เสี่ยวหมิงกลืนน้ำลาย…
เสี่ยวเฉาตื่นเต้นจนตัวสั่น…
ขณะที่ทั้งห้องเริ่มถามเสี่ยวหมิงและเสี่ยวเชาอย่างกระตือรือร้นว่าเพลงอะไร เพลง ‘หงอคง’ ได้จุดประเด็นถกเถียงบนโลกออนไลน์นับไม่ถ้วน
‘เพลงนี้สุดจัดปลัดบอก!’
‘นี่คือเดือดสู้เพลงเอ้อร์หลางไม่ได้?’
‘ถ้าแข่งกันเรื่องซีรีส์ อิทธิพลของบรรพกาลน่ากลัวจริงๆ เซี่ยนอวี๋เองก็ไม่กล้าบอกว่าสามารถเอาชนะบรรพกาลได้ แต่ถ้าแข่งกันด้านเพลงโปรโมต อย่าลืมว่าพ่อเพลงอวี๋เป็นใคร!’
‘ไม่ต้องมาสอนเซี่ยนอวี๋เขียนเพลง!’
‘ตอนนี้เปิดวนไป ฟังแล้วร้องไห้เลย เล่นซ้ำไปเรื่อยๆ เพลงนี้ตีความหงอคงเหมือนกับที่ฉันเข้าใจบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเลย หงอคงไม่ได้อาสาเดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่ชมพูทวีป’
‘ขนลุก’
‘ฟังจบแล้วมีคำพูดอยู่ในใจเป็นหมื่นล้านคำ สุดท้ายแล้วรัดเกล้าเหนือเศียรถ่วงใจไม่เอื้อนเอ่ย เนื้อเพลงท่อนสุดท้ายคงร้องให้กับบรรพกาล แข่งกันเรื่องนิยายพวกคุณสู้ฉู่ขวงไม่ได้ แข่งกันเรื่องเพลงพวกคุณก็สู้เซี่ยนอวี๋ไม่ได้ นี่คือกระบองนี้ปัดเป่าเจ้าเป็นเถ้าถ่าน!’
‘เขียนถึงหงอคงไว้อย่างชัดเจน!’
‘มีคนบอกว่าเพลงนี้ไม่เดือด แต่กลับบอกว่าให้ความรู้สึกเศร้าโศกและจนใจ ผมเองก็รู้สึกแบบนี้ แต่ไม่ว่าเพลงนี้จะเดือดหรือไม่ ก็ไม่ได้ทำให้ผมชอบเพลงนี้น้อยลง ฉันทลักษณ์โบราณและความรู้สึกอันลึกซึ้งผสานกันอย่างลงตัว ทั้งโอหังและเป็นอิสระไปพร้อมกัน ในเนื้อเพลงปรากฏสำเนียงการร้องงิ้วอยู่หลายท่อน!’
‘สุดยอด!’
‘ฉันคิดว่าท่อนเอ่ยเรียกพุทธองค์จะเป็นท่อนพีคซะอีก แต่ไม่ใช่ ฉันคิดว่าท่อนใช้กระบองนี้ทำสิ่งใดจะเป็นจุดสำคัญ แต่ไม่ใช่ กลับเป็นท่อนกระบองนี้ ปัดเป่าเจ้าเป็นเถ้าถ่าน!’
‘…’
หยางเจี่ยนและซุนหงอคงใครเก่งกว่ากันนั้นไม่อาจบอกได้ แฟนบรรพกาลและแฟนบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศล้วนถูกลิขิตมาให้มีความคิดต่างกัน ทว่าเมื่อนำเพลงเอ้อร์หลางมาเปรียบเทียบกับเพลงโปรโมตนี้ของเซี่ยนอวี๋ กลับเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน!
ไม่ใช่เพลงเอ้อร์หลางนั้นไม่ดี!
ทว่าเพลงหงอคงนั้นดีเกินไป!
ถึงอย่างไรสิ่งที่ใช้แข่งกันระหว่างเพลงโปรโมตคือดนตรี!
อันที่จริงมีหลายคนสังหรณ์ใจถึงฉากนี้เมื่อเห็นเซี่ยนอวี๋ขับร้องเพลงโปรโมตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ เซี่ยนอวี๋เขียนเนื้อเพลง เซี่ยนอวี๋เขียนทำนอง เซี่ยนอวี๋ขับร้อง…
แบบนี้ใครจะไปรับมือไหว?
เพลงของบุคคลระดับนี้ แต่ไหนแต่ไรมาดึงดูดแฟนคลับได้ง่าย เพราะฉะนั้นเมื่อเพลงหงอคงโด่งดัง หลายคนซึ่งไม่ได้อ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ และไม่ได้สนใจนิยาย จึงเกิดความสนใจต่อซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ และนี่คือบทบาทสำคัญของเพลงโปรโมต
นอกจากนั้น
เพลงหงอคนนี้ ยังก่อให้เกิดการตีความเกี่ยวกับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศและซุนหงอที่มากขึ้น ผู้คนจากโลกภายนอกจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าคงบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศซุนหงอคงออกเดินทางไปยังทิศตะวันตกด้วยความจนใจ และท้ายที่สุดแล้วจึงเป็นเรื่องน่าเศร้าที่วานรตัวหนึ่งได้ขึ้นเป็นโต้วจ้านเซิ่งฝัว
สูญเสียอิสระ
ถูกบีบบังคับ
วานรซึ่งก่อเรื่องในวังสวรรค์อย่างไม่อนาทรร้อนใจ ท้ายที่สุดกลับต้องมาถูกล่ามตรวน เช่นเดียวกับบทสวดรัดเกล้าบนศีรษะของเขา นี่คือการบีบบังคับ มิฉะนั้นจะอธิบายเรื่องที่ปีศาจทั้งหลายซึ่งมีเบื้องหลังนั้นรอดพ้นจากความผิดว่าอย่างไร ส่วนซุนหงอคงทำความผิดเล็กๆ น้อยๆ ก็ถูกพระยูไลนำไปขังไว้ใต้หุบเขาห้านิ้วตั้งห้าร้อยปีแล้ว
ใช่แล้ว
ทุกคนต่างชื่นชอบซุนหงอคง เพราะทุกคนไม่คิดว่าซุนหงอคงก่ออาชญากรรมรุนแรงกระไรปานนั้น เมื่อวานรไม่ฟังคำสั่ง มนุษย์มีสิทธิ์อะไรจึงมาบีบบังคับวานร เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นสวรรค์หรือบนโลกในบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ล้วนทารุณซุนหงอคงมากเกินไป ทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ในการเดินทางสู่ประจิมทิศล้วนดำเนินชีวิตไปตามครรลองซึ่งถูกกำหนดไว้แล้ว
ในความเป็นจริง
ต่อให้เป็นผู้ที่ศึกษาบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศโดยละเอียด ก็ยังพบว่าวานรตัวนี้ไม่เคยกินมนุษย์ถึงแม้ว่ามันจะมีพละกำลังมหาศาลก็ตาม บางคนกล่าวว่าซุนหงอคงกินมนุษย์โดยอ้างอิงจากคำบรรยายของพญาวานรเอง ‘เมื่อข้ายังเป็นปีศาจวานรอยู่ที่ถ้ำม่านน้ำ หากนึกอยากกินเนื้อมนุษย์ขึ้นมา ข้าจะทำเช่นนี้ แปลงกายเป็นเงินทอง หรือไม่ก็เคหาสน์หรู หรือไม่ก็คนเมา หรือไม่ก็สาวงาม เมื่อมีพวกโง่งมหลงรักข้า ข้าย่อมหลอกล่อเข้ามาในถ้ำดังใจปรารถนา บางครั้งก็นึ่ง บางครั้งก็ต้ม หากกินไม่หมดก็แขวนตากไว้ป้องกันฟ้าครึ้ม!’
เมื่อเชื่อมโยงบริบททั้งหมดเข้าด้วยกัน
ซุนหงอคงกำลังคุยโว
เพราะซุนหงอคนเพิ่งเอ่ยเรื่องนี้กับภิกษุถัง เมื่อปีศาจหนูขาวแปลงร่างเป็นสาวงามเพื่อล่อลวงภิกษุถัง เหตุผลสำคัญก็เพื่อเตือนภิกษุถังว่าอย่าได้ถูกปีศาจหลอกให้สับสน นอกจากนั้นเขาไม่เคยบอกว่าตนเคยกินมนุษย์ ทั้งยังบอกว่าตนเป็นประเภทที่ชอบกินผลแตงด้วยซ้ำไป
เนื้อเรื่องช่วงอาณาจักรไก่ดำ
มีช่วงหนึ่งในต้นฉบับกล่าวว่า ‘เมื่อโป๊ยก่ายย่ำเท้าเข้าไปหมายพ่นลมหายใจ ซำจั๋งรั้งเขาไว้กล่าวว่า ไม่ได้ เรียกหงอคงมาย่อมดีกว่า อาจารย์ท่านนั้นเกิดความคิด ที่แท้ตือโป๊ยก่ายกินมนุษย์และสร้างหายนะตั้งแต่เยาว์วัย มีลมหายใจอันสกปรก ส่วนเห้งเจียเป็นผู้บำเพ็ญตน กินผลหมากรากไม้ตั้งแต่เกิด มีลมหายใจสะอาด’
หมูตัวนี้กินคนจริงๆ
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้อ่านจะยอมรับได้ ในโลกของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเทพเซียนและภูตผีปีศาจอยู่รวมกัน คนกินหมูได้ หมูย่อมกินคนได้เช่นกัน มีปีศาจบางชนิดคิดจะกินสมองลิงด้วยซ้ำไป
……
ทางฝั่งของสื่อก็คึกคักไม่แพ้กัน สำหรับสื่อ สงครามระหว่างบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศและบรรพกาล ไม่ได้ต่างอะไรกับงานเลี้ยงรื่นเริงงานหนึ่ง
‘การต่อสู้ระหว่างบรรพกาลและบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศปิดฉากลง หงอคงเปิดตัวอลังการ!’
‘เพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋ หงอคง ติดกระแส!’
‘เซี่ยนอวี๋หนุนฉู่ขวง ปล่อยเพลงโปรโมตข่มบรรพกาล!’
‘หลังจากเอ้อร์หลางโด่งดังเป็นพลุแตก หงอคงก็ล้างกระดาน!’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน