Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 630

สะเทือนลั่น!

เลือดเดือดพล่าน!

นี่คือบทพูดที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่หลี่เจิ้งฮุยเคยอ่านมาในบรรดาโดจินบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!

เมื่อเผชิญหน้ากับบทพูดนี้ หลี่เจิ้งฮุยเริ่มตัวสั่นเทิ้ม!

ตัวละครถังซำจั๋ง หรือจะเรียกว่าจินฉานจื่อโดดเด่นขึ้นมาในฉับพลัน เขาสัมผัสได้ถึง ‘จิตวิญญาณ’ ของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!

องอาจห้าวหาญ!

หัวขบถดื้อรั้น!

ทำลายล้างทุกสิ่ง!

เนื้อเรื่องช่วงแรกดูเหมือนไร้สาระและไร้แก่นสาร แทบจะเปลี่ยนนิสัยของตัวละครอาจารย์และลูกศิษย์ในต้นฉบับจนจำไม่ได้ แต่จู่ๆ บทในช่วงนี้ก็เปิดเผยให้เห็นถึงสารัตถะของนิยายได้ชัดเจน

นี่คือบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเช่นกัน!

นี่ก็คือบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!

เพียงแต่ผู้อ่านใช้วิธีเขียนซึ่งเกินจริง ทว่าแท้จริงแล้วละเอียดอ่อน เพื่อให้สอดคล้องกับจิตวิญญาณของต้นฉบับอย่างใกล้ชิด!

ในเวลานี้ เจตนารมณ์ของอี้อันได้ถูกเปิดเผยต่อหน้าหลี่เจิ้งฮุยอย่างชัดเจน

ซุนหงอคงกำลังต่อต้านสวรรค์!

และจินฉานจื่อกำลังต่อต้านพระยูไล!

พวกเขาล้วนเกิดมาหัวขบถ!

แน่นอน

อย่าลืมว่านี่คือตำนานหงอคง

เรื่องราวของตัวละครหงอคง ยังเกิดขึ้นในเส้นเวลาอื่นด้วย

วานรตัวนี้ ในที่สุดก็ได้ออกเดินตามเส้นทางแห่งโชคชะตาของมันเอง….

นี่คือความกล้าหาญปานประหนึ่งถูกลิขิตไว้ก่อนออกเดินทางสู่ประจิมทิศ!

“ต้าเซิ่งจะไปที่ใดฤา”

“เหยียบนภาทิศใต้ ย่ำตำหนักหลิงเซียว”

“หากไปแล้วไม่อาจกลับมา?”

“เช่นนั้นก็ไม่ต้องกลับมา”

นับตั้งแต่ซำจั๋งเผชิญหน้ากับพุทธองค์ หลี่เจิ้งฮุยก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัว

เมื่อถึงเวลาที่เจตนาอันลุกโชนในการต่อต้านสวรรค์ของซุนหงอคงเปิดเผยออกมา หลี่เจิ้งฮุยก็ตบโต๊ะเอ่ยปากชมเปาะแล้ว!

“ดี!”

หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ!

จินวิญญาณแห่งบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศกำลังลุกโชติช่วง!

หากไปแล้วไม่อาจกลับมา? เช่นนั้นก็ไม่ต้องกลับมา!

แม้เขาจะพ่ายแพ้ขึ้นมาจริงๆ ก็เป็นได้เพียงความเงียบงันในชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น!

เขาได้กลายเป็นเซียน รับตำแหน่งปี้หม่าเวิน[1]บนสวรรค์ ทั้งยังได้พบกับแม่นางนามว่าจื่อสยา

จื่อสยากล่าว “บางทีทุกคนล้วนมีวังสวรรค์อยู่ในใจ มีชิ้นส่วนของความมืดมน ในส่วนลึกของความมืดมนมีผืนน้ำซึ่งสะท้อนเงาในจิตใจ จิตวิญญาณพำนักอยู่ที่นั่น แต่เมื่อบุคคลใดตัดสินใจเป็นเทพ ย่อมต้องละทิ้งสิ่งเหล่านี้ เขาต้องทำให้ไม่มีสิ่งใดบนผิวน้ำ มองไม่เห็นสิ่งใด และในช่วงเวลาอันเงียบงัน เขาจะกลายเป็นเซียน ทว่าในหัวใจนั้นว่างเปล่า รสชาติของมันเป็นเช่นใดเล่า”

จื่อสยาเป็นเทพธิดาที่ประหลาดเหลือเกิน

จื่อสยายังบอกอีกว่านางอยากไปดูเขาฮวากั่ว

นางจินตนาการว่าเขาฮวากั่วนั้นงดงามยิ่งนัก ซุนหงอคงก็บอกเล่าให้นางฟังเช่นนั้น

แต่เมื่อจื่อสยาได้เห็นเขาฮวากั่วจริงๆ จึงได้รู้ว่าซุนหงอคงโกหก

เขาฮวากั่วไม่ได้งดงามเลยสักนิด

ภูเขาถูกปกคลุมไปด้วยดินอันไหม้เกรียม ต้นไม้ซึ่งถูกเผาจนดำเมี่ยมแลดูประหนึ่งกรงเล็บอันดุร้ายซึ่งยื่นออกมาจากพื้นดิน หมอกดำหนาทึบปกคลุมทั้งพื้นที่ จนดวงตะวันถูกบดบัง

ภูเขาซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับสุสานนั้นไร้ชีวิตชีวา มีเพียงนกประหลาดแผดเสียงแหลมราวกับภูตผีกำลังกรีดร้อง

หากจะบอกว่านี่คือเขาฮวากั่ว ไม่สู้บอกว่านั่นคือนรกเห็นจะเหมาะกว่า

“เหตุใดเจ้าต้องหลอกข้าด้วย”

“เจ้าบอกว่าข้าหลอกเจ้า เช่นนั้นข้าก็หลอกเจ้า”

หลี่เจิ้งฮุยรู้สึกเศร้า

เขาคล้ายกับจะเข้าใจความจนใจของซุนหงอคง

บางทีนี่อาจเป็นบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศที่แท้จริงก็ได้

งานต้นฉบับมองข้ามสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาฮวากั่ว ราวกับเขาฮวากั่วไม่ได้รับความเสียหาย

ทว่าเมื่อลองคิดดูสักนิด ซุนหงอคงทำสงครามกับกองทัพขุนพลสวรรค์นับเรือนแสน เขาฮวากั่วจะปลอดภัยได้อย่างไร?

ความจริงคือที่นี่กลายเป็นผืนดินอันไหม้เกรียม แปรเปลี่ยนเป็นขุมนรกซึ่งสุนัขป่าเห่าหอนและภูตผีกรีดร้อง

ในขณะนี้ หลี่เจิ้งฮุยรู้สึกสงสารวานรตัวนี้

ซุนหงอคงยอมจำนนแล้วหรือ?

เขาคล้ายกับยอมจำนน แต่ก็คล้ายกับไม่ยอมจำนน

จื่อสยากล่าวว่า เทพเซียนไม่ได้มีความละโมบและชั่วร้ายมากเฉกเช่นปีศาจ

แต่ซุนหงอคงกลับถามว่า “หากเทพเซียนไม่ละโมบ ไฉนจึงไม่อาจทนต่อคำสบประมาทบนโลกโลกีย์ได้แม้แต่น้อย หากเทพเซียนไม่ชั่วร้าย ไฉนจึงต้องกุมชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตนับหมื่นแสนบนโลกไว้ในมือด้วยเล่า”

หลี่เจิ้งฮุยกำหมัดแน่น!

นั่นสิ ปีศาจในบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศล้วนแต่มีผู้อยู่เบื้องหลัง ส่วนปีศาจที่ไม่มีผู้อยู่เบื้องหลังต่างถูกซุนหงอคงสังหารไปหมดแล้ว

เทพเซียนสูงส่งอย่างที่กล่าวอ้างจริงหรือ?

ในตอนนี้หลี่เจิ้งฮุยก็รู้สึกแบบเดียวกัน!

ท้ายที่สุดแล้ว ซุนหงอคงยังไม่ยอมจำนน!

ไม่เป็นที่ต้อนรับในสวนท้อสวรรค์ เป็นเพียงหนึ่งในชนวนซึ่งทำให้ซุนหงอคงอาละวาดวังสวรรค์

อันที่จริง ต้นตอที่แท้จริงนั้นสามารถสืบย้อนไปถึงความแตกต่างที่โดยเนื้อแท้ของเทพเซียนและภูตผีปีศาจ

ในงานเลี้ยงท้อสวรรค์

เพียงแค่อาเหยาเก็บผลท้อที่เล็กเกินไป ก็ถูกพระแม่หวังหมู่ขับไล่ไปยังโลกโลกีย์

อาเยวี่ยอ้อนวอนแทนอาเหยา แต่ก็ไม่มีใครสนใจ

เทียนเผิงปรากฏตัว

เขาอุ้มอาเยวี่ย ก่อนจะเดินออกไปจากวังสวรรค์ราวกับไม่เห็นผู้คนโดยรอบ ในขณะนั้นเหล่าเทพเซียนล้วนตกตะลึง!

“นี่มันตือโป๊ยก่ายคนนั้นจริงหรือ?”

หลี่เจิ้งฮุยรู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเขาชักจะเดือดพล่านขึ้นมา!

ใช่แล้ว!

ตือโป๊ยก่ายคืออดีตแม่ทัพเทียนเผิง!

ทำไมเขาถึงได้กลายเป็นหมูได้ล่ะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน