ขณะที่แสงไฟดับลง
หลินเยวียนวางไมโครโฟน
เห็นได้ชัดว่าเพลงร้องจบแล้ว แต่ด้วยเสียงเปียโนอันไพเราะของวงดนตรีสด ความโศกเศร้าดูเหมือนจะยังคงรินไหลเข้าสู่หัวใจของผู้ชม เสียงแหบแห้งแต่เปี่ยมเสน่ห์ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของผู้ชม
“แม่เจ้าโว้ย!”
“มาเหนือเมฆ!”
“โหดขึ้นมาเฉย?”
“แบบนี้จะพลิกโผได้”
“ฟังแล้วร้องไห้เลย เพลงนี้ผมต้องกลับไปโหลดฟัง ฉันควรอยู่ใต้ท้องรถ ไม่ควรไปอยู่ในรถ เพลงนี้เขียนในวันที่ภรรยาผมนอกใจหรือเปล่าเนี่ย”
“พี่ชายอดทนไว้!”
“เข้มแข็งไว้พี่ชาย!”
“ไม่มีอะไรให้ต้องอดทน ตอนนั้นผมเองก็อยากไปอยู่ใต้ท้องรถให้รู้แล้วรู้รอด แต่ถ้าเกิดพวกเขาทำเรื่องอะไรขึ้นมา ผมอยู่ใต้ท้องรถคงทรมานมากกว่าอยู่ในรถแน่ๆ”
“…”
เป็นเพลงพ็อปเหมือนกัน บรรยายเรื่องราวความรักเหมือนกัน เป็นความรู้สึกอกหักเหมือนกัน ทว่าเมื่อนำผลงานของปลาหัวโตมาวางคู่กับผลงานของหลานหลิงอ๋อง เรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้คงคาดเดาได้ไม่ยาก!
แปะๆๆ!
เมื่อเสียงดนตรีจบลง เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องส่ง มอบให้แด่หลานหลิงอ๋องผู้ซึ่งไม่สบายจนเสียงแหบแห้งแต่ยังคงยืนหยัดร้องเพลงต่อไป และมอบให้แด่การอุทิศตนในครั้งนี้ของเขา น่าจะเป็นเสียงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดบนเวทีแห่งนี้!
“เอาละครับ!”
อันหงเดินไปยังเวที ทั้งยังอุตส่าห์นำน้ำขึ้นไปให้หลานหลิงอ๋อง แน่นอนว่ามาพร้อมกับหลอด “ขอบคุณสำหรับการแสดงของอาจารย์หลานหลิงอ๋องครับ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะครับว่านักร้องสักคนหนึ่งจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นนี้ในยามที่เสียงแหบพร่า คณะกรรมการตัดสินมีอะไรอยากพูดไหมครับ”
“ผมมี!”
เยี่ยจือชิวเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก จากนั้นจึงร้องเพลงเลียนเสียงหลานหลิงอ๋องเมื่อครู่อยู่หลายประโยค สุดท้ายจึงเอ่ยอย่างจนใจ “ครั้งก่อนหลานหลิงอ๋องร้องเพลงจนผมรู้สึกขาดอากาศหายใจ ครั้งนี้ร้องเพลงจนผมรู้สึกหายใจติดๆ ขัดๆ ตอนที่หลายคนคิดว่าเขาคงจะไปต่อ เขากลับไม่มีลม แต่รูปแบบการแสดงประเภทนี้กับเหมาะเจาะลงตัวกับเพลงนี้อย่างยิ่ง!”
“น่าทึ่งมาก!”
สีหน้าของเจิ้งจิงในเวลานี้ตกตะลึง “เห็นชัดๆ เราทุกคนคิดว่าการแสดงของหลานหลิงอ๋องจะได้รับผลกระทบเนื่องจากปัญหาด้านเสียงของเขา แต่ฉันมองเห็นหลานหลิงอ๋องผู้ไม่ยอมจำนนต่ออุปสรรค!”
“เก่งมาก!”
อิ่นตงยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย
หยางจงหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก่อนหน้านี้ผมเคยบอก ว่าผมจะไม่ให้คะแนนเห็นใจเพียงเพราะเสียงของคุณ ดังนั้นประเดี๋ยวตอนที่ผมให้คะแนนคุณ จะหมายความว่าผมชอบเพลงนี้ของคุณ นี่เป็นเพลงเชิงพาณิชย์ซึ่งเรียกได้ว่าคุณภาพโดดเด่นและประสบความสำเร็จมาก ทั้งเนื้อร้อง ทำนอง และเสียงร้องเข้ากันได้อย่างลงตัว!”
คำวิจารณ์เชิงบวก!
มีแต่คำวิจารณ์เชิงบวก!
แน่นอนว่าคณะกรรมการทั้งสี่ก็ชื่นชมการแสดงของปลาหัวโตเช่นกัน เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าผลงานในเวทีนี้ของปลาหัวโตเป็นรองหลานหลิงอ๋อง ดังนั้นเมื่อประกาศผลคะแนน เธอจึงพ่ายแพ้ไปอย่างไม่ต้องสงสัย
“เยี่ยมมาก!”
แม้ว่าจะแพ้ แต่ปลาหัวโตกลับไม่ได้เสียใจ เธอมีท่าทีสบายใจ เพราะการก้าวเข้าสู่รอบสิบสองคนสุดท้ายคือขีดจำกัดของเธอแล้ว เธอรู้ว่าคงเป็นเรื่องยากที่ตนเองจะหาโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมาในการท้าชิงต่อจากนี้ นอกเสียจากว่าจะแข่งกับหลานหลิงอ๋องต่อไป…
แต่เธอไม่ต้องการทำเช่นนั้น
เพียงแค่ยอมรับความพ่ายแพ้เท่านั้นเอง
เมื่อกลับไปยังห้องรับรองของตน หลินเยวียนผ่อนลมหายใจ ถงถงรีบยกน้ำชาเข้ามาให้ ทั้งยังช่วยตบหลังเขาเบาๆ “เวทีนี้ของอาจารย์หลานหลิงยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ เสียงแหบของคุณเจ๋งสุดๆ!”
หลินเยวียนไม่ได้พูดอะไร
โชคดีที่เขาเตรียมเพลงล่วงหน้าไว้มากพอ ไม่อย่างนั้นในเวทีนี้คงหนักหน่วงมาก
การแข่งขันต่อจากนั้นดุเดือดมาก
หุ่นยนต์แพ้เทพีแห่งการล้างแค้น หมาป่าเดียวดายแพ้หงส์ขาว ส่วนนางเงือกแพ้ดอกเดซี เอล์ฟเอาชนะปลายักษ์ และมหาราชาชนะปลาปักเป้า
ในนั้น
นางเงือกทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด คะแนนโหวตของเธอเกือบเทียบเท่าดอกเดซี ดอกเดซีคนนี้เป็นผู้เข้าแข่งขันระดับราชินีเพลงจากทีมที่สอง ถึงแม้จะเป็นราชินีเพลงซึ่งฝีมือค่อนข้างอ่อน แต่นางเงือกสามารถทำคะแนนขึ้นเบียดเข้าใกล้เช่นนั้นได้นับว่าไม่ได้มาเล่นๆ!
แน่นอน
ศึกระหว่างราชาราชินีเพลงอย่างหุ่นยนต์และเทพีแห่งการล้างแค้น รวมไปถึงหมาป่าเดียวดายและหงส์ขาวก็ตื่นตาตื่นใจเช่นกัน ตื่นตาตื่นใจถึงระดับที่เกินต้านทาน สอดคล้องกับกฎการแข่งขันในรอบนี้อย่างสมบูรณ์แบบ
……
จากกฎของการแข่งขัน นักร้องที่ชนะจะต้องยอมรับคำท้าจากผู้แพ้ ฉะนั้นเมื่อการแข่งขันรอบแรกจบลง ทุกคนจึงไปรวมตัวกันบนเวที ผู้ชนะและผู้แพ้ถูกแบ่งที่นั่งเป็นสองฝั่ง
ทันใดนั้นเอง
สายตาของทุกคนต่างไปรวมกันที่หลานหลิงอ๋อง ถึงแม้หลานหลิงอ๋องจะชนะในรอบแรก แต่เสียงของเขามีปัญหาจริงๆ และดูไลน์อัปผู้ชนะสิ
มหาราชา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน