Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 690

สรุปบท ตอนที่ 690 เสียงหัวเข่าแตกร้าว: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอน ตอนที่ 690 เสียงหัวเข่าแตกร้าว จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 690 เสียงหัวเข่าแตกร้าว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 690 เสียงหัวเข่าแตกร้าว

“คำร้อง: เซี่ยนอวี๋”

“ทำนอง: เซี่ยนอวี๋”

“เรียบเรียง: เซี่ยนอวี๋”

“ขับร้อง: เซี่ยนอวี๋”

เมื่อข้อความซึ่งเป็นข้อมูลของเพลงนี้ และการรับเหมา ‘สไตล์เซี่ยนอวี๋’ อันคุ้นเคยปรากฏขึ้น สวีเทาค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ

ในออฟฟิศมีแสงสลัว

ทำนองอินโทรของบทเพลงดังขึ้นอย่างราบเรียบ

ในกล่องดนตรีที่ไพเราะรื่นหู สอดประสานด้วยเสียงไวโอลิน

เสียงเชลโลลึกลับปรากฏขึ้นซ้ำๆ เป็นระยะโดยไม่สอดคล้องกัน ทำให้เกิดบรรยากาศตึงเครียดแผ่ขยายออกไปอย่างบางเบา ตามมาด้วยเสียงเครื่องพิมพ์ดีดซึ่งเป็นระเบียบทว่าสับสน ตามมาด้วยเสียงร้องของเพลงอย่างเป็นทางการ

“12 ธันวา 1893 อากาศแจ่มใสในตรอก

รัตติกาลบทที่เจ็ด แต่ละบรรทัดถ่ายทอดบนเครื่องพิมพ์ดีดมุ่งสู่ความจริง

หมู่ควันพวยพุ่งจากไปป์ไม้บรายร์ ลอยไปยังแมกไม้ใกล้ตาย ในเสียงเงียบงันกลับโหยไห้

วงเวียนข้างถนนเบเกอร์

ตราเฟลอร์เดอลีทอประกาย บนแขนชุดเกราะอัศวิน

ยามราตรีมาเยือน เสียงรถม้าว่างเปล่าได้ยลยิน

…”

ท่อนเวิร์สเริ่มต้นประโชคแรก ดวงตาซึ่งปิดลงของสวีเทาเบิกกว้างขึ้นทันใด แววตาเปี่ยมไปไปด้วยความตกตะลึงและประหลาดใจ!

แร็ปหรือ?

เป็นจังหวะที่แข็งแรง

ไม่มีความหย่อนยานแม้แต่น้อย

นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เซี่ยนอวี๋เล่นเพลงแร็ปล่ะมั้ง?

ไม่ใช่!

นี่ไม่ใช่เพลงแร็ปล้วนๆ …

การแร็ปโดยส่วนมากล้วนไม่เปลี่ยนโทนเสียงโดยรวม

แต่การแร็ปของเซี่ยนอวี๋ เห็นได้ชัดว่ามีพื้นฐานมาจากทำนองเพลงท่อนหนึ่ง รวมกับเนื้อเพลงปริมาณมากเกินไป ส่งผลให้แต่ละคำของเนื้อเพลงกินเวลาน้อยมาก และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของถ้อยคำ

เท่าที่ฟังมา เพลงนี้ไม่มีความรุนแรงแข็งกร้าว แต่กลับนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ

“สมแล้วที่เป็นราชาหน้ากากนักร้องผู้บุกเอาชนะนักร้องชั้นนำได้”

สวีเทานึกอย่างสะท้อนใจ

ที่ผ่านมาเขาคิดมาตลอดว่าควรใช้ดนตรีประเภทไหนประกอบกับเรื่องราวของโฮล์มส์

ตอนนี้เซี่ยนอวี๋ให้คำตอบแล้ว

เขาเขียนเพลงแร็ปซึ่งมีความเร็วสูงมาก และเขาได้แสดงให้เห็นถึงทักษะการร้องเพลงรอบด้านของตนเองอีกครั้ง!

สวีเทาไม่รู้เลยว่านี่คือสไตล์ ‘แร็ปสกุลโจว’ ซึ่งมีเพียงรูปแบบเดียวบนโลก

ในโสตประสาท

เสียงยังคงดังต่อไป

“ความชั่วร้ายใต้แสงจันทร์วิกตอเรียนเปิดฉากนองเลือด

ปืนพกอันตรธาน ไม้เท้าเกรียมไหม้ ตุ๊กตาเทียนไขหลอมละลาย ผู้ใดมีคำกล่าวอ้าง

ความขัดแย้งอันลวงตาของสัญลักษณ์บนกล่องสมบัตินำไปสู่ทางตันที่เขาปูทาง

หลักฐานถูกฝังกลบ

มุมปากยกยิ้มเยาะสก็อตแลนด์ยาร์ด

…”

เมื่อเบนความสนใจจากการแร็ปมายังเนื้อเพลงอีกครั้ง สีหน้าของสวีเทาก็ปรากฏความตื่นตะลึงมากขึ้นเรื่อยๆ !

เนื้อเพลงนี้!

“เวลาในประโยคแรกคือช่วงเวลาที่วัตสันเสียชีวิต ส่วนเนื้อเพลงท่อนต่อมาอ้างอิงถึงฉากในตอนคู่หมั้นจำแลงซึ่งโฮล์มส์อนุมานว่าวินดิแบงก์คือแองเจิลผ่านตัวอักษรที่ขาดหายไปบนเครื่องพิมพ์ดีด ไปป์ไม้บรายร์คืออุปกรณ์ที่ปกติแล้วโฮล์มส์ใช้สูบบุหรี่”

ความตกใจค่อยๆ แผ่ขยายไปทั้งใบหน้าของเขา!

สวีเทามองเห็นรายละเอียดมากขึ้น!

เนื้อเพลงช่วง ‘ลอยไปยังแมกไม้ใกล้ตาย’ สื่อถึงต้นเอล์มเก่าแก่ซึ่งถูกฟ้าฝ่าในคฤหาสน์มัสเกรฟจากคดีตอนพิธีกรรมมัสเกรฟ

จากการวัดระยะของต้นไม้ โฮล์มส์ค้นพบชิ้นส่วนของมงกุฎที่หายไป

นอกจากนั้นยังมี ‘เปิดฉากนองเลือด’ ซึ่งมาจากคดีแรกที่โฮล์มส์และวัตสันร่วมมือกันอย่างปริศนาคดีสีเลือด ทั้งสองพบกันเป็นครั้งแรกเมื่อทั้งโฮล์มทดลองการตกตะกอนของโปรตีนในเลือด

ไม่เพียงเท่านี้!

ยกตัวอย่างเช่น ‘ตุ๊กตาเทียนไขหลอมละลาย ผู้ใดมีคำกล่าวอ้าง’ สื่อถึงตอนบ้านร้าง!

หรือ ‘กล่องสมบัติ ความขัดแย้งอันลวงตาของสัญลักษณ์’ นั้นสื่อถึงตอนสัญลักษณ์ทั้งสี่!

ยกตัวอย่างเช่น

สวีเทาตกใจจนสะดุ้งโหยง!

เพลงนี้ยอดเยี่ยมมาก!

ในฉากมีเรื่องราว

ในเรื่องราวมีบทเพลง

กลิ่นอายคลาสสิกและเครื่องดนตรีสมัยใหม่เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แร็ปและเบลคานโต

ความหนาวเหน็บในความว่างเปล่า

เครื่องสายอย่างไวโอลิน บันไดเสียงไมเนอร์ให้โหยหวนราวกับกำลังหลอกหลอน คำภาวนาอันศักดิ์และเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ ปลุกเร้าอารมณ์ตามใจปรารถนา!

ในเวลานี้

เพลงนี้เล่นมาเป็นเวลาสามนาทีแล้ว

จังหวะหยุดลงชั่วครู่ ทันใดนั้นเสียงเปียโนก็ดังขึ้นราวฝนกระหน่ำ!

การเรียงคอร์ดจากสูงไปต่ำ ผลักดันให้บทเพลงแตะถึงจุดไคลแม็กซ์ เป็นท่อนคอรัสเหมือนกัน แต่ในครั้งนี้กลายเป็นเสียงของเซี่ยนอวี๋เอง ทั้งยังเป็นเสียงฟอลเซตโตอันโลดโผนและเปี่ยมอารมณ์

“หากความชั่วคือบทเพลงอันเหี้ยมโหดและงดงาม มือของฉันจะลิขิตฉากอวสาน…”

ราวกับเนื้อเพลงและความหมายซึ่งถ่ายทอดออกมานั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกว่าความเป็นจริง ช่วงเวลา และสถานที่ของบทเพลงมาบรรจบกันอย่างกะทันหัน

เจียงขุยเป็นผู้ขับร้องท่อนคอรัสก่อนหน้านี้

นี่เป็นครั้งแรกในทั้งบทเพลงที่เซี่ยนอวี๋ควบคุมท่อนคอรัสด้วยตัวเอง!

หลังจากท่อนคอรัสถูกขับร้องด้วยเสียงผู้หญิงหลายท่อนต่อเนื่อง เซี่ยนอวี๋จึงลิขิตฉากอวสานของเพลงนี้โดยการเพิ่มอ็อกเทฟ!

การบรรเลงเครื่องสายและเปียโนส่งผลให้บรรยากาศแตะถึงจุดสูงสุด!

ท้ายที่สุด

ทุกส่งกลับคืนสู่ความสงบด้วยเสียงดีดไวโอลิน

สวีเทานั่งนิ่งทั้งที่ยังสวมหูฟัง

ในห้องอันมืดมิดเหลือเพียงเสียงสงัด

ราวกับให้ความรู้สึกของพิธีกรรมอันลึกลับ

ในขณะนี้

เข็มนาฬิกาเคลื่อนบอกเวลาเที่ยงคืนตรง

เมื่อระฆังของวันที่ 1 มิถุนายนดังขึ้นอย่างเป็นทางการ รัตติกาลบทที่เจ็ดจึงได้รับการเผยแพร่อย่างเป็นทางการผ่านทุกแพล็ตฟอร์มฟังเพลงรายใหญ่!

แฟนๆ ทุกคนซึ่งเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนคลับของโฮล์มส์ ล้วนคลิกเข้าฟังเพลงอย่างอดใจรอไม่ไหว

และหลังจากนั้น

ก็ตามมาด้วยเสียงของหัวเข่าที่แตกร้าว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน