ตอนที่ 571 ฉันได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจริงหรือ – ตอนที่ต้องอ่านของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนนี้ของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเงินทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 571 ฉันได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจริงหรือ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลังจากที่เห็นว่านี่เป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้นที่ผู้อ่านหลายคนจึงตระหนักได้ทันที…
ตนเหมือนว่าอ่านการเดินทางสู่ประจิมทิศไม่เข้าใจ?
สิ่งที่ขาใหญ่เห็น คือความหมายแฝงของในนิยาย คืออุปมาในเนื้อเรื่อง คือชั้นเชิงของโครงเรื่อง
ปรากฏว่าผู้อ่านทั่วไปอ่านไปพลางร้องว่า
‘ซุนหงอคงสุดยอด!’
‘พญาวานรสุดยอดมาก!’
คลาดเคลื่อนไปจากประเด็นสำคัญ!
เนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้ยอดเยี่ยม
ทว่าความยอดเยี่ยมที่แท้จริงของการเดินทางสู่ประจิมทิศคือสิ่งเหล่านั้นซึ่งควรค่าแก่การขบคิด หรือแม้แต่พินิจพิจารณา
อุปมาและความนัยล้วนมีอยู่ทุกที่!
สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่แท้จริง คือความจริงอันน่าตกใจซึ่งนิยายไม่ได้เขียนออกมาชัดเจน แต่กลับถูกเปิดเผยระหว่างบรรทัด!
มิน่าล่ะอดีตประธานสมาคมวรรณศิลป์ถึงได้ออกตัวสนับสนุนการเดินทางสู่ประจิมทิศถึงได้!
ผ่านไปไม่นาน
การตีความนี้แพร่สะพัดไปในหมู่ผู้อ่าน สักพักหนึ่ง ผู้อ่านซึ่งชื่นชอบบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็มั่นใจขึ้นมา
‘ขาใหญ่สุดยอดไปเลย!’
‘ที่แท้การเดินทางสู่ประจิมทิศก็อ่านกลับหลังได้ด้วย!’
‘ผมคิดว่านี่คือเรื่องราวที่เหมาะสมกับทุกคนในครอบครัว นึกไม่ถึงว่าการเดินทางสู่ประจิมทิศที่แท้จริงจะมืดมนขนาดนี้’
‘คิดแค่ว่าอาจารย์และลูกศิษย์ทั้งสี่คนเดินทางไปยังตะวันตกเพื่อกำจัดความชั่วร้าย ผดุงความดีงามแต่ปีศาจที่มีเบื้องหลังไม่ตายแม้แต่ตนเดียว นี่มันนิยายเทพปกรณัมที่ไหนกัน นี่มันสมจริงซะยิ่งกว่าสมจริง!’
‘ตอนนี้ฉันรู้สึกสงสารซุนหงอคงเลย’
‘กลายเป็นโต้วจ้านเซิ่งฝัวตะวันตก ฟังดูดีอยู่หรอก แต่ที่จริงแล้วเห็นชัดๆ ว่านี่เป็นเรื่องราวของการต่อต้านที่ล้มเหลว ถูกพระตถาคตปราบปราม และเรียกตัวไปรับตำแหน่ง’
‘ซุนหงอคง สุดท้ายแล้วสูญเสียสัญชาติญาณดิบ’
‘คิดตามแล้วก็อดเศร้าไม่ได้ รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังมีชีวิตอยู่ในบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ มีความกดดันของหงอคง มีร่างกายคล้ายโป๊ยก่าย หัวล้านเหมือนซัวเจ๋ง ขี้บ่นขี้งอแงเหมือนภิกษุถัง’
‘ทำไมยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าโดนการเดินทางสู่ประจิมทิศหลอก?’
‘…’
บทวิจารณ์หนังสือกระหน่ำเข้ามาราวกับดอกเห็ดซึ่งผุดขึ้นหลังฝนตก
เพียงแค่เปิดเว็บบอร์ดยอดนิยมสักแห่ง ย่อมเห็นความคิดเห็นมากมายหลายสิบหน้าให้ตามอ่านได้ไม่รู้จบ
นอกจากนั้น
การตีความนี้ยังทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้น กระตุ้นให้ผู้คนขบคิดอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับโครงเรื่องมากขึ้น
การตีความซึ่งยิ่งอ่านยิ่งลึกซึ้ง!
หลากหลายมุมมองที่แตกต่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ !
ชาวเน็ตอ่านจนตกตะลึง!
ถึงขั้นที่มีคนกล่าวว่า สิ่งที่เรียกว่าการเดินทางสู่ประจิมทิศ นั้นเป็นการบำเพ็ญตนของภิกษุถังเพียงคนเดียว!
ซุนหงอคง ตือโป๊ยก่าย และซัวเจ๋งล้วนไม่มีตัวตนอยู่จริง!
เพราะฉะนั้น
ทันทีที่คำวิจารณ์นี้ปรากฏขึ้น ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศได้นับไม่ถ้วน!
ไม่เพียงเพราะการตีความนี้น่าตื่นเต้นเพียงพอ แต่ยังเป็นเพราะผู้เขียนบทวิจารณ์หนังสือเล่มนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจารณ์หนังสือซึ่งมีชื่อเสียงบนอินเทอร์เน็ต และแม้แต่เป็นนักวิชาการในแวดวงวัฒนธรรม
หัวข้อความคิดเห็นของเขาคือ ‘บางทีในการเดินทางสู่ประจิมทิศ อาจมีภิกษุถังเพียงคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ’
ถ้าไม่อ่านเนื้อหา ปฏิกิริยาแรกของใครหลายคนเมื่อเห็นมุมมองนี้คือ…
ไร้สาระ!
คำพูดซึ่งทำให้ตื่นตกใจ!
น่าตกใจยิ่งกว่าซุนหงอคงถูกแทนที่ด้วยวานรหกหูเสียอีก!
รู้สึกว่าการตีความมากมาย ล้วนทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจากสาธารณะ!
ถึงขั้นที่มีคนบริภาษออกมาทันที
ประเด็นสำคัญคือ คนเหล่านี้รวบรวมเรื่องราวเหล่านี้เข้าด้วยกัน ทำให้คนรู้สึกถึงความสมเหตุสมผล!
ในช่วงเวลานี้
ผู้อ่านไม่เพียงงุนงง
หลายคนเริ่มสับสนแล้ว…
ความคิดของพวกเขาเริ่มจาก ‘พวกเราอ่านหนังสือเรื่องเดียวกันหรือเปล่า’ กลายเป็น ‘ฉันได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจริงหรือ’
การตีความเหล่านี้เหนือชั้นเกินไป!
เช่นนั้นการตีความไหนถูกต้องล่ะ
การเดินทางสู่ประจิมทิศในความจริงแล้ว…
เป็นอย่างไรกันแน่?
บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศที่ฉู่ขวงเขียน มีความหมายซ่อนอยู่มากแค่ไหนกัน
เรื่องเหล่านี้หากฉู่ขวงไม่ได้แถลงไขให้ชัดเจน คนนอกไม่มีทางกระจ่าง
แต่ไม่ต้องสงสัยเลย
ไม่ว่าการตีความจะเป็นอย่างไร ข้อสันนิษฐานรูปแบบไหน ล้วนบ่งบอกอย่างชัดเจนได้เพียงว่าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศไม่ธรรดา
ในเวลานั้น ถึงขั้นมีคนอดไม่ไหว กลับไปอ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศอีกรอบ
รอบแรก กลืนทุกสิ่งลงในคำเดียว รีบร้อนเกินไป
รอบที่สอง หลายคนอ่านซ้ำ พร้อมกับทัศนคติซึ่งมุ่งมั่นศึกษาอย่างจริงจัง การตีความหลากหลายรูปแบบส่งผลให้เรื่องราวบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศควรค่าแก่การศึกษา
คนเหล่านี้คือผู้อ่านซึ่งสนใจศึกษาค้นคว้าอย่างลึกซึ้ง
เมื่อเทียบกันแล้ว
ผู้อ่านซึ่งไม่ได้สนใจอย่างลึกซึ้งมากนัก และชอบอ่านบทสรุปในการถกเถียงระหว่างเหล่าขาใหญ่ ได้เบนความสนใจไปยังบรรดาแฟนคลับบรรพกาลซึ่งก่อนหน้านี้โจมตีบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศสารพัดรูปแบบมาโดยตลอด…
[1] ใจวานร เปรียบเปรยถึง ความซุกซนและอยู่ไม่สุข
[2] เห้งเจีย ถอดความตามตัวอักษรจะหมายถึง ผู้ที่เดิน หรือผู้ที่เคลื่อนที่ และหากแปลความหมายทางพุทธศาสนาหมายถือผู้ถือพรตซึ่งไม่โกนศีรษะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...