ผลลัพธ์นี้ช่างเหลือเชื่อมาก…
เหลือเชื่อจนทุกคนเริ่มสงสัยว่าฉู่ขวงรับคำท้าประชันวรรณกรรมในครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อเอาชนะเดวิด แต่เพื่อแสวงหาความภักดีจากชาวเยี่ยน!
ชัยชนะอาจเป็นเพียงผลพลอยได้
ไม่เช่นนั้นจะอธิบายเรื่องที่ฉู่ขวงไม่ตอบรับคำท้าประชันวรรณกรรมจากไป๋เจี๋ยว่าอย่างไร
‘โหดเกินนน!’
‘ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมฉู่ขวงถึงไม่ตอบรับคำท้าของไป๋เจี๋ย’
‘เพราะฉู่ขวงทำใจทำร้ายชาวเยี่ยนอีกครั้งไม่ได้ เขาไม่อยากล่วงเกินชาวเยี่ยน!’
‘พวกคุณคิดดูสิ ถ้าไป๋เจี๋ยแพ้ฉู่ขวง ชาวเยี่ยนจะเกลียดฉู่ขวงขนาดไหน’
‘ถ้าแม้แต่นักเขียนมือหนึ่งในวงการนิทานยาวยังแพ้ฉู่ขวง นั่นเท่ากับฉู่ขวงเพียงคนเดียวสามารถกำราบนิทานเยี่ยนโจวได้ทั้งวงการ ชาวเยี่ยนที่มีความรู้สึกถึงศักดิ์ศรีร่วมกันย่อมรู้สึกขุ่นเคืองฉู่ขวงเป็นธรรมดา’
‘ดูหลังจากเดวิดคว่ำไป๋เจียได้ ถูกชาวเยี่ยนเกลียดไปตั้งเท่าไหร่?’
‘การเดินหมากของฉู่ขวงในครั้งนี้ฉลาดตรงที่ปล่อยให้เดวิดเอาชนะไป๋เจี๋ยก่อน ให้เดวิดกลายเป็นวายร้าย จากนั้นตนเองก็สวมบทวีรบุรุษมาจัดการเดวิด เอาชนะใจชาวเยี่ยน!’
‘ก่อนหน้านี้ชาวเยี่ยนมองว่าฉู่ขวงเป็นหัวโจกวายร้าย’
‘ตอนนี้กลับกันอย่างสิ้นเชิง’
‘ต่อให้ชาวเยี่ยนจะรู้อยู่เต็มอก ก็จำเป็นต้องซาบซึ้ง เพราะพวกเขาขอความช่วยเหลือจากฉู่ขวงเอง!’
‘ครั้งนี้ ฉู่ขวงอยู่ในชั้นบรรยากาศ ไม่สิ น่าจะอยู่นอกโลกแล้ว!’
‘เดวิดใช้ไป๋เจี๋ย ฉู่ขวงก็ใช้เดวิด ร้ายมาร้ายกลับไม่โกง กลยุทธ์จักรพรรดิ!’
‘…’
ตั๊กแตนตำข้าวจับจักจั่น แต่มีนกขมิ้นตามอยู่ข้างหลัง!
หลังจากการวิเคราะห์นี้ บุคลากรในวงการนิทานแต่ละทวีปต่างรู้สึกว่าสมเหตุสมผล
เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ
บังเอิญจนทุกคนไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ
‘ฉู่ขวงจากฉินโจวฉายแววจักรพรรดิ’ ที่ชาวเยี่ยนตะโกนมาเนิ่นนานนั้นไม่เสียเปล่า
แผนการในครั้งนี้คือกำลังฉายแววจักรพรรดิไม่ผิดแน่!
……
ไม้กลายเป็นเรือแล้ว
ไม่ว่าโลกภายนอกจะตีความว่าอย่างไร ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงเรื่องยอดพรีเซลระเบิดของหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงได้
ในบรรดายอดพรีเซลที่โหมกระหน่ำนี้
ชาวเยี่ยนทำผลงานได้ดีที่สุด
หลังจากนั้น
ภาพที่ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงได้เกิดขึ้นแล้ว
เมื่อข่าวระบุว่า ยอดขายตำนานแห่งท้องทะเลทะลุ 10 ล้านเล่ม!
หลังจากนั้นมีข่าวตามมาว่า ยอดสั่งจองล่วงหน้าอลิซในแดนมหัศจรรย์ทะลุ 10 ล้านเล่ม!
เมื่อข่าวระบุว่า ยอดขายตำนานแห่งท้องทะเลทะลุ 20 ล้านเล่ม!
หลังจากนั้นมีข่าวตามมาว่า ยอดสั่งจองล่วงหน้าอลิซในแดนมหัศจรรย์ทะลุ 20 ล้านเล่ม!
หนึ่งคือยอดขาย…
อีกหนึ่งคือยอดสั่งจองล่วงหน้า…
ความเจ็บปวดอาจไม่มาก แต่ความอับอายกลับรุนแรง
เดวิดขายหนังสือได้มากมายถึงขนาดนี้ แต่กลับเทียบเท่ากับยอดพรีเซลของฉู่ขวงเท่านั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ
หนังสือของฉู่ขวงยังไม่ทันได้ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ ก็ตีเสมอยอดขายของเดวิดได้แล้ว!
เรื่องนี้ต้องรออลิซในแดนมหัศจรรย์เผยแพร่อย่างเป็นทางการ ดูว่าเดวิดจะเล่นอย่างไรต่อ
……
ผ่านไปหลายวัน
กล่าวให้ชัดคือ เป็นวันที่อลิซในแดนมหัศจรรย์วางแผงอย่างเป็นทางการ
วิลล่าแห่งหนึ่งในหานโจว
เดวิดเดือดดาล พ่นคำผรุสวาทออกมาอย่างเต็มที่ “เล่นบ้าเล่นบออะไรกันวะ คนพวกนี้ยังไม่ทันได้เห็นหนังสือก็กดสั่งจอง ตั้งใจทุ่มเงินให้ฉู่ขวงฟรีๆ เลยหรือไง?”
หนังสือเรื่องนี้ของฉู่ขวงยังไม่ได้ปล่อยออกมาแม้แต่ตัวอักษรเดียว ไม่เห็นอะไรเลยด้วยซ้ำไป แต่ทำยอดสั่งจองได้เกิน 10 ล้านเล่ม?
มีเหตุผลไหมล่ะ?
เล่นแบบนี้ก็ได้หรือ?
ผู้อ่านกวนประสาทเหล่านี้ยังไม่ทันได้เห็นเลยว่าอลิซหน้าตาเป็นยังไง ก็ถอดกางเกงซะแล้ว?
ไม่กลัวพลาดท่าหรือไง?
พวกคุณมั่นใจได้ยังไงว่าอลิซงามประหนึ่งนางฟ้า?
สถานการณ์เช่นนี้ไปไกลเกินกว่าขอบเขตความเข้าใจของเดวิดแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อนซึ่งอยู่ด้านข้างกลับมีสีหน้าแปลกพิลึก จากนั้นจึงเอ่ยเสียงเบาปลอบใจ “เกณฑ์ตัดสินผลแพ้ชนะในการประชันวรรณกรรมไม่ได้อยู่ที่ยอดขายแค่อย่างเดียว…”
“อืม ยอดขายเป็นแค่หนึ่งในเกณฑ์”
เดวิดพยักหน้า ก่อนจะกลอกตา “แต่เมื่อยอดขายมีแนวโน้มว่าจะเหนือกว่า นายคิดว่าเกณฑ์อื่นๆ จะยังสำคัญอยู่หรือ? ”
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือ อลิซในแดนมหัศจรรย์มียอดสั่งจองล้นหลาม แต่หลังจากวางจำหน่ายแล้วกลับเหลวแหลกไม่เป็นท่า
อย่างไรก็ เพื่อที่จะเอาชนะฉู่ขวง ตามเดวิดได้ศึกษาคู่แข่งอย่างลึกซึ้ง
ความเป็นไปได้ที่คำวิจารณ์ของผลงานของฉู่ขวงเหลวแหลกไม่เป็นท่า เท่ากับศูนย์
ในทางกลับกัน ผลงานของฉู่ขวง โดยพื้นฐานแล้วได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมาก
อย่างไรก็ตาม…
เดวิดไม่ได้ถอดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน