ยุคสมัยยังคงเป็นยุคสมัยนี้

แต่เมื่อผู้อ่านกลุ่มแรกอ่านหนังสือใหม่ของฉู่ขวงจบ ทิศทางลมก็เปลี่ยนไป

ไม่เพียงเหลิ่งกวง

ไม่เพียงคาเธอร์

และไม่เพียงรวมไปถึงชายผู้ซึ่งชื่นชอบถกเถียงทางปรัชญากับเพื่อนฝูง

การเปลี่ยนทิศทางของกระแสลมมักเกิดขึ้นจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หลังจากนั้นจึงเริ่มพัดออกไปอย่างเร่งเร็วประหนึ่งลมพายุสลายหมู่เมฆ

พรึบๆๆ!

ขณะที่ชาวเน็ตมากมายซึ่งยังคงคว่ำบาตรโฮล์มส์และไม่อาจรับรู้ได้อย่างถ่องแท้ ผู้อ่านกลุ่มแรกเริ่มซึ่งเดิมทีคอยค่อนแคะพร้อมกับทุกคน แต่แล้วก็หายตัวไปอย่างลึกลับ จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

มาพร้อมกับประโยคว่า ‘โฮล์มส์ผู้ยอดเยี่ยม เรื่องพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม’!

อะไรฟระ

ถูกอะไรเข้าสิงล่ะเนี่ย

ชาวเน็ตซึ่งยืนกรานจะไม่ซื้อหนังสือต่างพากันตกตะลึง จากนั้นพวกเขาจึงถูกกระแสคลื่นระลอกแล้วระลอกเล่าซัดสาด พร้อมกับมนตร์สะกดพร่ำกรอกใส่โสตประสาทครั้งแล้วครั้งเล่า

‘ฉู่ขวงเจ๋งเป้ง!’

‘ผมยอมแล้วค้าบ!’

‘ตอนแรกคิดว่าปัวโรต์เป็นนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบลูสตาร์แล้ว นึกไม่ถึงว่ายังมีโฮล์มส์ที่เก่งพอๆ กับปัวโรต์ ข้ายินดีมอบสมญานามยอดนักสืบให้แก่โฮล์มส์!’

‘ผมหลิวจิ้ง เห็นด้วยโดยประสงค์ออกนาม!’

‘สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อโจวเจ๋อ จะขอแนะนำไอดอลคนใหม่ของผมไว้ ณ ที่นี้ ชื่อของเขาคือเชอร์ล็อก โฮล์มส์’

‘…’

ชาวเน็ตซึ่งยังไม่ได้อ่านหนังสือก็ตระหนักได้ในที่สุด พวกเขาไม่ยอมถูกล้างสมอง พวกเขายังคงยืนหยัดต่อต้าน

เราคือพันธมิตรที่ไม่มีวันแตกหัก!

เราคว่ำบาตรโฮล์มส์…

เราคว่ำบาตร…

เราคว่ำ…

เรา…

เสียงของพวกเขาจมหายไป

เจตจำนงของพวกเขาเริ่มสั่นคลอน

จิตวิญญาณของพวกเขาค่อยๆ แตกสลาย

พวกเขายื่นมือขวาจอมทรยศออกมา พวกเขาก้าวสองเท้าอันชั่วร้ายออกมา พวกเขาเริ่มกดสั่งหนังสือ พวกเขาเริ่มออกไปยังร้านหนังสือ

จนกระทั่ง…

พนักงานแคชเชียร์ยิ้มอ่อนมองพวกเขา “ขายหมดเกลี้ยงเลยครับ แม้แต่หยดเดียวก็ไม่เหลือครับ”

พวกเขาเดินคอตกออกมาจากร้านหนังสือ

เจ้าของร้านซึ่งอยู่ด้านหลังพนักงานแคชเชียร์ตบอก หนังสือหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่หยดเดียวจริงๆ แต่น้ำตาของพวกเขา หยดเผาะๆ แล้วเนี่ย

พวกคุณคว่ำบาตรไม่ใช่หรอกหรือ?

พวกคุณตอบว่า ‘ไม่รู้’ ไม่ใช่หรอกหรือ?

ฉันว่าพวกคุณก็รู้อยู่นะ!

มีแค่ร้านหนังสืออย่างพวกเราที่ไม่รู้อะไรเลย!

ฉู่ขวงหลอกลวงฉัน! คนอ่านของฉู่ขวงก็หลอกลวงฉัน!

คนประเภทเดียวกันมักจะคบค้าสมาคมกัน แฟนคลับฉู่ขวงอย่างพวกคุณมันรู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่ได้ต่างอะไรกับเจ้าแก่ฉู่ขวงเลยสักนิด!

เป็นผู้ชายเฮงซวยเหมือนกันหมดเลยสินะ!

ทรยศต่อความรู้สึกของร้านหนังสืออย่างพวกเราได้ลงคอ!

เอาเถอะ

ร้านหนังสือบางร้านก็สั่งหนังสือเข้าสต็อกด้วยจำนวนปกติ

ร้านหนังสือหลายแห่งยังคงมีความกลัวฝังใจเกี่ยวกับหนังสือกระบี่เทพสังหาร พวกเขาจึงระมัดระวังทุกฝีก้าว

ความกลัวนี้ทำให้พวกเขาเสียหายอย่างหนัก แต่ในวันนี้เองพวกเขาก็รับการชดเชยในระดับหนึ่งในลักษณะเดียวกัน

พวกเขาไม่จำเป็นต้องเผชิญกับความกระอักกระอ่วนเมื่อต้องเติมสต็อกอย่างเร่งด่วนอีก

เจ้าของร้านหนังสือซึ่งสั่งหนังสือยอดนักสืบโฮล์มส์เข้ามาในปริมาณมากยกยิ้มอย่างรู้ทัน จากนั้นพนักงานด้านข้างซึ่งกำลังง่วนกับงานก็เอ่ยขึ้น “ก่อนที่อาหารจะสุก คนเรามักไม่ทันได้ตระหนักถึงความหิวโหยของตนเอง เมื่อไหร่ที่อาหารยกมาวางตรงหน้า พวกเขาถึงนึกขึ้นมาได้ว่า…”

“หิวมาก?”

“ฉันว่าไม่ใช่นะ ลองดูสักหน่อยดีกว่า”

เจ้าของร้านมองไปทางประตู เป็นอาหารกลางวันแบบเดลิเวอรีซึ่งเขาสั่งมาให้กับพนักงาน และแถมน่องไก่ให้ด้วย

“หอมหวนชวนกินสุดๆ!”

พนักงานต่างกินอาหารซึ่งเจ้าของร้านสั่งมา ที่แท้พวกเขาก็ไม่ได้พูดว่า ‘หิวมาก’ ในขณะนั้นทั้งร้านหนังสือเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศแห่งความชื่นมื่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน