นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่ผู้ชมบนบลูสตาร์ได้รับชมภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาในลักษณะของภาพยนตร์ตลก!
ด้วยแนวโน้มของความรู้สึกแปลกใหม่นี้เอง ผู้ชมในโรงฉายจึงรับชมภาพยนตร์กันอย่างได้อรรถรส!
หลงหยางมั่นใจเหลือเกิน
ว่าทุกคนชื่นชอบเรื่องราวจนถึงตอนนี้
สไปเดอร์แมนเป็นคนฉลาดและช่างพูด คุณสมบัติทั้งสองประการนี้ชวนให้ผู้คนชื่นชอบ
แต่หากอาศัยบรรยากาศตลกขบขันเบาๆ มาสร้างตัวละคร คงจะดูตื้นเขินเกินไป?
ในเมื่อเซี่ยนอวี๋สามารถคิดได้ถึงขั้นเดินสวนทาง สร้างซูเปอร์ฮีโร่ซึ่งสวมเปลือกนอกของความตลกขบขัน เขาคงขบคิดเรื่องนี้มาแล้วสินะ?!
แกนหลักของสุขนาฏกรรม ควรมีองค์ประกอบของโศกนาฏกรรม…
เป็นดังคาด
ในการดำเนินเรื่องต่อจากนั้น ไม่ได้มีเพียงความสนุกสนานและตลกขบขันอีกต่อไป
ในโรงเรียน
เนื่องจากถูกเพื่อนร่วมชั้นยั่วยุ ปีเตอร์จึงใช้พลังของคนเอง สั่งสอนให้อีกฝ่ายหลาบจำ
วันรุ่งขึ้น
ลุงของปีเตอร์ ซึ่งเป็นคนชราธรรมดา ได้สนทนากับปีเตอร์อย่างลึกซึ้ง และยังกล่าวถึงการต่อสู้ของปีเตอร์กับใครบางคนที่โรงเรียน เขาพูดกับปีเตอร์อย่างจริงใจว่า “ในบางครั้ง พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง”
ไม่ต้องบอกก็รู้
ว่าบทสนทนานี้ไม่ได้ราบรื่นนัก ปีเตอร์คิดว่าลุงของเขาจู้จี้จุกจิกเกินไป เป็นอีกฝ่ายยั่วยุตนเองก่อน เป็นวัยรุ่ยคือช่วงวัยที่เลือดร้อนกันเป็นธรรมดา โดยเฉพาะเมื่อตอนนี้เขามีพลังแข็งแกร่งไว้ในครอบครอง
ลุงกล่าวอย่างจนใจ “ลุงไม่ใช่พ่อของเธอ…”
ปีเตอร์รู้สึกประหนึ่งถูกยั่วโมโห “งั้นลุงก็อย่าแสร้งทำตัวเป็นพ่อผมหน่อยเลย!”
สีหน้าของลุงผิดหวัง “ก็ได้…”
ปีเตอร์อ้าปากพะงาบ รู้สึกเสียใจกับคำพูดขณะบันดาลโทสะของตน แต่ท้ายที่สุดแล้วเขากลับไม่ได้อธิบาย อันที่จริงในใจเขา ลุงไม่ได้ต่างกับพ่อเลย
ตกเย็น
ปีเตอร์เข้าร่วมการแข่งขันมวยปล้ำใต้ดินเพื่อระบายความโกรธ
ที่บ้าน
ลุงเห็นว่าปีเตอร์ยังไม่กลับบ้าน จึงนึกถึงบทสนทนาอันอึดอัดเมื่อช่วงกลางวัน เขาอดรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้ จึงรีบออกไปตามปีเตอร์ซึ่งกับบ้านช้าเช่นนี้
ไม่ต้องสงสัยเลย
ปีเตอร์เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ทั้งหมด แต่เมื่อปีเตอร์ชนะการแข่งขัน แต่กลับถูกทางผู้จัดงานตลบหลัง
ในประกาศบอกว่าผู้ชนะจะได้รับรางวัล 50,000 หยวน!
แต่ผู้จัดกลับหาข้ออ้างต่างๆ นานา และมอบเงินรางวัลให้สไปเดอร์แมนเพียง 5,000 หยวน
ปีเตอร์อยากเถียง
แต่ผู้จัดกลับชี้ไปยังประโยคสุดท้ายในป้ายประกาศว่า ‘สิทธิ์ในการตีความทั้งหมดเป็นของผู้จัดงาน’
ประโยคนี้ช่างกำกวมเหลือเกิน
ผู้ชมบางคนแสดงสีหน้าโกรธเคือง
เห็นได้ชัดว่า
หลายคนเคยเจอสถานการณ์เช่นนี้ในชีวิตจริง
ปีเตอร์อยากต่อยอีกฝ่าย ถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ ปีเตอร์คงทำโดยไม่ลังเล แต่หลังจากกำหมัดแน่น ปีเตอร์ก็อดกลั้นไว้ได้ในที่สุด
‘พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง’
สุดท้าย แล้วคำพูดของลุงก็มีผลกระทบกับเขา ไม่ได้ใช้พลังของตนในทางที่ผิด
ในเวลานี้เอง
มีหัวขโมยคนหนึ่งปรากฏตัว และขโมยเงินจากผู้รับผิดชอบไปหมดเกลี้ยง
ผู้รับผิดชอบขอร้องให้ปีเตอร์ช่วย ปีเตอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าสุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบ
เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายสมควรได้รับผลกรรม
ถึงอย่างไรก็ยังมีความคับข้องใจที่ต้องระบาย
หลังจากออกจากเวทีมวยปล้ำใต้ดิน ปีเตอร์กำลังจะกลับบ้าน ทว่าทันใดนั้นเองเขากลับได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาแต่ไกล
เขาวิ่งไปตามสัญชาตญาณ
แต่ถึงกระนั้น เมื่อปีเตอร์เห็นผู้เคราะห์ร้าย เขาก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันใด!
ลุงของเขาถูกยิง!
“ไม่นะ….”
ปีเตอร์รู้สึกสับสน เขากำมือของลุงไว้แน่น
ลมหนาวพัดเข้าปากเขาประหนึ่งใบมีดคมกริบ น้ำตาของเขารินไหลอย่างเงียบเชียบ
“ปีเตอร์…”
ช่วงเวลาที่ลุงเห็นปีเตอร์ เขากำลังจะสิ้นใจ
มือซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งอายุขัย จับมือของปีเตอร์ไว้แน่น และสุดท้ายมือก็หล่นลงไปอย่างอ่อนแรง
ทั้งโรงภาพยนตร์
ล้วนเงียบกริบ
เสียงหัวเราะในโรงฉายเงียบลงเป็นครั้งแรก ฉากนี้เศร้ามาก นี่เป็นครั้งแรกซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ลิ้มลองรสชาติของความเงียบสงัด
“คนร้ายหนีไปทางถนนหมายเลขห้า ขอกำลังตำรวจสกัดจับ”
ทางตำรวจรุดมาถึงแล้ว และพูดกับวิทยุสื่อสาร
ปีเตอร์ชำเลืองมองลุงเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังถนนหมายเลขห้า
เขาต้องการแก้แค้น!
ฉากนี้ไม่มีคำพูด ปีเตอร์กลายเป็นสไปเดอร์แมน ทะยานไประหว่างตึกต่างๆ จนท้ายที่สุดก็จับตัวคนร้ายได้สำเร็จ
แต่ว่า…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน